พลิกประวัติ "สมประสงค์ บุญยะชัย" อดีตขุนศึกโทรคม ทิ้งทุกตำแหน่งใน AIS

พลิกประวัติ "สมประสงค์ บุญยะชัย" อดีตขุนศึกโทรคม ทิ้งทุกตำแหน่งใน AIS

พลิกประวัติ “สมประสงค์ บุญยะชัย” มือพระกาฬแห่งโลกโทรคมไทย หนึ่งในผู้ปลุกความยิ่งใหญ่ให้อาณาจักร “ชินคอร์ป หรือ อินทัช และเอไอเอส” กุนซือที่อยู่เคียงข้างธุรกิจของกลุ่มชินวัตรมายาวนาน วันนี้ทิ้งทุกตำแหน่งใน "เอไอเอส" หลัง “กัลฟ์” ทุนใหญ่ตั้งบอร์ดเข้ามาบริหารแทน

สมประสงค์ บุญยะชัย อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินทัช โบกมือลาทุกตำแหน่งใน เอไอเอส ไปเรียบร้อย ทิ้งอดีตที่เคยเป็นทั้งเบื้องหน้า และ เบื้องหลังความสำเร็จของอาณาจักรธุรกิจที่ครั้งหนึ่งเป็นของกลุ่มชินวัตรมาอย่างยาวนาน

ย้อนกลับไปในอดีตยุคที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังเริ่มต้น จนถึงยุครุ่งเรืองในยุคหนึ่ง ชื่อของ “สมประสงค์ บุญยะชัย” ปรากฏขึ้นเป็นหนึ่งในนักธุรกิจแถวหน้าของประเทศ เรียกได้ว่าเขา คือ มือหนึ่งนักบริหารธุรกิจสายโทรคมนาคม ที่มีส่วนหนุนนำอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในยุคนั้น ก้าวสู่ความคึกคัก โดดเด่น และน่าจับตา

เขาถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในขุนพลทัพหน้าของ บริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น และ บริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส ในยุคร่มเงาของ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร  “สมประสงค์” ได้ชื่อว่า เป็นกุนซือที่เคียงข้างธุรกิจของกลุ่มชินวัตรมายาวนาน ทำหน้าที่นำพา "เอไอเอส" รวมถึง "ชินคอร์ป" ก้าวไปสู่หมุดหมายที่ตั้งไว้อย่างสวยหรู 

“สมประสงค์” ยุคนั้น ทุกครั้งที่ขยับตัว มักได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนเป็นอย่างมาก  (ทันทีที่รับไม้ต่องานบริหารจาก "บุญคลีปลั่งศิริ" ขุนพลยุคแรกของกลุ่มชินวัตร)  ฝีมือการบริหาร การประสานงาน การเจรจาต่อรองธุรกิจ เรียกได้ว่าเป็นมือประสานสิบทิศ และไม่เป็นรองใครในจักรวาลโทรคมไทย

สมประสงค์ บุญยะชัย จบปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปัจจุบัน) และปริญญาโทสาขาเดียวกันที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT)

เขาเคยรับราชการอยู่กองทัพอากาศ และต่อมาย้ายมาอยู่ ปูนซิเมนต์ และไปทำงานที่ไอบีเอ็มถึง 10 ปีเต็ม 

สมประสงค์ กลายเป็นหนึ่งในผู้บริหารโทรคมที่น่าจับตา ครั้งเมื่อเข้าร่วมงานกับ “ชินคอร์ป” ตั้งแต่ปี 2535 และขึ้นนั่งกรรมการ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ช่วงปี 2537-2551 และควบนั่งประธานคณะกรรมบริหารตั้งแต่ปี 2542-2551

ปี 2543 เขานั่งกรรมการบริหาร บริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จนมาปี 2551 เขาไปนั่งประธานคณะกรรมการบริการ บมจ.ไทยคม และนั่งรองประธานกรรมการ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ควบประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.อินทัช โฮลดิ้ง จนถึงปี 2553 นั่งกรรมการบริษัท บมจ.อินทัช โฮลดิ้ง

ความสำเร็จของ “ชินคอร์ป” หรือ เอไอเอส ต้องมีชื่อของ “สมประสงค์” ที่ฝากผลงานไว้อย่างเป็นที่ประจักษ์ เขาทำให้เอไอเอสเติบโตขึ้นแซงหน้าโทรศัพท์พื้นฐานจนกลายเป็นผู้นำระบบสื่อสารยุคใหม่ของไทย พื้นเพจากวิศวกรทำให้ “สมประสงค์” มีแนวคิดในการบริหารงานยากๆ ได้ดี แก้ปัญหาเก่ง โดยเฉพาะในเรื่องโทรคมนาคม ที่ยุคแรกนั้นนับเป็นเรื่องที่ท้าทายของโลกธุรกิจเป็นอย่างมาก
 

ใครอาจยังไม่รู้ว่า “สมประสงค์” คนนี้ คือ คนที่เลือก “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นั่งเก้าอี้กรรมการผู้อำนวยการเอไอเอส ช่วงปี 2545 โดยช่วงแรกสมประสงค์ รับหน้าที่เป็นทั้งพี่เลี้ยง และเจ้านายโดยตรงที่ดูแล ยิ่งลักษณ์ และมอบหมายงานจน "ยิ่งลักษณ์" ขึ้นไปเป็นประธานกรรมการบริหารบริษัท เอไอเอส เป็นตำแหน่งสุดท้าย

อย่างไรก็ตาม ต้นปี 2549 ตระกูลชินวัตรได้ขายหุ้นถือครองทั้งหมดในชิน คอร์ปอเรชั่น ให้แก่บริษัทในเครือของเทมาเส็ก โฮลดิงส์ ของรัฐบาลสิงคโปร์ เป็นดีลซื้อขายหุ้นที่มีมูลค่ารวมสูงสุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระหว่างนั้น สถานการณ์การเมืองวุ่นวาย จนสิ้นสุดยุคของผู้ก่อตั้ง ชินคอร์ป ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) จนถึงปัจจุบัน

สมประสงค์ นั่งบริหารอินทัชเรื่อยมา ปรับโฉม แต่งตัวใหม่ให้ "อินทัช" กลายเป็น บิ๊กคอร์ป ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการเมือง หนึ่งในผลงานของ "สมประสงค์" ในยุคหนึ่งที่ลืมไม่ได้ คือ พาเอไอเอส ชนะการประมูล 4จี คลื่นความถี่ 900 MHz ในราคา 75,654 ล้านบาท และหลังจากนั้นเขาค่อยๆ เฟดตัวผ่องถ่ายงานออกไปให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ก่อนเกษียณ 

“สมประสงค์” อยู่ใต้ชายคากลุ่มอินทัชมานานมากกว่า 24 ปี และดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารมากกว่า 7 ปี

สมประสงค์ เคยขยับตัวครั้งใหญ่ หลังจากนั้นอีกครั้ง คือ การก้าวไปรับตำแหน่งในธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์เป็นครั้งแรก เขาไปนั่งเป็นประธานคณะกรรมการบริหารที่ บีอีซี เวิลด์ (ช่อง 3) และก็อยู่ในตำแหน่งไม่นานก็ลาออก รวมถึงเขายังเป็นบอร์ดของบริษัทต่างๆ อีกหลายบริษัท จนตำแหน่งล่าสุดที่เขามีกับ เอไอเอส ได้สิ้นสุดลง 

“สมประสงค์” ลาออกจากคณะกรรมการของเอไอเอส ทิ้งทุกตำแหน่ง ปิดตำนานขุนพลบริหารโทรคมที่เก่งที่สุดในยุคหนึ่ง