‘แอดไวซ์’ ปรับแผนดึง 'ออนไลน์' เสิร์ฟลูกค้านิวนอร์มอล

“ดีมานด์สินค้าไอทีไม่ได้ลดลง แต่ประสบปัญหาซัพพลายไม่เพียงพอกับความต้องการสืบเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ โดยเฉพาะโน้ตบุ๊คมีความต้องการสูงเพราะต้องใช้ทำงานในช่วงเวิร์คฟรอมโฮมในส่วนตลาดคอนซูเมอร์ด้านตลาดองค์กรมีความต้องการโน้ตบุ๊คเช่นกัน ซึ่งได้วางแผนจัดซื้ออยู่แล้ว” นายจักรกฤช กล่าว

ทั้งนี้ แอดไวซ์จึงเดินหน้าเสริมกลยุทธ์ด้านออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าและใช้บริการจากแอดไวซ์ได้สะดวกมากขึ้น ส่วนแรก คือ ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าที่แอดไวซ์พัฒนาต่อเนื่องทั้ง 3 ช่องทาง ได้แก่ อี-เทลเลอร์ออนไลน์ ช่องทางหลักและสำคัญในการให้บริการออนไลน์ พัฒนารูปแบบการขายและการจัดการระบบโลจิสติกส์เพื่อตอบโจทย์สถานการณ์ 

ถัดมาคือ อี-มาร์เก็ตเพลซ ช่องทางที่สร้างยอดขายและการรับรู้ต่อแบรนด์ได้ดีในปัจจุบันด้วยแคมเปญที่เป็นเอกลักษณ์อย่างแคมเปญดับเบิลเดตในทุกๆ เดือน ซึ่งแอดไวซ์มีร้านค้าบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น ช้อปปี้ ลาซาด้า เจดี-เซ็นทรัล และเอสซีจี และสุดท้าย โซเชียลคอมเมิร์ซ เป็นรูปแบบการขายและให้บริการผ่านโซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ เฟซบุ๊ค เป็นช่องทางที่ผู้บริโภคใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นปกติ 

ส่วนของการให้บริการหลังการขายแอดไวซ์ พร้อมให้บริการรับซ่อม-เคลม ถึงบ้านเพื่อความสะดวกของลูกค้าในยุคที่ไม่มีใครอยากออกจากบ้านจากสถานการณ์โควิดปัจจุบัน กับเซอร์วิสถึง 3 รูปแบบ ด้วยค่าบริการเริ่มต้นเพียง 100 บาท โดยแอดไวซ์ เชื่อว่า ปีนี้ช่องทางออนไลน์ของแอดไวซ์จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกมหาศาลเลยทีเดียว

“จุดแข็งด้านคุณภาพสินค้า บริการ และศักยภาพบุคลากร เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้แอดไวซ์เติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่ยากคาดการณ์ของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ผู้ประกอบการต้องเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยคำตอบของผู้ประกอบการ คือ การพัฒนาระบบ อีคอมเมิร์ซของธุรกิจตนเองให้พร้อมรับทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับตัว ให้สามารถตอบโจทย์หรือสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุด นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันและอยู่รอดได้ แอดไวซ์เชื่อมั่นเช่นเดียวกัน” นายจักรกฤช กล่าว