’อาร์ทีบี’ มั่นใจโต 60% สวนกระแสเศรษฐกิจ
อาร์ทีบี โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรก โต 59% สวนกระแสวิกฤติ เวิร์คฟรอมโฮม เรียนออนไลน์หนุนความต้องการตลาดอุปกรณ์เสริม เดินหน้าขยายพอร์ทโฟลิโอ ช่องทางจำหน่าย วางเซ็กเมนท์ชัดเจน มั่นใจรายได้รวมปีนี้โตไม่น้อยกว่า 60%
นายบรรพต วัฒนสมบัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ทีบี เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ถือเป็นปีที่ท้าทายสำหรับการดำเนินธุรกิจอย่างมาก เนื่องจากต้องเผชิญกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงหลายด้านๆ โดย โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจ ธุรกิจค้าปลีกและกำลังซื้อผู้บริโภค ดังนั้นแนวทางการดำเนินธุรกิจของ อาร์ทีบี มีการปรับตัวและมุ่งทำตลาดโดยเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ 5จี ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ของผู้บริโภค รวมถึงการทำงานยุคใหม่ เวิร์คฟรอมโฮม ซึ่งไม่ว่าจะพบกับวิกฤติเศรษฐกิจหรือการเมืองก็มั่นใจได้ว่าเป็นพอร์ทโฟลิโอที่เติบโตได้ต่อเนื่อง
เขากล่าวว่า แบ่งขอบข่ายการทำธุรกิจไว้ชัดเจน ได้แก่ กลุ่มโมเดิร์นดิจิทัลไลฟ์สไตล์และโมเดิร์นดิจิทัลเวิร์คเพลส โดยกลุ่มไลฟ์สไตล์ไฮไลต์เช่น ผลิตภัณฑ์หูฟัง, เกมมิ่ง, อุปกรณ์เสริมไอโฟน ไอแพด, เมดิคัลเทค และกล้องแอคชั่น ส่วนสินค้าสำหรับธุรกิจมีทั้ง โซลูชั่นวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ การสื่อสาร รองรับการเวิร์คฟรอมโฮม
นอกจากนี้ แบ่งช่องทางการจัดจำหน่ายออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ ค้าปลีกไอที ออนไลน์คอนซูเมอร์ และช่องทางจัดจำหน่ายสู่ลูกค้าองค์กรและลูกค้าราชการ
“แม้โควิดจะส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แต่อีกทางหนึ่งผลักดันให้อุปกรณ์สำหรับความบันเทิงภายในบ้าน เวิร์คฟรอมโฮม เรียนออนไลน์ มีดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น และเชื่อว่าเทรนด์นี้จะยังคงอยู่ต่อไป เพราะเป็นนิวนอร์มอลของผู้บริโภค”
อย่างไรก็ดี ผลประกอบการ 9 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้รวมกว่า 600 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้าเติบโตเพิ่มขึ้น 59% สวนกระแสเศรษฐกิจ ปัจจัยมาจากมีสินค้าที่ครอบคลุมความต้องการแห่งอนาคต แต่ละประเภทสินค้าที่ถืออยู่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงที่กำลังเติบโต ไม่ว่าจะเป็นหูฟังทรูไวร์เลส, ลำโพงไร้สาย, อุปกรณ์เกมมิ่ง อุปกรณ์ดิจิทัลสำหรับสำนักงาน สินค้าสำหรับเวิร์คฟรอมโฮม
เขากล่าวว่า อาร์ทีบี มีการปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น มีการเพิ่มแบรนด์สินค้าใหม่ๆ ที่มีคุณภาพและทันสมัยหลากหลายแบรนด์ และอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนที่สำคัญคือได้เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เสริมของแอ๊ปเปิ้ล
บริษัท มั่นใจว่าด้วยแนวทางธุรกิจดังกล่าว ประกอบกับการส่งนวัตกรรมใหม่เข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจะทำให้สิ้นปีนี้ยอดขายของอาร์ทีบีจะเติบโตเกิน 60% รายได้รวมทะลุ 800 ล้านบาท
ข้อมูลระบุว่า ปี 2563 กลุ่มหูฟังที่เป็นทรูไวร์เลสมีการชะลอตัวในช่วงแรกๆ ของการปิดประเทศ เนื่องจากผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องงาน ทว่าในปี 2564 ผู้บริโภคเริ่มกลับมาซื้อหูฟังประเภทนี้มากขึ้นสำหรับความบันเทิงและการเวิร์คฟรอมโฮม ในระดับโลกปีนี้หูฟังทรูไวร์เลสมีการเติบโตอยู่ที่ 33%
ล่าสุด เพิ่มเกมรุกหนักตลาดหูฟังทรูไวร์เลสช่วงท้ายปี เปิดตัวสินค้าเรือธงจากแบรนด์จาบร้า(Jabra) ลุยตลาดพร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ “Jabra Elite7 Pro” ราคา 7,790 บาท และ “Jabra Elite7 Active” ราคา 6,790 บาท
ปี 2565 ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนหลายอย่าง แนวทางการทำธุรกิจจึงต้องระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้น บริษัทมีแผนนำนวัตกรรมหูฟังและอุปกรณ์เสริมใหม่ๆ เข้ามาเสริมพอร์ทมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เน้นดิจิทัลไลฟ์สไตล์, อุปกรณ์เวิร์คฟอรมโฮม เกมมิ่ง รับเทรนด์การทำงานแบบไฮบริด พร้อมเพิ่มช่องทางออนไลน์ให้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น