‘เจดีเซ็นทรัล’ ดันเมกะแคมเปญ ปลุกอีคอมเมิร์ซโค้งสุดท้าย
อีคอมเมิร์ซประเทศไทยมีการแข่งขันที่รุนแรงทั้งด้านราคาและการนำเสนอสินค้าที่มีความหลากหลาย จากนี้จะอยู่แค่บนออนไลน์คงไม่ได้ต้องมีออมนิแชนแนลเพื่อทำให้มีศักยภาพการแข่งขันที่สูงขึ้น
ก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด เจดีเซ็นทรัล แสดงทัศนะ พร้อมประเมินว่า ไตรมาสที่ 4 ตลาดจะยิ่งมีความคึกคัก มูลค่าการซื้อขายมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากแม้หลังคลายล็อกดาวน์กระแสการชอปปิงออนไลน์ยังคงเติบโต พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปคุ้นชินกับการซื้อสินค้าออนไลน์และเห็นประโยชน์ที่ได้จากข้อเสนอบนอีคอมเมิร์ซ
สำหรับเจดีเซ็นทรัล ปีนี้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น สอดคล้องไปกับการเติบโตธุรกิจ และการปูทางสร้างฐานลูกค้า ไตรมาสที่ 4 นี้เตรียมเพิ่มงบการลงทุนทางการตลาดอีก 2 เท่า สำหรับจัดทำแคมเปญพิเศษตอบแทนลูกค้า ไฮไลต์ เช่น แคมเปญ 928 Birthday Fest สุขสันต์วันจอย ระหว่างวันที่ 28 – 30 ก.ย.2564 ส่วนลดสูงสุด 90%
โดยการันตีได้ว่า จะไม่เคยได้เห็นข้อเสนอที่ดีขนาดนี้มาก่อนจากแพลตฟอร์มอื่นๆ มีทั้งดีลพิเศษ โปรแกรมสะสมแต้มเพื่อใช้แลกส่วนลด กิจกรรมพิเศษ สินค้าลดราคาพิเศษ และโปรโมชั่นที่ทำร่วมกับพันธมิตร ฯลฯ
โชว์ความสำเร็จ 3 ปี โต 955%
เขากล่าวว่า แนวทางธุรกิจไตรมาสสุดท้ายเน้นที่การเพิ่มบริการ ร้านค้า และฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเปิดการให้บริการร้านค้าทางการแบรนด์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก การเปิดตัวบริการใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของการจัดส่งแบบออนดีมานด์ การันตีส่งของเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ขยายการให้บริการ E-Voucher ในส่วนของโรงพยาบาล ร้านอาหาร สปา และประกันชีวิต รวมถึงเพิ่มร้านค้าแบรนด์ดังระดับอินเตอร์เข้ามาในแพลตฟอร์ม
ด้านของการสนับสนุนร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ เพิ่มโซลูชั่นการตลาด (Manage Partner Ads) เข้ามาเพื่อช่วยการกระตุ้นยอดขายของแบรนด์และร้านค้า โดยถือเป็นแพลตฟอร์มแรกในตลาดอีคอมเมิร์ซที่นำโซลูชั่นนี้มาใช้
“เราจะเดินหน้าพัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้พร้อมสนับสนุนผู้ค้า สานต่อความสำเร็จจากจุดเริ่มต้นการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561 ที่เวลา 3 ปี สามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทยด้วย ตัวเลขการเติบโตที่สูงกว่า 955%”
สินค้าไอทีโตแรง-มั่นใจลูกค้ามีกำลังซื้อ
ก่อลาภเผยว่า ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาซึ่งมีการจัดทำแคมเปญการตลาดมากกว่า 1,000 แคมเปญ ส่งผลให้ฐานลูกค้าของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาหลังจากได้ปรับกลยุทธ์และ brand identity พบว่า การรับรู้แบรนด์เติบโตเพิ่มขึ้น 48% โดยเฉลี่ยต่อคำสั่งซื้อมีมูลค่าประมาณ 2,600-2,700 บาท ความถี่การเข้ามาใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 10%
ปัจจุบัน เจดีเซ็นทรัลกลายเป็นแอพอีคอมเมิร์ซชั้นนำที่มีเรทตี้งสูงสุดในกูเกิลเพลย์สโตร์ มีฐานลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งสนใจเข้ามาซื้อสินค้ากลุ่มแฟชั่น สุขภาพและความงามเพิ่มขึ้น 300% ที่น่าสนใจมีกลุ่มลูกค้าใหม่เพศชายเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้น 130%
ช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพบด้วยว่า สินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุด คือ สินค้าในครัวเรือน แคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องประดับ สินค้าแม่และเด็ก ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. จนวันนี้ผลักดันให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้นถึง 450% รวมคิดเป็นมูลค่าที่ลูกค้าประหยัดไปได้ 65 ล้านบาท
ข้อมูลระบุว่า คนซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มขยายกลุ่มจากแม่และเด็กไปเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบขนมขบเคี้ยว รวมถึงเครื่องปรุงมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคช่วงล็อกดาวน์ รวมถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่ทำอาหารเป็นงานอดิเรก ทั้งยังพบว่าอีคอมเมิร์ซช่วยให้แบรนด์น้องใหม่มีโอกาสแจ้งเกิด
เขากล่าวว่า ไตรมาสสุดท้ายเดินหน้าจัดแคมเปญที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไอที รองรับการเวิร์คฟรอมโฮม เรียนออนไลน์ จากที่ได้เริ่มแคมเปญเมื่อ 6 ก.ย.พบว่า จำนวนลูกค้าเติบโตเพิ่มขึ้น 35% มูลค่าต่อหนึ่งคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 27% กล่าวได้ว่าลูกค้ายังมีกำลังซื้อและจะมีการใช้จ่ายมากขึ้นหากมีแคมเปญลดราคาที่น่าสนใจ ขณะนี้เจดีเซ็นทรัลกลายเป็นจุดหมายอันดับ 1 เมื่อต้องการซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บนอีคอมเมิร์ซ
นอกจากนี้ จากการจัดทำแคมเปญล็อกดาวน์ พบด้วยว่าผู้บริโภคสนใจทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ความบันเทิงภายในบ้าน สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอาหารแมว