‘ลาซาด้า’ ปรับโฉมแบรนด์โลจิสติกส์เป็น ‘ลาซาด้า โลจิสติกส์’
ยกระดับบริการขนส่งครบวงจร ตอบโจทย์ทุกแบรนด์และร้านค้า มั่นใจเข้ามาพลิกโฉมวงการอีคอมเมิร์ซประเทศไทย พร้อมช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ซื้อ-ผู้ขาย
ลาซาด้า ประกาศปรับโฉมแบรนด์ระบบโลจิสติกส์ภายใต้ชื่อ "ลาซาด้า โลจิสติกส์" ที่พร้อมยกระดับวงการโลจิสติกส์ไทยไปอีกขั้น โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายโลจิสติกส์ของลาซาด้าใช้ชื่อว่า Lazada eLogistics (LEL) และ Lazada Express (LEX) ซึ่ง LEL ทำหน้าที่จัดการคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ร่วมกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์รายอื่น ในขณะที่ LEX ทำหน้าที่จัดส่งพัสดุถึงลูกค้า
การปรับโฉมแบรนด์ภายใต้ชื่อ "ลาซาด้า โลจิสติกส์" มาพร้อมเฉดสีฟ้าในแบบใหม่เพื่อสะท้อนความมีประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของลาซาด้าในการส่งมอบโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่น่าเชื่อถือและครบวงจรให้แก่แบรนด์และร้านค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการทางธุรกิจ
นายชุน หลี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป เผยว่า ภายใต้การปรับโฉมแบรนด์ครั้งนี้ "ลาซาด้า โลจิสติกส์" ได้เปิดตัวบริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (multi-channel logistics: MCL) ด้วยโซลูชันการจัดเก็บสินค้าแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการบนอีคอมเมิร์ซและแบรนด์ต่างๆ สามารถตอบโจทย์การขายสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าผู้บริโภคจะสั่งซื้อสินค้าบนลาซาด้าหรือบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าอื่น ลาซาด้า โลจิสติกส์ จะช่วยเติมเต็มการให้บริการด้านขนส่งทุกคำสั่งซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ลาซาด้าจะเป็นผู้จัดเก็บสินค้าของผู้ขายและพันธมิตรบนอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้การจัดการด้านการขนส่งและการกระจายคำสั่งซื้อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งโดยลาซาด้า บริษัทขนส่งที่เป็นพันธมิตร หรือการขนส่งผ่านตัวแทน
นายแอนดี้ ฮวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับการชอปปิงวิถีใหม่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมทั้งการจัดส่งสินค้าถึงหน้าประตูที่สะดวกและรวดเร็วทันใจ ลาซาด้าจึงได้เดินหน้าพัฒนาและนำเสนอโซลูชันใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ขายและพันธมิตรอีคอมเมิร์ซสามารถตอบสนองความต้องการและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า
นอกจากนี้ แบรนด์ต่างๆ ยังมั่นใจได้ว่าบริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (MCL) นั้น สามารถให้บริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน ช่วยแก้ปัญหาด้านโลจิสติกส์ให้กับแบรนด์และผู้ขายได้เป็นอย่างดี จึงทำให้แบรนด์และผู้ขายสามารถทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนาด้านการขาย การตลาด และการยกระดับธุรกิจของพวกเขาได้อย่างเต็มที่
ด้วยบริการด้านโลจิสติกส์แบบหลากหลายช่องทาง (MCL) ช่วยให้แบรนด์และผู้ขายสามารถควบคุมสินค้าในคลังได้อย่างยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น ลดความกังวลด้านโลจิสติกส์ที่ต้องใช้ต้นทุนสูงและมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานด้านการจัดการคลังสินค้า ซึ่งต้องเสียค่าบำรุงระบบคลังสินค้าและการขนส่ง ในขณะเดียวกันยังช่วยให้แบรนด์และผู้ขายประหยัดต้นทุนในการขยายเครือข่ายการทำงานได้เป็นอย่างดี
นายเจมส์ มาร์แชนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายโลจิสติกส์ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า เทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานของลาซาด้า โลจิสติกส์ จะเข้ามาพลิกโฉมวงการอีคอมเมิร์ซประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด พร้อมช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้ซื้อและผู้ขาย
โดยนับตั้งแต่ประเทศไทยประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ได้เห็นการเติบโตของการช้อปออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการปรับโฉมของลาซาด้า โลจิสติกส์ ในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนให้แบรนด์ ผู้ขาย และผู้บริโภค ได้รับประโยชน์สูงสุดจากแคมเปญและกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ในอนาคต
ทั้งนี้ ในด้านศูนย์ปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทย ลาซาด้ามีศูนย์บริการจัดการคลังสินค้าแห่งใหม่ ซึ่งประกอบด้วยคลังสินค้า 2 แห่ง โดยแห่งหนึ่งเป็นคลังสินค้าภายในประเทศ และอีกแห่งหนึ่งสำหรับการจัดการคลังสินค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ มีศูนย์คัดแยกอีก 2 แห่ง และฮับ 78 แห่งทั่วประเทศ