ส่องสเปคเด็ด Apple Watch series 7 เปิดจอง 8 ต.ค.นี้ ราคาดี "หมื่นต้นๆ"
Apple Watch Series 7 เป็นอีกหนึ่งแก๊ดเจ็ทสายสมาร์ทวอชท์ ที่แฟนๆ รอคอย หนึ่งในวงวานของ Apple เปิดตัวมาพร้อมไอโฟน 13 ที่เพิ่งเปิดจองไปเสียงตอบรับถล่มทลาย โดยเฉพาะจองผ่าน 3 ค่ายมือถือ AIS DTAC และ TRUE สำหรับ Apple Watch series 7 ยังรองรับ watchOS 8 ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ โดนๆ เพียบ
นับถอยหลัง Apple Watch Series 7 สมาร์ทวอทช์เรือธง อีกหนึ่งลูกรักของ Apple ที่เตรียมให้สั่งจองวันที่ 8 ต.ค. เริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ประเทศไทย ราคาเริ่มต้นที่ 13,900 บาท คาดว่าจะได้รับความสนใจไม่แพ้ ตัวพี่อย่าง iphone 13 ที่ยอดจองล้นหลามไปก่อนหน้านี้แล้ว
"กรุงเทพธุรกิจ" ชวนส่องสเปคเด็ดๆ ของ Apple Watch Series 7 ตอบโจทย์ได้ทั้งสายแฟชั่น สายติสท์ สายรักษ์สุขภาพ และสายรักษ์โลกด้วย เพราะ Apple Watch Series 7 รุ่นนี้ ถูกออกแบบมาให้รักษ์โลกแบบสุดๆ นั่นเอง
“Apple Watch Series 7” มาพร้อมจอภาพ Retina แบบติดตลอด ที่ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมขึ้นใหม่ให้มีพื้นที่หน้าจอเพิ่มขึ้นเกือบ 20% และขอบที่แคบลงเหลือเพียง 1.7 มม. ซึ่งเล็กกว่า Apple Watch Series 6 ถึง 40% ตัวเรือนขนาด 41 มม. และ 45 มม. ดีไซน์ของ Apple Watch Series 7 ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้สวยงขึ้นด้วยมุมที่โค้งมนกว่าเดิม ส่วนจอภาพก็มาพร้อมขอบแบบหักเหแสงเป็นเอกลักษณ์ ทำให้หน้าปัดนาฬิกาและแอพแบบเต็มหน้าจอดูกลมกลืนกับส่วนโค้งของตัวเรือน
มีอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ปรับมาให้เหมาะกับขนาดใหม่ของจอภาพ ทำให้การอ่านและการใช้งานง่ายขึ้น มีหน้าปัดนาฬิกาสองแบบที่ไม่ซ้ำใคร Contour และ Modular Duo ซึ่งออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ใหม่นี้โดยเฉพาะ โดยผู้ใช้จะยังคงสามารถใช้งานแบตเตอรี่ 18 ชั่วโมงเช่นเดิม ทั้งยังมีการเสริมระบบการชาร์จที่เร็วขึ้น 33%
Apple Watch Series 7 รุ่นนี้ยังมากับความทนทานมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยด้านหน้าแบบคริสตัลที่แข็งแกร่งขึ้นและทนการแตกร้าวได้ดีกว่าเดิม มีความสามารถในการทนฝุ่นที่ระดับ IP6X ทนน้ำที่ระดับ WR502
แน่นอนว่า มาพร้อมเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในการดูแลสุขภาพ รวมถึงเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบไฟฟ้าและแอพ ECG3 พร้อมทั้งเซ็นเซอร์และแอพวัดระดับออกซิเจนในเลือด
ขับเคลื่อนด้วย watchOS 8 ที่นำความสามารถใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์มาไว้บนนาฬิกา ช่วยให้สามารถต่อติดกับทุกเรื่อง ติดตามกิจกรรมและการออกกำลังกาย ทั้งยังเข้าใจถึงสุขภาพและความแข็งแรงสมบูรณ์โดยรวม ฟีเจอร์ที่โดดเด่นมีทั้งสำหรับการปั่นจักรยาน ออกกำลังกาย ตรวจจับการล้ม ฯลฯ
