รู้จัก "Metaverse" เทคโนโลยีสุดล้ำ ที่อาจไม่ไกลตัวอีกต่อไป

ขณะนี้ ทั่วโลกจับตาความเปลี่ยนแปลงล่าสุดของยักษ์ใหญ่ “Facebook Inc.” (เฟซบุ๊ค อิงค์) ของสหรัฐ หลังจากเมื่อวันพฤหัสบดี (29 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) Facebook ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “เมทา” (Meta) เพื่อเดินหน้าวิสัยทัศน์ “เมทาเวิร์ส” (Metaverse) อย่างเต็มตัว

นั่นทำให้หลายฝ่าย รวมถึงผู้บริโภคอย่างเรา ๆ อดสงสัยไม่ได้ว่า เมทาเวิร์ส คืออะไร และเกี่ยวข้องกับบริษัทเฟซบุ๊ค หรือชื่อใหม่ว่า เมทา อย่างไร

ข้อมูลจาก BBC ระบุว่า เมทาเวิร์ส คือแนวคิดที่บริษัทด้านเทคโนโลยี นักการตลาด และนักวิเคราะห์ กำลังพูดถึงกันอย่างมากว่า จะเป็นสิ่งล้ำยุคในโลกอนาคต

ผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่บางแห่งอย่าง มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก จาก Facebook และทิม สวีนีย์ จากเอปิกเกมส์ (Epic Games) กำลังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

• เมทาเวิร์สคืออะไร

สำหรับคนภายนอก เมทาเวิร์สอาจจะเป็นเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน หรือ VR (Virtual Reality) ในแบบที่ล้ำสมัยยิ่งขึ้นอีก แต่สำหรับบางคนอาจคิดว่า เมทาเวิร์สคืออนาคตแห่งโลกอินเทอร์เน็ต

หรืออีกนัยหนึ่ง เมทาเวิร์สอาจจะเหมือนกับสมาร์ทโฟนในยุคสมัยใหม่เปรียบเทียบกับโทรศัพท์มือถือในยุคทศวรรษ 1980

แทนที่จะอยู่ในคอมพิวเตอร์ ในเมทาเวิร์ส คุณอาจใช้ชุดหูฟังในการเข้าสู่โลกเสมือนจริงเชื่อมต่อกับสิ่งแวดล้อมดิจิทัลทุกอย่างได้

เมทาเวิร์สต่างจาก VR ในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกใช้ในการเล่นเกม โลกเสมือนจริงของเมทาเวิร์สอาจถูกใช้งานในการทำสิ่งต่าง ๆ ทั้งทำงาน เล่นเกม ชมคอนเสิร์ต ดูภาพยนตร์ หรือแม้แต่การออกไปสังสรรค์กับเพื่อน

คนส่วนใหญ่จินตนาการว่า คุณจะมีร่างอวตาร 3 มิติ ที่เป็นตัวแทนของตัวเองขณะที่กำลังใช้งานเมทาเวิร์ส แต่เพราะเทคโนโลยีนี้ยังเป็นเพียงแนวคิด จึงยังไม่มีนิยามที่เห็นตรงกันเพียงอย่างเดียวสำหรับเมทาเวิร์ส

• ทำไมเมทาเวิร์สถึงสำคัญ

มีเรื่องที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับโลกดิจิทัลและเทคโนโลยีโลกเสมือนผสานโลกแห่งความจริงเกิดขึ้นทุก ๆ 2-3 ปี แต่หลังจากนั้นก็สูญหายไป

อย่างไรก็ตาม เมทาเวิร์สสร้างความตื่นเต้นอย่างมากในหมู่นักลงทุนที่มั่งคั่งและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต่าง ๆ ไม่มีใครต้องการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ถ้าหากเมทาเวิร์สกลายเป็นอนาคตแห่งโลกอินเทอร์เน็ตจริง ๆ

นอกจากนี้ นี่ยังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้คนเกิดความรู้สึกขึ้นว่า เทคโนโลยีนี้เข้าใกล้ความเป็นจริงแล้ว จากความก้าวหน้าของ VR และการเชื่อมต่อกัน

• Facebook เกี่ยวข้องอย่างไร

จากการรีแบรนด์เป็น เมทา ยิ่งตอกย้ำว่า Facebook กำลังให้ความสำคัญกับเมทาเวิร์สมากเป็นอันดับแรก ๆ ในบรรดาธุรกิจทั้งหมดของตน

