“กู๊ด ดอกเตอร์ฯ” ฉายกลยุทธ์บุกตลาดไทย ส่งเทคโนฯดิจิทัลสุขภาพดูแลผู้ป่วย
หลายคนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีกับ “กู๊ด ดอกเตอร์ เทคโนโลยี” ที่เบนเข็มสู่การให้บริการทางการแพทย์ในไทย ในการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 แบบโฮมไอโซเลชั่น ได้เป็นจำนวนมาก ในเขตปทุมวัน แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้เทคโนโลยีแพทย์ทางไกล ช่วงวิกฤติโควิดที่เกิดขึ้น
กู๊ด ดอกเตอร์ เทคโนโลยี (Good Doctor Technology: GDT) บริษัทเทคโนโลยีด้านสุขภาพระดับภูมิภาคที่ยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่ว่า “หนึ่งแพทย์ต่อหนึ่งครอบครัวทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA)” โดยเป็นแพลตฟอร์มบริการดูแลสุขภาพแบบครบวงจรชั้นนำของจีนในรูปแบบดิจิทัล ที่ล่าสุดได้มีการร่วมกับ Grab แพลตฟอร์ม O2O แนวหน้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบริษัทนักลงทุนทางด้านเทคโนโลยีชั้นนำ
ทั้งนี้ภายใต้โครงการกักตัวดูแลที่บ้าน หรือ Home Isolation ได้มีการผสมผสานการปฏิบัติงาน ณ คลินิกเวชกรรมจีดีทีที พร้อมการให้คำปรึกษาผ่านแอพพลิเคชันกู๊ด ดอกเตอร์โดยทีมแพทย์ประจำการจีดีทีที เพื่อเป็นการส่งเสริมและต่อยอดการบริการสุขภาพผ่านสถานพยาบาลรูปแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งการเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้ป่วยในการเข้าถึงทีมแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา รวมไปถึงการส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ไปยังสถานพยาบาลเครือข่าย หากผู้ป่วยมีอาการแย่ลง
ในฐานะผู้ให้บริการสุขภาพในรูปแบบดิจิทัล จีดีทีทีตระหนักถึงความเร่งด่วนในการเข้าช่วยเหลือและร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการปัญหาโควิด-19 โดยการประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพจีดีทีที เพื่อเน้นย้ำวิสัยทัศน์ของจีดีทีทีในการส่งมอบ “หนึ่งแพทย์ต่อหนึ่งครอบครัวทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ SEA” โดยแอปพลิเคชัน กู๊ด ดอกเตอร์ ได้รับการออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่เชื่อถือได้อย่างรวดเร็ว โดยนอกเหนือจากบริการการแพทย์ทางไกลแล้ว ยังมีส่วนลดพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
พร้อมทั้งบทความและเคล็ดลับสุขภาพที่คัดสรรพิเศษโดยทีมแพทย์ประจำการ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกคำถามและความกังวลทางด้านสุขภาพของคนไทย ซึ่ง ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่มีการพิสูจน์แล้วว่าสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพในประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศอินโดนีเซียหรือประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จีดีทีทีเริ่มดำเนินการจัดตั้งทีมงานและคลินิกเวชกรรม รวมทั้งได้ รับใบอนุญาต ให้สามารถให้บริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) อย่างเป็นทางการ เพื่อเปิดให้บริการในประเทศไทย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จีดีทีทีมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความสามารถของทีมงานในประเทศไทย ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุด ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากประเทศอื่น ในภูมิภาคเอเชีย ว่าสามารถช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างแท้จริง
