'เอตด้า' ระดมสมองร่วมกำหนดทิศทาง หนุนผู้ให้บริการ 'แพลตฟอร์มดิจิทัล'

'เอตด้า' ระดมสมองร่วมกำหนดทิศทาง หนุนผู้ให้บริการ 'แพลตฟอร์มดิจิทัล'

'เอตด้า' ชวน แพลตฟอร์มดิจิทัล-หน่วยงานรัฐ แลกเปลี่ยนความเห็น แชร์ปัญหา ข้อเสนอแนะ ร่วมกำหนดทิศทางการกำกับดูแลที่เหมาะสม สร้างความน่าเชื่อถือแก่ผู้ใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับ Digital Service Platform

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอตด้า) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จัดประชุม "รับฟังความคิดเห็นจากผู้ให้บริการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ Digital Service Platform" เพื่อให้กลุ่มผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของ Digital Service มาร่วมระดมสมองเพื่อกำหนดทิศทางการกำกับดูแลและ การส่งเสริม สนับสนุนผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ในรูปแบบการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Focus group)  

161357072019

นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA  เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ได้กระตุ้นให้แพลตฟอร์มดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์ม e-Commerce , Sharing Economy, Streaming ได้รับความนิยมและมีความสำคัญกับชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น อีกทั้งแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังมีผู้เกี่ยวข้องหลายมิติ  ไม่ว่าจะเป็น ผู้บริโภค ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม ผู้ประกอบการ ผู้ค้ารายย่อย เป็นต้น ดังนั้น การสร้างระบบนิเวศน์ (ecosystem) การทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลให้มีความมั่นคงปลอดภัย น่าเชื่อถือ ลดความเสี่ยงและปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้บริการ

ภายใต้มาตรฐานหรือแนวทางการกำกับดูแลที่เหมาะสม เป็นอีกภารกิจสำคัญที่ ETDA ในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (คธอ.) ต้องเร่งขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น โดยที่ผ่านมาได้มีการศึกษา Business Model ของธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลของภาคเอกชนเหล่านี้ว่า ปัจจุบันให้บริการกันอย่างไร รวมถึงศึกษาแนวทางในการกำกับดูแลของต่างประเทศ เช่น สหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจในธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล รับทราบปัญหาและความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการให้บริการ เพื่อให้สามารถนำไปกำหนดแนวทางในการดูแล สนับสนุนได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ก่อให้เกิดภาระอันเกินสมควรกับผู้ประกอบการ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของธุรกิจ เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ และส่งผลต่อผู้บริโภค ETDA จึงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ (Focus group) ครั้งนี้ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลใน 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย e-Commerce, Sharing economy, Streaming platform ได้มาร่วมสะท้อนปัญหา (pain points) ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการหรือข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ ความเสี่ยงที่เกิดจากการให้บริการในมิติต่างๆ รวมถึงความต้องการความช่วยเหลือหรือการสนับสนุนจากภาครัฐและ ETDA

นอกจากนี้ยังได้เชิญหน่วยงานภาครัฐที่ทำหน้าที่กำกับดูแลหรือเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจของผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล มาร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล แชร์ประสบการณ์ว่า แต่ละหน่วยงานมีความเกี่ยวข้องในมิติใดบ้าง ทั้งมิติการส่งเสริม การกำกับดูแล และในธุรกิจเหล่านั้นมีความเสี่ยงอย่างไร มีเรื่องร้องเรียนจากประชาชนหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องใด มีบริบทใดที่ยังคงมีความเสี่ยงในขณะที่  กฎหมายยังครอบคลุมไปไม่ถึงอย่างเต็มที่ โดยการประชุมแบ่งออกเป็น 2 รอบ รอบแรกช่วงเช้า (08.30-12.00 น.) เป็นการรับฟังความเห็นจากกลุ่มผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล และรอบ 2 ช่วงบ่าย (13.00-16.30 น.) เป็นกลุ่มหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานกำกับดูแล

161357073692

ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นนี้ จะถูกรวบรวม นำไปวิเคราะห์ เพื่อศึกษาดูว่า มีผู้ให้บริการธุรกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลใดบ้างที่มีความพร้อมในการกำกับดูแลตัวเอง (self-regulation) หรือมีกลุ่มใดบ้างที่มีผลกระทบหรือความเสี่ยงที่จะต้องแจ้งข้อมูล ขึ้นทะเบียน หรือต้องขออนุญาตกับ ETDA ตามที่ พ.ร.บ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 32 ได้กำหนดไว้

นอกจากนี้ จะมีการจัดทำแนวทางในการกำกับดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อนำไปรับฟังความคิดเห็นจากผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกลุ่มเดิมที่ได้เชิญมาร่วมให้ข้อคิดเห็นในครั้งแรก ในช่วงเดือนมีนาคม 2564 เพื่อให้ได้แนวทางในการกำกับดูแลผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เหมาะสม ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (คธอ.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบ และเข้าสู่กระบวนการจัดทำร่างกฎหมาย ในลำดับถัดไป

"สำหรับ ETDA แล้ว มุ่งหวังว่า การกำหนดแนวทางการกำกับดูแลจะต้องเป็นไปในลักษณะ win-win model ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้อง (Stakeholders) ทุกฝ่าย ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการกำหนดกฎเกณฑ์ แนวทางดังกล่าว เพื่อร่วมกันสร้าง ecosystem ของธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลไทยให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้บริการรวมถึงนานาประเทศ จนกลายเป็นศูนย์กลางของเอเชียในอนาคต" นายชัยชนะ กล่าวทิ้งท้าย