นักวิเคราะห์บางส่วนระบุว่า Facebook ได้ลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนผ่านอุปกรณ์หูฟังโอคูลัส (Oculus) ทำให้อุปกรณ์นี้มีราคาถูกกว่าของคู่แข่ง และอาจจะถึงขั้นขาดทุน

นอกจากนี้ Facebook ยังได้สร้างแอพพลิเคชั่น VR หลายตัวสำหรับการสังสรรค์เข้าสังคมและการทำงาน รวมถึงตัวที่มีปฏิสัมพันธ์กับโลกแห่งความเป็นจริง

แม้ว่า Facebook จะเคยมีประวัติในด้านการเข้าซื้อบริษัทคู่แข่ง แต่บริษัทระบุว่า เมทาเวิร์สจะไม่ถูกสร้างขึ้นภายในชั่วข้ามคืนโดยบริษัทเพียงแห่งเดียว และรับปากว่าจะร่วมมือกับบริษัทอื่น

เมื่อไม่นานนี้ Facebook ได้ลงทุน 50 ล้านดอลลาร์ (ราว 1,670 ล้านบาท) ในการสนับสนุนกลุ่มที่ไม่แสวงหาผลกำไรหลายแห่งให้ช่วย “สร้างเมทาเวิร์สอย่างมีความรับผิดชอบ”

อย่างไรก็ตาม บริษัทของซักเคอร์เบิร์ก คาดว่า แนวคิดเมทาเวิร์สที่แท้จริง ๆ จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 10-15 ปี

 

• เมทาเวิร์สมีแต่เกี่ยวกับเกมใช่ไหม?

คำตอบคือ ไม่ใช่ แต่มีหลายแนวคิดว่า เมทาเวิร์สอาจเป็นอะไรได้บ้าง คนส่วนใหญ่เห็นว่า การมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างมนุษย์เป็นเรื่องหลัก

ยกตัวอย่าง Facebook ได้ทดลองกับแอพพลิเคชั่นประชุม VR ที่ชื่อว่า เวิร์คเพลซ (Workplace) และแอพพลิเคชั่นสำหรับการเข้าสังคมที่ชื่อว่า ฮอไรซันส์ (Horizons) โดยทั้งสองแอพฯนี้ได้ใช้ระบบตัวแทนผู้ใช้งานเสมือนจริง (virtual avatar system)

VRChat ซึ่งเป็นแอพฯ VR อีกตัวหนึ่ง ก็มีการนำมาใช้งานในด้านการสังสรรค์และพูดคุยกันทางโลกออนไลน์ โดยไม่ได้มีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์อื่นนอกจากการสำรวจสภาพแวดล้อมและพบปะผู้คน

อย่างไรก็ดี ในอนาคตอาจจะมีแอพฯ อื่น ๆ ที่กำลังรอการค้นพบและถูกสร้างขึ้น

• เทคโนโลยีนี้มีอยู่จริงหรือยัง

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา VR มีความก้าวหน้าขึ้นมาก มีหูฟังที่ทันสมัยที่สามารถหลอกตาคนให้เห็นภาพ 3 มิติได้ ขณะที่ผู้ใช้งานเคลื่อนที่ไปในโลกเสมือนจริง มันได้กลายเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้งานมากขึ้น โดยชุดหูฟังโอคูลัส เควสต์ 2 (Oculus Quest 2) สำหรับเล่นเกม VR ได้เป็นของขวัญยอดนิยมในช่วงเทศกาลคริสต์มาสปี 2020

ความสนใจใน NFTs (ย่อมาจาก non-fungible token ที่แปลว่า เหรียญที่ไม่สามารถทดแทนได้) ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นวิธีในการแกะรอยหากรรมสิทธิ์ในสินค้าดิจิทัล อาจเป็นตัวชี้ว่า เศรษฐกิจเสมือนจริงทำงานอย่างไร

โลกดิจิทัลที่ก้าวหน้ามากขึ้นจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกันที่ดีขึ้น มั่นคงขึ้น และคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นด้วยการมาของ 5G

ณ ขณะนี้ ทุกอย่างยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น หากการพัฒนาเมทาเวิร์สเกิดขึ้นจริง ๆ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งจะต้องช่วงชิงกันในช่วงทศวรรษหน้า หรืออาจจะยาวนานกว่านั้นก็เป็นได้