‘TikTok’ เทรนด์เซ็ตเตอร์ ‘ดิจิทัลไลฟ์สไตล์’ คนรุ่นใหม่

เดินหน้าเสริมแกร่งอีโคซิสเต็ม

ข้อมูลโดย StreamElement เผยว่า ปีที่ผ่านมาไลฟ์สตรีมมิงได้รับความนิยมมากขึ้น โดยพบว่าคอนเทนท์ประเภทไลฟ์สตรีมมิงมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าคอนเทนท์วีดิโอกำลังเข้ามาช่วงชิงเวลาของกลุ่มผู้ชมในโลกออนไลน์

สำหรับ TikTok ทิศทางธุรกิจปี 2564 เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งอีโคซิสเต็มเพื่อสร้างการเติบโต โดยมีผู้ใช้และครีเอเตอร์เป็นหัวใจสำคัญ พร้อมขยายตลาดสู่กลุ่มนักการตลาดและนักโฆษณาเพื่อทำให้อีโคซิเต็มเติบโต ต่อยอดความสำเร็จในไทยทั้งด้านผู้ใช้ ความหลากหลายของคอนเทนท์ และชุมชมครีเอเตอร์ เพื่อขยายฐานผู้ใช้งานในประเทศไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ผ่าน 3 กลยุทธ์ คือ การสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้ การยกระดับคอนเทนท์บนแพลตฟอร์ม และการพัฒนาความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์กับพันธมิตร หลังจากนี้จะขยายเวลาของเวลาเพิ่มเป็นสูงสุด 3 นาที เพื่อตอบโจทย์การใช้งานเชิงสร้างสรรค์ ทำให้ผู้บริโภคสนุกได้มากกว่าเดิม

ปี 2564 เป็นช่วงเวลาที่ผู้ใช้และครีเอเตอร์มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในทุกมิติ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของกลุ่มผู้ใช้งานอายุ 18-34 ปี ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า 50% ของจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมดในไทย ทั้งพบว่าคอนเทนท์มีความหลากหลายมากขึ้นอย่างมาก คอนเทนท์ด้านบันเทิงและสาระความรู้มีการเติบโตและได้รับความนิยมมากขึ้น สามารถสร้างกระแส เกิดเป็นไวรัล และมีส่วนทำให้ครีเอเตอร์ดาวรุ่งหน้าใหม่จำนวนมากแจ้งเกิด

ติดปีกนักการตลาด-โฆษณา

สิรินิธิ์ วิรยศิริ หัวหน้าฝ่ายการตลาดธุรกิจ TikTok กล่าวเสริมว่า ปีนี้มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนนักการตลาดและนักโฆษณาในทุกมิติ ภายใต้แนวคิด “Moving beyond Reach to Relevance”

ทั้งนี้ ผ่าน 3 กลยุทธ์ คือ การนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและเครื่องมือเพื่อเป็นประโยชน์กับนักการตลาด, การสนับสนุนและสร้างการเติบโตให้กับเอสเอ็มอี และการสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมครีเอทีฟ ด้านโมเดลรายได้ของบริษัทยังมาจากการโฆษณาเป็นหลัก

“ไม่ใช่เพียงแค่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่มีความสนใจและเกี่ยวข้องกับแบรนด์ เพื่อให้เกิดการมีปฏิสัมพันธ์ที่มีความหมายกับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ต่างๆ จุดต่างของเราคือความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การสร้างการรับรู้ และการเข้าถึงความสนใจได้อย่างตรงจุด”

ที่ผ่านมามีแบรนด์และธุรกิจจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ประสบความสำเร็จจากการใช้บริการ นอกจากจะได้รับการตอบรับที่ดีแล้วบางแบรนด์สามารถลดต้นทุนต่อการคลิกโฆษณา (CPC) กว่า 40% แต่อัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR) สูงขึ้นถึง 18% และทำให้มีผู้เข้ามาซื้อสินค้าทางช่องทางอีคอมเมิร์ซของแบรนด์เพิ่มสูงขึ้นถึง 9 เท่า