เปิดวิชั่นแม่ทัพใหญ่ ‘วีเอสที อีซีเอส’ เกมชิงผู้นำ ‘ดิสทริบิวเตอร์’ ไอที
วีเอสที อีซีเอส จัดทัพ เปิดเกมรุกปลุกตลาดไอทีไทย ท่ามกลางปัจจัยลบ ชี้แม้การบริโภคสินค้า บริการดิจิทัลจะขยายตัวเพิ่ม แต่ปัญหาเศรษฐกิจ ซัพพลายฯขาด ยังต้องลุ้น
สำหรับวีเอสทีอีซีเอส แนวทางธุรกิจยังคงวางตำแหน่งเป็น “ดิสทริบิวเตอร์” สินค้าไอที ปีนี้เน้นขยายตลาดพร้อมสร้างการเติบโตให้ฐานธุรกิจเดิมกลุ่มคอนซูเมอร์ คอมเมอร์เชียล และเอ็นเตอร์ไพรซ์ จุดต่างของวีเอสที อีซีเอสคือ เป็นดิสทริบิวเตอร์ที่มีสินค้าครอบคลุมมากที่สุดในตลาด
นอกจากนี้ เพิ่มไลน์อัพสินค้าใหม่ๆ กลุ่มโทรศัพท์มือถือ โดยจะเน้นเครื่องระดับล่างราคาไม่แพงเพื่อบุกตลาดต่างจังหวัด รวมไปถึงเสริมสินค้ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าว่าปีนี้จะทำยอดขายได้ไม่น้อยกว่า 6-8 พันคัน
เขากล่าวว่า การทำตลาดมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเน้นจับตลาดบีทูบีและการขายหน้าร้านผ่านตัวแทน อนาคตจะสร้างจุดต่างด้วยโซลูชั่นไอโอทีและบริการหลังการขายที่ทำให้ผู้บริโภคได้รับความสะดวก ภายใน 5 ปีนี้หากตลาดไม่แข่งขันกันดุเดือดมากเกินไปคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ 10% ของตลาดรวม 1.4 ล้านคัน หรือมียอดขายประมาณ 1 แสนคันต่อปี
ปรับโครงการ รับตลาดเปลี่ยน
สมศักดิ์เผยว่า การสร้างความอยู่รอดในธุรกิจไอทีจำเป็นต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา บริษัทเองมีการปรับโครงสร้างและการทำงานภายในมาอย่างต่อเนื่อง หลักๆ เน้นดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น และบิสิเนสอินทิลิเจนซ์ ปีหน้ามีแผนนำเทคโนโลยีเอไอและบิ๊กดาต้าเข้าไปช่วยยกระดับการทำงาน
กลยุทธ์ของบริษัทให้ความสำคัญกับการเพิ่มบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ สร้างความใกล้ชิดลูกค้า มีการกระจายอำนาจการบริหารในแต่ละหน่วยธุรกิจ มากกว่านั้นพยายามหาช่องทางการทำรายได้ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
“เรามีพันธมิตรดีลเลอร์ทั่วประเทศ 5,500 ราย ที่แอคทีฟมีอยู่กว่า 3,500 ราย มีแบรนด์ในมือกว่า 50 แบรนด์ แนวการทำงานของเราเป็นแบบเชิงรุก พยายามหาลูกค้า สินค้า โอกาสการเติบโตใหม่ๆ เพื่อปูทางสร้างการเติบโตในระยะยาว”
ปีที่ผ่านมาฝ่ายโซลูชั่นมีการเติบโตสูงที่สุดเมื่อเทียบกับหน่วยธุรกิจอื่นๆ ส่วนคลาวด์โตกว่าเดิม 100% เพราะไมโครซอฟท์มีการเปลี่ยนโมเดลการขาย พยายามให้พาร์ทเนอร์ขายบนคลาวด์มากขึ้น ซึ่งส่งผลทำให้ราคาถูกกว่าเดิม ลูกค้ามีการซื้อต่อเนื่องทุกปี
ขณะที่ภาครัฐมีการลงทุนมากขึ้นเช่นกัน จากการแพร่ระบาดของแรนซัมแวร์ได้เพิ่มอานิสงส์ทำให้สามารถขายโซลูชั่นประเภทไฟร์วอลล์ซิเคียวริตี้ได้มากขึ้น ขณะที่ภาคเอกชนการมาของ 5จี ผลักดันให้มีการลงทุนที่มากขึ้นในกลุ่มลูกค้าโทรคมนาคม ธุรกิจการเงินขยายการลงทุนรองรับการทำธุรกรรมผ่านโทรศัพท์มือถือ หลายองค์กรให้ความสำคัญกับการเพิ่มความสามารถด้านไอที เครือข่าย และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ แต่ทั้งนี้ยังมีปัญหาที่ท้าทายคือซัพพลายที่ขาดตลาดยังไม่กลับมาสู่ภาวะปกติ
ตั้งเป้าเติบโต ‘ทุกเซ็กเมนท์’
ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากกลุ่มคอนซูเมอร์ 33% คอมเมอร์เชียล 33% เอ็นเตอร์ไพรซ์ 28% ที่เหลือมาจากโทรศัพท์และไลฟ์สไตล์แต่ยังน้อยมากไม่ถึง 2%
บริษัทตั้งเป้าว่า จากปี 2563 ที่มีรายได้ 27,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 8% ปี 2564 จะเติบโตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% หรือมีรายได้ 31,500 ล้านบาท ปัจจุบันวีเอสทีอีซีเอสสามารถครองอันดับ 1 ดิสทริบิวเตอร์กลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์ไอทีในทุกแบรนด์ สัดส่วนรายได้มาจากกทม. 70% ต่างจังหวัด 30%
“ปีนี้เราคาดว่าจะเติบโตได้ในทุกเซ็กเมนท์ โดยการเติบโตจะมาจากทั้งฐานตลาดเดิมที่ขยายขึ้นและการเข้าไปกินส่วนแบ่งการตลาดของรายอื่น รวมไปถึงการขยายธุรกิจโทรศัพท์มือถือซึ่งหวังไว้ว่าปีนี้จะเติบโตอีก 5 เท่า ที่ผ่านมากลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์สามารถโตได้ 20% ทุกปี คอมเมอร์เชียล 10% และคอนซูเมอร์มากกว่า 5%”
สำหรับสถานการณ์ในตลาดพม่านั้นยังคงไม่แน่นอน และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การเข้าไปทำตลาดมีอุปสรรค หากคำสั่งซื้อใดที่ไม่สามารถโอนเงินมาที่ไทยได้ต้องขอระงับไว้ก่อน