รู้จัก "Metaverse" และเทรนด์ "โลกเสมือนจริง" ที่อาจมาแรงในปี 2022

นาทีนี้ทุกสปอตไลท์ต่างสาดส่องไปยังเทคโนโลยี "Metaverse" ที่ทาง Facebook เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน ทำให้ทั้งวงการธุรกิจไอทีและผู้ใช้งานสื่อโซเชียลตื่นเต้นกันไปทั่วโลก 

แต่ใช่ว่าเราจะสามารถใช้เทคโนโลยี Metaverse กันได้ในเร็ววัน เพราะยังต้องมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องเตรียมให้พร้อม ก่อนจะมุ่งหน้าสู่โลกเสมือนจริงใบใหม่ โดยเฉพาะการเตรียมพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์และระบบที่จะมารองรับ ที่ต้องพัฒนาให้ล้ำหน้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น 

• AR (Augmented Reality) : เทคโนโลยีจำลองวัตถุ 3 มิติ นำวัตถุเสมือนมาใช้กับโลกความเป็นจริง โดยใช้งานผ่านอุปกรณ์แสดงภาพอย่างแว่นตา, จอภาพ, จอสมาร์ทโฟน
• VR (Virtual Reality) : เทคโนโลยีจำลองสถานที่ขึ้นมาเป็นโลกเสมือน (แยกออกจากโลกความเป็นจริง) ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับสถานที่จำลองนั้นๆ ได้ ผ่านอุปกรณ์แป้นพิมพ์, เม้าส์, ถุงมือ, รองเท้า ฯลฯ

รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5G ที่ต้องแรงเร็วทะลุขีดจำกัด เพื่อให้ใช้อุปกรณ์เหล่านั้นได้แบบเรียลไทม์ เร็วทันใจ และไม่สะดุด

เมื่อพูดถึงเรื่องเครือข่ายสัญญาณอินเทอร์เน็ตแล้ว ชวนไปดูว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและสินค้าไอทีในเมืองไทย มีมุมมองต่อเทคโนโลยี Metaverse ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกอย่างไรบ้าง? และไทยมีความพร้อมแค่ไหน?

 

1. รับกระแส Meta ไทยมุ่งสู่ Metaverse Human

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวถึงศักยภาพและการลงทุนด้านโครงข่ายอัจฉริยะ AIS 5G และเทรนด์ Metaverse เอาไว้ว่า เครือข่าย 5G จะช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนให้เหนือระดับมากกว่าเดิม ซึ่งวันนี้กระแสของ Metaverse กำลังเข้ามาทำให้เส้นแบ่งระหว่างโลกจริงกับโลกเสมือนค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ

“หนึ่งสิ่งในเทรนด์ Metaverse ที่เราคิดว่าสามารถจับต้องและสามารถส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัลให้กับคนไทยได้ก็คือ Metaverse Human หรือ มนุษย์ในโลกเสมือน"

ปี 2021 เป็นปีที่ AIS เปิดตัว "V-Avenue" by AIS 5G แหล่งรวมศูนย์การค้าชั้นนำและร้าน SME บนโลกเสมือนจริงแห่งแรกของโลก ผ่านประสบการณ์ 5G Virtual Reality โดยได้เปิดตัว น้องไอรีน Virtual Influencer คนแรกของไทย ที่สร้างความฮือฮาให้เหล่าสาวกไอทีในช่วงเดือนตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา

 

2. Metaverse เชื่อมโลกเสมือน-โลกความจริง ไร้รอยต่อ

สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS ให้มุมมองต่อเทคโนโลยี Metaverse ว่า เมื่อโลกในยุคนี้เรามี IoT หรืออุปกรณ์ทุกสิ่งเชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ตจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ พฤติกรรมของผู้บริโภคจะถูกเชื่อมต่อกับโลกอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ผู้คนจะยิ่งมีความต้องการใช้งานเครือข่าย 5G ที่เร็วแรงมากขึ้น

ยิ่งในยุคที่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ผู้คนหันมารับชมความบันเทิงผ่านหน้าจอบนโลกออนไลน์ จึงยิ่งทำให้เทคโนโลยี Virtual Reality, Augmented Reality หรือแม้แต่ Metaverse จะก้าวเข้ามาสร้างโลกเสมือนจริง  สร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ในการใช้ชีวิตให้ผู้บริโภค ให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างโลกเสมือนกับโลกแห่งความจริงได้อย่างไร้รอยต่อ และจะกลายเป็นวิถีปกติใหม่ในที่สุด

3. Metaverse ส่งแรงหนุนบริษัทเทค เร่งพัฒนาบุคลากรดิจิทัล

ด้าน จาง ผิงอัน ประธานกรรมการฝ่ายการบริการคลาวน์, หัวเว่ย แสดงทัศนะต่อการมาเยือนของเทคโนโลยี Metaverse ไว้ว่า

ยิ่งเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปมากเท่าไร บริษัทเทคทั้งหลายก็จะยิ่งเร่งพัฒนาบุคลากรด้านดิจิทัลให้มากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะการรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงต่างๆ และภัยไซเบอร์ ผ่านการอบรมทักษะและดึงความร่วมมือระหว่างประเทศ 

หัวเว่ยเน้นฝึกอบรมทักษะบุคลากรผ่านแพลตฟอร์มความร่วมมือและโครงการมากมายในหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น Huawei ICT Academy Thailand ซึ่งเป็นโครงการส่งต่อองค์ความรู้ใหม่ๆ ด้านเทคโนโลยี ร่วมกับการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลให้แก่นิสิตนักศึกษา

โดยได้รับความร่วมมือสถาบันการศึกษามากกว่า 25 แห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี,  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นต้น

ข้อควรรู้ : ปัจจุบันองค์กรที่เป็นเบอร์ 1 ด้านการพัฒนา 5G ที่ผ่านเกณฑ์ของ NESAS (องค์กรประเมินความปลอดภัยทางไซเบอร์มาตรฐานแห่งหนึ่งของโลก) ได้แก่ Nokia, Ericsson, Huawei และ ZTE

โดยองค์กรที่พัฒนา 5G จนสามารถใช้งานได้จริง (5G deployment) มากที่สุดในโลก คือ Ericsson ซึ่งเป็นผู้ให้บริการถึง 97 เครือข่ายใน 46 ประเทศ จากทั้งหมด 72 ประเทศ (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2021)

----------------------------------------

 อ้างอิง: rcrwireless.com, huaweiconnect2021, ais/V-Avenue, gsma.com/NESAS, ericsson, springnews