ด้าน เมลวิน หวู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับภูมิภาคของ กู๊ด ดอกเตอร์ เทคโนโลยี ให้มุมมองเพิ่มติมกับสื่อ เกี่ยวกับการโอกาสของการแพทย์ทางไกล ในยุคของการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 ว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ นำไปสู่การประยุกต์ใช้การแพทย์ทางไกล ในการส่งมองบริการสุขภาพในอัตราก้าวกระโดด โดยหน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชน นอกเหนือจากการพึ่งพาสถานพยาบาลรูปแบบดั้งเดิม ทำให้คนจำนวนมากรับรู้ถึงประโยชน์ของการแพทย์ทางไกลมากขึ้น และมีการตอบรับต่อบริการสุขภาพในรูปแบบดิจิทัลที่ดีขึ้น ตนและทีมงานมุ่งหวังที่จะขยายการให้บริการในประเทศไทย เพื่อให้เขาถึงกลุ่มคนจำนวนกว้างขึ้น พร้อมทั้งพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ในแอพพลิเคชัน กู๊ด ดอกเตอร์ เพื่อให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ความต้องการทางด้านสุขภาพของผู้ใช้งานในประเทศไทยยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ซึ่งที่ผ่านมาการเติบโตของกู๊ดดอกเตอร์ฯ มีการเติบโตถึง 6 เท่าของผู้ใช้งานบน Grabhealth และแอพฯของกู๊ดดอกเตอร์ฯในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด พร้อมกับการเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทประกันภัยกว่า 40 บริษัท อีกทั้งการให้บริการคำปรึกษาที่เกี่ยวข้องกับโควิดในระหว่างการระบาดรอบแรก และรอบที่สองที่มีการเติบโตกว่า 700% รวมทั้งเป็นพาร์ทเนอร์กับร้านขายยา โรงพยาบาลทั่วประเทศอินโดนีเซียกว่า 4 พันแห่ง โดยที่มีแพทย์ผู้ให้คำปรึกษากว่า 6 พันราย คลินิกการแพทย์เฉพาะทาง 26 แห่ง และเมืองที่เข้าถึงบริการกว่า 100 เมือง
ทั้งนี้การเติบโตอย่างต่อเนื่องของการให้บริการในประเทศไทยที่มีประสบการณ์โดยรวมทางด้านเทเลเมดิซีนกว่า 7 ปี รวมทั้งเครือข่ายร้านขายยาทั่วประเทศกว่า 250 แห่ง บวกกับประสิทธิภาพทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นกว่า 8 เท่า ที่สามารถเชื่อมต่อกับแพทย์ได้ภายใน 60 วินาที อีกทั้งยังจะได้รับการวินิจฉัยและแผนการรักษาได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 15 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง ใน 365 วัน และมีการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ให้ภายใน 1 ชั่วโมง
ส่วนโควิดกับโอกาสของการแพทย์ทางไกล มองว่า ในภูมิภาคเอเชีย ประเทศอินโดนีเซีย จีน และไทย เป็น 3 ประเทศที่มีส่วนแบ่งของอัตราการทำธุรกิจกรรมบนมือถือมากที่สุด ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตที่ทำธุรกรรมที่จำเป็นต่างๆในชีวิตประจำวัน ซึ่งโควิดเร่งการเติบโตของการแพทย์ทางไกล ในอัตราที่สูงขึ้นจะเห็นได้จากตัวเลขการใช้บริการที่สูงที่สุดในเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา เพราะด้วยท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด การแพทย์ทางไกลถือเป็นทางออกที่ปลอดภัยที่สุดและสะดวกสบาย
ส่วนขอบเขตการให้บริการ อาทิ Wellness (ความสุขสมบูรณ์) เบาหวาน ไขมันสูง ความดันสูง โรควิตกกังวล อาการป่วยทั่วไป โฮมแคร์
นอกเหนือจากการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพในช่วงของการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 นพ. สุทธิชัย โชคกิจชัย หัวหน้าฝ่ายการแพทย์ บริษัท กู๊ด ดอกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ยังอธิบายเพิ่มเติมถึงการนำบริการการแพทย์ทางไกลเข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบริการสุขภาพปฐมภูมิ และส่งเสริมระบบสาธารณสุขของประเทศไทยว่า การแพทย์ทางไกลจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพของคนไทย ซึ่งเข้าใจดีว่าคนไทยจำนวนไม่น้อย เลือกที่จะหลีกเลี่ยงหรือไม่เข้ารับคำปรึกษาที่สถานพยาบาลรูปแบบเดิม เนื่องจากข้อจำกัดด้านการเดินทาง ปัญหาการรอคิวที่ยาวนาน ภายใต้เวลาอันจำกัด รวมถึงความหนาแน่นของกลุ่มคนที่เข้ามารอใช้บริการ อุปสรรคในการเข้าถึงบริการสุขภาพเหล่านี้ส่งผลให้คนส่วนใหญ่ เลือกที่จะวินิจฉัยอาการป่วยด้วยตนเอง
ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อตัวผู้ป่วยเองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาด แต่การปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันกู๊ด ดอกเตอร์ ที่ได้รับการออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน จะช่วยขจัดอุปสรรคที่กล่าวมาข้างต้น ผู้คนก็ไม่จำเป็นต้องคิดหาหนทางเอง สามารถเข้ามาพบทีมแพทย์ประจำการของเราได้แทบจะทันที
ขณะเดียวกันในวันที่ 25 สิงหาคม ปี 2564 ที่ผ่านมา จีดีทีทีได้รับการการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้เป็นผู้ให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการและผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงระหว่างการแยกกักตัวอยู่ที่บ้านหรือ Home Isolation โดยดูแลผู้ป่วยได้ 38 เขตทั่วกรุงเทพฯ ถือได้ว่าครอบคลุมอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งรับผู้ป่วยได้ 15 คนต่อวัน
“การเติบโตของจีดีทีที 20% นั้นเกิดจาก World of mouse เนื่องจากการบริการที่มีประสิทธิภาพ และการดูแลผู้ป่วยอย่างครบวงจร จนกระทั่งเมื่อรักษาเสร็จสิ้นผู้ป่วยสามารถขอใบรับรองแพทย์ได้ด้วยเช่นกัน ราคาก็สามารถเข้าถึงได้ง่าย การใช้งานสะดวก และมีเจ้าหน้าคอยให้คำแนะนำตลอดเวลา ซึ่งในปัจจุบันการให้บริการจะเป็นในรูปแบบโมเดล B2B ส่วนในอนาคตจะมีการขยายสู่ B2C ด้วยเช่นกัน คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปีนี้”
ด้าน สุชาดา เข็มเงิน หนึ่งในผู้ป่วยรายแรก ๆ ที่ได้เข้าร่วมโครงการ Home Isolation ได้แสดงความคิดเห็นถึงความมีประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการพบแพทย์และการรับการรักษาผ่านแอพพลิเคชัน Good Doctor ว่า ในตอนแรกมองว่าการใช้งานแอพพลิเคชัน Good Doctor จะยุ่งยาก แต่ทีมแพทย์และแอดมินก็ให้คำแนะนำการใช้เป็นอย่างดี จนกระทั่งได้รับคำปรึกษาอย่างรวดเร็วและตรงจุดทุกครั้งที่กังวลเกี่ยวกับอาการ นอกจากนี้การส่งยาและอุปกรณ์การแพทย์ได้ภายใน 1 ชั่วโมง ก็น่าประทับใจเป็นอย่างมาก
ภายใต้ใบอนุญาตการแพทย์ทางไกลจากกระทรวงสาธารณสุข จีดีทีทีวางแผนที่จะมอบบริการทางการแพทย์ที่เข้าถึงง่าย ในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งรวมถึงการดำเนินงานตามมาตรฐานสากล เพื่อให้คำปรึกษาผ่านทางข้อความอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยรูปแบบของการให้บริการแบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ที่เป็นเอกลักษณ์นี้ ผู้ป่วยที่พบแพทย์ออนไลน์ ก็สามารเข้าพบแพทย์คนเดิม ณ คลินิกจีดีทีที ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกและช่วยให้เกิดความต่อเนื่องทางด้านการรักษา จีดีทีทีเชื่อว่า การมอบบริการแบบองค์รวม ในแง่ของการมอบข้อมูลความรู้เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย
รวมถึงการเพิ่มความรวดเร็วและทางเลือกในการเข้าถึงบริการสุขภาพยามเจ็บป่วย จะช่วยลดช่องว่างในการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนไทยส่วนใหญ่ได้ จีดีทีทีร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร ทั้งเครือข่ายร้านขายยา หน่วยงานทางการแพทย์ ตลอดจนผู้ให้บริการจัดส่งสินค้า โดยมุ่งหวังที่จะช่วยพัฒนามาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์ที่หลากหลาย และเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพดิจิทัลของประเทศไทย