สตาร์ทอัพไทยร้อนฉ่า! "3 ยูนิคอร์น" ผงาดในปีเดียว
จับตา "3 ธุรกิจ" ที่กำลัง SEXY ในสายตาบิ๊กคอร์ป ที่ต้องการสยายปีก ขยายอาณาจักร ทั้ง 3 ธุรกิจปลุกเสน่ห์ให้สตาร์ทอัพเมืองไทยกลับมา "ร้อนแรง" และ น่าจับตาอย่างยิ่ง "ขนส่งโลจิสติกส์ - บริการด้านการเงินดิจิทัล - และสินทรัพย์ดิจิทัล" นี่คือธุรกิจแห่งโลกอนาคตอย่างแท้จริง
แม้สถานการณ์โควิด จะสร้างความเจ็บช้ำให้ระบบเศรษฐกิจไทยมากน้อยแค่ไหน แผลเป็นที่ยังไม่ตกสะเก็ดดี แต่เมื่อมองถึงข้อดีของโควิดคือ การบีบให้ทุกคน Go Online อย่างไม่มีทางปฏิเสธได้ ทั้งผู้ประกอบการธุรกิจ วิถีชีวิต ระบบเศรษฐกิจ ล้วนมุ่งสู่เส้นทางออนไลน์ด้วยกันทั้งสิ้น กลุ่มธุรกิจที่กลายเป็นดาวเด่น ท่ามกลางความโชคร้ายของประเทศคือ สตาร์ทอัพไทย ที่เป็นดาวดับมานาน มาปี 2564 เพียงปีนี้ปีเดียวที่สร้าง "ยูนิคอร์น" หรือสตาร์ทอัพ ที่มีขนาดบริษัทเกินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ขึ้นไป ให้ประเทศไทยได้ปลื้มปริ่มถึง 3 ตัว ได้แก่ ... แฟลช กรุ๊ป, Ascend Money และล่าสุด Bitkub
"3 ธุรกิจ" หลักของทั้ง 3 ยูนิคอร์นนี้ กำลังหอมหวาน ปลุกเสน่ห์ให้สตาร์ทอัพไทย ทั้งธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ ธุรกิจบริการด้านการเงินดิจิทัล และสินทรัพย์ดิจิทัล คือ ธุรกิจแห่งโลกอนาคตอย่างแท้จริง
แฟลช เอ็กซ์เพรส ยูนิคอร์น ตัวแรก
เริ่มต้นปีในต้นเดือน มิ.ย.เมื่อ "คมสันต์ ลี" หนุ่มจากยอดดอยแห่งเชียงราย ดัน บริษัทโลจิสติกส์ สัญชาติไทยอย่าง แฟลช เอ็กซ์เพรส ผู้ให้บริการด้านขนส่งเอกชนโลจิสติกส์ ผู้นำอีคอมเมิร์ซ ปิดดีลยักษ์จากการระดมทุนรอบซีรีย์ D+ และ ซีรีย์ E จากกลุ่ม Buer Capital Limited และ SCB 10X เข้าร่วมทุน พร้อม eWTP -โออาร์-เดอเบล-กรุงศรีฟินโนเวต ที่ลงเพิ่มได้เม็ดเงินรวมไปกว่า 150 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 4,700 ล้านบาท นับเป็นสตาร์ทอัพไทยรายแรก ที่สามารถระดมทุนรวมได้มากที่สุดในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี ทำให้ธุรกิจมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 30,000 กลายเป็นยูนิคอร์นรายแรกของไทย และประกาศขึ้นเป็นขนส่งเอกชนอันดับ 1 ด้วยตัวเลขจัดส่งพัสดุต่อวันสูงสุดร่วม 2 ล้านชิ้น
Ascend Money ผงาดยูนิคอร์นตัวที่ 2 (ฟินเทค ยูนิคอร์น)