สำหรับการใช้งานกับรุ่นที่เก่ากว่า watchOS 8 จะพร้อมใช้งานสำหรับ Apple Watch Series 3 และใหม่กว่า ในวันอังคารที่ 21 กันยายน และต้องใช้กับ iPhone 6s หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 15 หรือใหม่กว่า โดยคุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในอุปกรณ์บางเครื่องและในบางภูมิภาค
Apple Watch Series 7 มาพร้อมตัวเรือนอะลูมิเนียมใน 5 สีใหม่ ได้แก่ สีมิดไนท์ สีสตาร์ไลท์ สีเขียว สีน้ำเงินใหม่ และรุ่น (PRODUCT)RED พร้อมด้วยสายนาฬิกา Apple Watch ในโทนสีใหม่ๆ ที่เข้ากัน ทุกรุ่นจะวางจำหน่ายภายในปีนี้
นอกจากนั้น Apple Watch Series 7 ยังใช้งานกับสาย Apple Watch ที่วางจำหน่ายก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย ขณะที่รุ่นสแตนเลสสตีล, Apple Watch Edition, Apple Watch SE และ Apple Watch Series 3 จะยังคงมาในสีเดิม
watchOS 8 สนุกขึ้น
Apple Watch Series 7 ที่รองรับ watchOS 8 ทำให้คุณสมับัติที่ได้มีเพิ่มมาอีกเพียบ โดยเฉพาะคุณสมบัติใหม่ด้านการปั่นจักรยานและความแข็งแรงสมบูรณ์ หน้าปัดนาฬิกาใหม่ แอปกระเป๋าสตางค์เพื่อเพิ่มการเข้าถึง และแอพบ้านโฉมใหม่
คุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับ watchOS 8
-แอพรูปภาพ ได้รับการออกแบบใหม่ให้มาพร้อมวิธีใหม่ๆ ในการดูและไปยังส่วนต่างๆ ของคอลเลกชั่น, ความทรงจำและรูปภาพแนะนำสามารถซิงค์กับ Apple Watch ได้แล้ว และตอนนี้ผู้ใช้ยังสามารถแชร์รูปภาพผ่านแอปข้อความและเมลได้อีกด้วย
-นาฬิกานับถอยหลังแบบหลายตัว สามารถติดป้ายกำกับเฉพาะด้วย Siri ได้เลย (เช่น "หวัดดี Siri เริ่มนับถอยหลังเวลาทำพาสต้า 10 นาที")
-นอกจากนี้ ยังนำแอพรายชื่อมาไว้บน Apple Watch เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นหา เพิ่ม แก้ไขรายชื่อติดต่อ รวมทั้งแชร์ผู้ติดต่อจากแอปได้โดยตรงอีกด้วย
-วันนี้แอพบน Apple Watch สามารถรองรับจอภาพแบบติดตลอดได้หลากหลายแอพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแอปแผนที่, ทำสมาธิ, กำลังเล่น, โทรศัพท์, พ็อดคาสต์, นาฬิกาจับเวลา, นาฬิกานับถอยหลัง และเสียงบันทึก
-AssistiveTouch รองรับการใช้งาน Apple Watch ด้วยมือเดียวโดยการตรวจจับท่าทางง่ายๆ ที่ตำแหน่งมือเพื่อการโต้ตอบโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอสำหรับผู้ใช้ Apple Watch ที่มีความต้องการที่แตกต่างสำหรับร่างกายส่วนบน ผู้ใช้สามารถรับสายเรียกเข้า ควบคุมตัวชี้บนหน้าจอ และเปิดเมนูการทำงานเพื่อเข้าถึงศูนย์การแจ้งเตือน ศูนย์ควบคุม และอื่นๆ ได้โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในตัว7
-แอพค้นหาสิ่งของใหม่ บน Apple Watch ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งของที่มี AirTag ติดไว้และสิ่งของของบริษัทอื่นที่รองรับผ่านเครือข่ายค้นหาของฉัน และแอปค้นหาอุปกรณ์ใหม่จะช่วยระบุตำแหน่งอุปกรณ์ Apple ที่สูญหายซึ่งมีการลงชื่อเข้าใช้ด้วย Apple ID เดียวกัน
-แอพเพลง ที่ออกแบบใหม่ทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์เพลง อัลบั้ม และเพลย์ลิสต์ผ่านแอปข้อความและเมล รวมทั้งสนุกสนานกับเพลงและสถานีวิทยุได้ในที่เดียว
-แอพสภาพอากาศ รองรับการแจ้งเตือนสภาพอากาศที่รุนแรง โดยสามารถแสดงการแจ้งเตือนของรัฐบาลเกี่ยวกับสถานการณ์สภาพอากาศที่รุนแรงได้ นอกจากนี้ แอปยังสามารถส่งการแจ้งเตือนโอกาสเกิดฝนตกในชั่วโมงข้างหน้าและมาพร้อมกลไกหน้าปัดที่อัปเดตใหม่อีกด้วย
-คุณสมบัติ "การตั้งค่าครอบครัว" มาพร้อมความสามารถในการเพิ่มบัตรโดยสารจากฮ่องกง ญี่ปุ่น รวมทั้งบางเมืองในจีนแผ่นดินใหญ่และสหรัฐอเมริกา ส่วนแอปปฏิทินและอีเมลก็มีตัวเลือกในการเพิ่มบัญชี Google แล้ววันนี้
ขณะที่ Apple Watch Nike และ Apple Watch Hermès จะมาพร้อมสายนาฬิกาและหน้าปัดใหม่สุดพิเศษภายในปีนี้เช่นกัน สาย Nike Sport Loop โฉมใหม่มาในสามสีสันและโดดเด่นด้วยโลโก้ Nike Swoosh พร้อมตัวอักษรที่รวมเข้ากับการถักทอของสาย จับคู่มาอย่างลงตัวกับหน้าปัดนาฬิกา Nike Bounce ใหม่ ซึ่งจะเคลื่อนไหวแบบไดนามิกเมื่อมีการแตะหน้าจอ เลื่อน Digital Crown หรือขยับข้อมือ
นอกจากสีสันที่ได้รับการอัพเดทใหม่ในสไตล์คลาสสิก, Attelage และ Jumping แล้ว Apple Watch Hermès ยังมาพร้อมสไตล์ใหม่อีกสองสไตล์ ได้แก่ สายแบบ Circuit H ดีไซน์โดดเด่นสะดุดตาด้วยลวดลายกราฟิกของโซ่สมอเรืออันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งพิมพ์ลงบนหนัง Swift และจับคู่มากับหน้าปัดนาฬิกาที่ช่วยตอกย้ำความสมบูรณ์แบบ
ส่วนสายแบบ Double Tour Gourmette นั้นเป็นการย้อนรำลึกถึงดีไซน์ปลอกคอสุนัขของ Hermès ในช่วงทศวรรษ 1930 โดยการนำหนัง Barénia สี Fauve อันอ่อนนุ่มมารังสรรค์ให้เป็นลายห่วงถักคล้องเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
รุ่นนี้ รักษ์สิ่งแวดล้อม
Apple Watch Series 7 มีการนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้มากกว่า Apple Watch รุ่นอื่นๆ เพื่อให้สอดคล้องกับคำมั่นของ Apple ในด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการใช้แร่โลหะหายากที่ผ่านการรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น รวมถึงใน Taptic Engine และมีการใช้ทังสเตนรีไซเคิลเกือบ 100% ทั่วทั้งผลิตภัณฑ์ ส่วนตัวเรือนก็ทำจากอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%
สำหรับรุ่นอะลูมิเนียม และ Apple Watch Series 7 ยังผลิตขึ้นโดยไม่มีสารเคมีอันตราย เช่น ปรอท, PVC, เบริลเลียม และ BFR อีกด้วย
วันนี้การดำเนินงานของบริษัท Apple ทั่วโลกมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2030 เราวางแผนที่จะลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศให้เป็นศูนย์ในทุกภาคส่วนของธุรกิจ ซึ่งรวมถึงซัพพลายเชนการผลิตและวงจรชีวิตของสินค้าทั้งหมด นั่นหมายความว่าอุปกรณ์ Apple ทุกเครื่องที่จำหน่ายจะมีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100% ตั้งแต่การผลิตชิ้นส่วน การประกอบ การขนส่ง การใช้งานของลูกค้า การชาร์จ จนถึงการรีไซเคิลและการคัดแยกวัสดุ