ยอด ชินสุภัคกุล ‘ไลน์แมนวงใน’ กับอาณาจักรดิลิเวอรี่ทั่วไทย

สมรภูมิสั่งอาหารผ่านแอพพลิเคชั่นยังคงร้อนระอุมาอย่างต่อเนื่อง การแข่งขันที่สูง ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามา การตลาดที่โหมกันอย่างหนัก นับเป็นความท้าทายสำหรับผู้เล่นทุกราย

ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์แมนวงใน ให้สัมภาษณ์พิเศษกรุงเทพธุรกิจว่า ธุรกิจฟู้ดดิลิเวอรี่เติบโตขึ้นมาก รับผลกระทบเชิงบวกจากวิกฤติโควิด ปี 2563 เทียบกับปีก่อนหน้า ยอดออร์เดอร์ของไลน์แมนวงในเติบโตขึ้นกว่า 5 เท่า แต่การเติบโตนี้ก็มาพร้อมกับหลากหลายความท้าทาย

ดังนั้นแนวทางในการบริหารธุรกิจ จึงไม่ใช่แค่มุ่งเป้าให้ธุรกิจเติบโตอย่างเดียว แต่หวังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ร้านอาหารค้าขายได้ คนขับรถมีรายได้ ผู้ใช้สามารถสั่งอาหารได้อย่างสะดวก และสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดผู้ชนะในสนามฟู้ดดิลิเวอรี

ด้านการโฟกัสเป้าหมาย ทำให้ทีมงานทุกคนมองเห็นเป้าหมายเป็นภาพเดียวกันและไม่ต้องกำหนดวิธีการมากนัก ซึ่งจะทำให้ทีมงานได้มีโอกาสโชว์ของมากขึ้น มีความยืดหยุ่นในการแก้ไขปัญหา และอาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เร็วขึ้นก็ได้

ลุยด้วย ‘Local mindset’

สำหรับจุดต่างธุรกิจ จุดแข็งอย่างแรกคือ การเป็นบริษัทเทคโนโลยีไทย ที่มีทั้งผู้บริหารและทีมงานที่เป็นคนไทย รวมไปถึงมีทีมวิศวกรขนาดใหญ่เป็นของตนเอง ทำให้มีความพร้อมในการปรับเปลี่ยนบริการและฟีเจอร์ต่างๆ ให้ตรงกับอินไซต์หรือความต้องการของคนไทยได้อย่างรวดเร็วกว่า เข้าใจผู้บริโภคคนไทยมากกว่า ด้วย “Local mindset” จะทำให้สามารถออกแบบบริการได้เหมาะกับคนในพื้นที่ ไม่ใช่แค่ระดับจังหวัด แต่ลงไปถึงระดับอำเภอ

“สิ่งที่เราให้ความสำคัญคือ การทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะการตัดสินใจของเรามีผลต่อคนจำนวนมาก เราจึงยึดหลัก Empathy และ Respect เคารพทุกความคิดเห็นจากทั้งร้านอาหาร คนขับ และผู้ใช้งานทุกคน”

นอกจากนี้ มีทางเลือกที่หลากหลายสำหรับทั้งร้านอาหารและผู้ใช้งาน เช่น ร้านอาหารมีให้เลือกทั้งแบบ GP หรือ Non-GP ด้านผู้ใช้สามารถเลือกสั่งอาหารจากร้านอาหารบนแพลตฟอร์มที่มีมากที่สุดกว่า 300,000 ร้าน ตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านหรู ขณะเดียวกันมีอีโคซิสเต็มจากไลน์มาช่วยเสริมความแข็งแกร่งการให้บริการ

ต้องอึด-พร้อมรับทุกสถานการณ์

ยอดบอกว่า เคล็ดลับท่ีทำให้ประสบความสำเร็จ มาจากความอึด (Grit) การก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำจะต้องทำงานให้หนักและต้องไม่ยอมแพ้ ที่ผ่านมาจะมีการบอกเล่าเป้าหมายที่ชัดเจนแก่พนักงาน(Storytelling) ว่ากำลังจะไปในทิศทางใด ฝึกมองไปข้างหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น โควิดนับเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า “เราไม่สามารถคาดการณ์ทุกอย่างได้”

"ต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ที่หลากหลายให้ได้ เราเองไม่จำกัดอยู่กับธุรกิจมีเดียอย่างเดียว แต่ยังมีการขยายไปยังฟู้ดดิลิเวอรี มีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หรือแม้แต่สปาความงาม เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมากระทบกับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งก็จะรับมือกับสถานการณ์ได้ดี"

ตั้งเป้าหมาย 77 จังหวัดทั่วไทย

ด้านความสำเร็จที่อยากไปให้ถึง หากเป็นก่อนหน้านี้คงเคยได้ยินมาว่าเป้าหมายของวงในคือการเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของไทย แต่เมื่อผ่านการควบรวมกิจการมาจนถึงวันนี้ เส้นชัยของไลน์แมนวงในอาจไม่ใช่ยูนิคอร์น เพราะการที่จะเติบโตไปให้ไกล ไม่ได้มีแค่ประเด็นนี้เท่านั้น

“เป้าหมายใหม่ที่เราจะเดินไปคือ Help Thai People Live Better อาศัยจุดเด่นเรื่องอีโคซิสเต็มที่ครบวงจร ผนวกกับความแข็งแกร่งในการเชื่อมต่อกับไลน์ช่วยพัฒนาธุรกิจท้องถิ่นในไทย ผ่านการเชื่อมต่อลูกค้า คนทำงาน และธุรกิจท้องถิ่นเข้าด้วยกัน โดยภายในสิ้นปีนี้ตั้งเป้าขยายบริการฟู้ดดิลิเวอรี่ไป 77 จังหวัดทั่วไทย"

ส่วนในระยะยาวต้องการเป็น “E-Commerce Platform for Services” หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้านบริการที่รองรับบริการด้านไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ใช่แค่ด้านอาหาร แต่ยังรวมถึงการขนส่งคน, การขนส่งสิ่งของ หรือการให้บริการนวดที่บ้าน เป็นต้น

อีกหนึ่งเป้าหมายในอนาคต คือ ต้องการทำให้พนักงานมีความมั่นคงมากขึ้น เมื่อพนักงานมีความมั่นคงในชีวิต อัตราการลาออกก็จะน้อยลง คนเก่งๆ ก็อยากเข้ามาทำงานด้วย และบริษัทก็จะไปถึงเป้าหมายได้เร็ว