‘Wi-Fi 6’ มาแรงไม่แพ้ 5จี รับเมกะเทรนด์ดิจิทัลระดับโลก
หัวเว่ย เผย Wi Fi อีกหนึ่งเทคโนโลยีเครือข่ายที่จะมาแรงไม่แพ้ 5จี จากการเชื่อมต่อที่ใกล้ตัวกับคนทั่วไปมากที่สุด คาดการณ์ว่า อินเทอร์เน็ตในครัวเรือนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ “Wi-Fi 6” อย่างเต็มตัว
ขณะเดียวกันเมื่อโลกต้องเผชิญหน้ากับภาวะโรคระบาดในปี 2563 ระบบโครงข่ายภายในบ้านจึงจำเป็นต้องรองรับความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในระยะเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะเป็นจากการ เวิร์ค ฟรอม โฮม การเรียนออนไลน์ หรือการใช้งานด้านอื่นในยามว่าง เรียกว่า เทคโนโลยีเครือข่ายภายในบ้านเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กิจกรรมต่างๆ ดำเนินต่อไปได้ในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องกักตัวอยู่บ้าน และจะเข้ามาเป็นส่วนสำคัญฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะยาวเช่นกัน
เทคโนโลยีเครือข่ายภายในบ้านได้แปรเปลี่ยนจากแบบใช้สาย มาเป็นแบบไร้สายเมื่อมือถือมีความนิยมมากขึ้น เทคโนโลยี Wi-Fi ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันคือ Wi-Fi 6 ซึ่งถูกปรับปรุงการเชื่อมต่อให้ตรงประสบการณ์ผู้ใช้ ทั้งความเร็ว สัญญาณที่ครอบคลุม และการลดความหน่วง (Latency) ทั้งยังมีแบนด์วิธสูงสุด และทันสมัยที่สุดสำหรับกลุ่มเทคโนโลยี Wi-Fi ที่มีในปัจจุบัน สามารถให้บริการในช่วงแบนด์วิธที่สูงถึง 160 MHz ทำให้ใช้ทรัพยากรช่องความถี่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้เทคโนโลยี Wi-Fi 6 ซึ่งจะกลายเป็นพื้นฐานการพัฒนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตบ้านได้ในระยะถัดไป ยังทำให้ผู้ใช้เข้าถึงความเร็วได้มากกว่า 1 Gbps และผู้ให้บริการสามารถมอบประสบการณ์ Wi-Fi ระดับ กิกะบิต ให้ผู้ใช้งานทั่วไปได้อย่างแท้จริง
บริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น หรือ ไอดีซี คาดการณ์ว่าตลาดของอุปกรณ์ Wi-Fi 6 ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 ที่ผ่านมา และ Wi-Fi 6 จะกลายมาเป็นตัวเลือกหลักของการใช้ Wi-Fi ในอนาคต พบว่า ผู้เล่นรายสำคัญๆ ระดับโลก เดินหน้าเปิดตัวอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มแบนด์วิธ Wi-Fi เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานให้ดียิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ฝั่งตะวันตกอย่าง อินเทล ที่เปิดตัวหน่วยประมวลผลรุ่นที่ 10 และอุปกรณ์เครือข่ายตระกูล AX ที่รองรับการใช้งาน Wi-Fi 6 บนคลื่นความถี่ 160 MHz ได้ ในขณะที่ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิพเซ็ตระดับโลกอย่าง ควอลคอมม์ ได้ปล่อยชิพเซ็ตสแนปดราก้อน 888 ซึ่งรองรับแบนด์วิธ Wi-Fi 6 บนคลื่นความถี่ 160MHz
ขณะที่ Huawei HiSilicon เองก็ได้ลงทุนกับชิปเซ็ต Wi-Fi 6 รวมทั้งโทรศัพท์ Huawei P40 และ Mate40 Series ก็สามารถรองรับการใช้งานกับ Wi-Fi 6 160 MHz ได้แล้วเช่นกัน ขณะที่ โทรศัพท์มือถือรุ่นเรือธงใหม่อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากที่สามารถรองรับได้ คอมพิวเตอร์แล็ปท็อประดับไฮเอนด์ทั้งหมดในตลาดก็จะรองรับเทคโนโลยี Wi-Fi 6 160MHz ด้วยเช่นกัน ทำให้เทคโนโลยีนี้กลายเป็นตัวเลือกหลักในตลาด
ข้อมูลจากรายงาน โกลบอล คอนเนคทิวิตี้ อินเด็กซ์ หรือ GCI 2020 จากหัวเว่ยล่าสุด ชี้ว่า จะเกิดการต่อยอดเทคโนโลยีโครงข่ายอินเทอร์เน็ตและนวัตกรรมต่าง ๆ ในช่วงหลังโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น 5จี เอไอ ไอโอที หรือ คลาวด์ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ปัจจุบันพบว่า กว่า 78% ของประชากรไทย เข้าถึงบริการ 4จี ได้โดยมีอัตราการเข้าถึงสัญญาณบรอดแบนด์มือถือถึง 132% ของจำนวนประชากรทั้งหมด
ขณะที่รัฐบาลไทยยังคงขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นอีกหนึ่งข้อยืนยันว่าผู้ใช้ชาวไทยจะคาดหวังการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายในบ้านที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
และเทคโนโลยี Wi-Fi 6 จะกลายมาเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่จะเข้ามามีบทบาทในการเสริมประสบการณ์ผู้ใช้งานในระดับครัวเรือนของประเทศไทยต่อจากนี้