ถัดจากนั้นราว 4 เดือน ประมาณเดือน ก.ย แอสเซนด์ มันนี่ (Ascend Money) หนึ่งในธุรกิจเรือธง ให้บริการด้านการเงินดิจิทัลของ "เครือซีพี" หนึ่งในธุรกิจอนาคตที่เป็นความหวัง และต้องการก้าวสู่ผู้เล่นในระดับผู้นำของภูมิภาค กลายเป็นบริษัทที่ทะยานสูง มีมูลค่าเพิ่มเป็น 1,500 ล้านดอลลาร์ ภายหลังระดมทุนรอบใหญ่กวาดเม็ดเงินไป 150 ล้านดอลลาร์ และก้าวสู่การเป็นบริษัทฟินเทคยูนิคอร์นของไทย การระดมทุนมาจาก บริษัท โบว์ เวฟ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ (Bow Wave Capital Management) จากสหรัฐอเมริกา มาลงทุนร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และแอนท์ กรุ๊ป
ปัจจุบัน “ทรูมันนี่” ถือเป็นบริการเรือธงของ แอสเซนด์ มันนี่ ครองผู้นำในตลาดอีวอลเล็ต มียอดผูู้ใช้ในไทยมากกว่า 20 ล้านราย ขณะที่มียอดธุรกรรม (มูลค่า) รวม 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ้นปี 2563 จำนวน 14,000 ล้านดอลลาร์ มียอดธุรกรรม (จำนวนครั้ง) รวม 6 ประเทศสิ้นปี 2563 มากกว่า 2,200 ล้านครั้ง ยอดผู้ใช้งานรวม 6 ประเทศ มากกว่า 50 ล้านราย มีจำนวนตัวแทนในทั้ง 6 ประเทศ รวมกว่า 88,000 ราย
Bitkub ยูนิคอร์นตัวที่ 3
และล่าสุด Bitkub อาณาจักรธุรกิจของคนรุ่นใหม่ นำโดย “จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา” ซีอีโอและผู้ก่อตั้งได้ “กลุ่มเอสซีบี เอ็กซ์” (SCBX) ประกาศเข้าลงทุนใน “บิทคับ ออนไลน์” ด้วยการเข้าซื้อหุ้นสามัญในสัดส่วน 51% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 17,850 ล้านบาท ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) ที่สำคัญ ดีลนี้ยังส่งผลให้ Bitkub ก้าวขึ้นสู่สถานะ “ยูนิคอร์น” เบอร์สองของไทยอย่างเป็นทางการ
ดีลนี้ในวงการลงทุนได้ประเมินมูลค่าทั้ง “Bitkub” ที่เขาถือหุ้น 23.87% ใน“บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์” หมายความว่า “จิรายุส” จะมีมูลค่าหุ้นที่ถือในบริษัทราว 8,354 ล้านบาท จากบริษัทที่สูงถึง 35,000 ล้านบาท และเมื่อ SCBS ประกาศซื้อหุ้น 51% ของบริษัท นั่นหมายความว่า เขาจะได้เงินสดจาก SCBS ทันที 4,260 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าสัดส่วนหุ้นที่เหลือที่ยังไม่ได้ขายก็น่าจะทำให้เขายังมีบทบาทในบริษัทต่อไป และเป็น “คนสำคัญ” ที่ยังคงพัฒนาสิ่งใหม่ในโลกคริปโทเคอร์เรนซี ที่จะเป็น “สะพานเชื่อมโยงโลกเก่าสู่โลกอนาคต” ให้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจไว้ให้คนไทยภาคภูมิใจ
อีกไม่ถึง 2 เดือนดี จะก้าวเข้าสู่ปี 2565 อย่ากะพริบตา และอย่าได้แปลกใจ หากจะมียูนิคอร์นตัวที่ 4 5...ตามมา เพราะสตาร์ทอัพไทยกำลังแรงได้ที่!!!
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์