‘อีริคสัน’ คาดปี 68 ไทยใช้ 5G พุ่ง 50% ยกเป็น ‘ผู้นำภูมิภาค’-‘เติบโตเร็ว’
“อีริคสัน” คาดสิ้นปีนี้ยอดผู้ใช้ 5จีทั่วโลกแตะ 660 ล้านราย ขึ้นแท่นเครือข่ายไร้สายเติบโตเร็วสุด ประเทศไทยผู้นำระดับภูมิภาค โตเร็ว ปี 2568 คาดผู้ใช้งานทะลุ 50% วิเคราะห์ดีล “ทรู ดีแทค” ส่งผลผู้บริโภคมีตัวเลือกน้อยลง การแข่งขันจะรุนแรง จับตาบริการที่ต้องดีพอ
นายอิกอร์ มอเรล ประธาน บริษัท อีริคสัน ประเทศไทย กล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ยอดผู้ใช้บริการ 5จี ทั่วโลกมีแนวโน้มขยายตัวไปแตะ 660 ล้านบัญชี นับเป็นเจเนอเรชั่นเครือข่ายไร้สายที่มีการนำมาใช้งานรวดเร็วที่สุด
รายงาน อีริคสัน โมบิลิตี้ รีพอร์ต ฉบับล่าสุด เผยว่า ไตรมาส 3 ยอดผู้ใช้ 5จี มีจำนวนเพิ่มขึ้น 98 ล้านบัญชี ขณะที่ผู้สมัครใช้ 4จี รายใหม่มี 48 ล้านบัญชี คาดว่าภายในสิ้นปี 2564 เครือข่าย 5จี จะครอบคลุม 25% ของประชากรโลก สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 2 พันล้านคน
เขากล่าวว่า ภายในปี 2570 เทคโนโลยี 5จี จะกลายเป็นเครือข่ายหลักของโลก โดยมีผู้ใช้งาน 4.4 พันล้านบัญชี หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 50% ของจำนวนผู้ใช้มือถือทั่วโลก ครอบคลุมประชากรโลก 75% และคิดเป็น 62% ของปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน
อย่างไรก็ดี สิ้นปีนี้ยอดผู้ใช้บริการ 5จี ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะเพิ่มขึ้นไปแตะ 15 ล้านบัญชี และจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงสองสามปีนี้ โดยคาดว่าในปี 2570 จะมียอดผู้ใช้ 5จี ถึง 560 ล้านราย
นอกจากนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียจะมีปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตต่อสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่องเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในโลก แตะ 46 กิกกะไบท์ต่อเดือน หรือเติบโตเฉลี่ย 34% ต่อปี สอดคล้องกับปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือทั้งหมดที่เติบโตต่อปีที่ 39% ส่งผลให้มียอดการใช้เน็ตต่อเดือนสูงถึง 46 เอกซาไบท์ (EB)
สำหรับประเทศไทย การใช้ 5จี ยังอยู่ในช่วงระยะเริ่มต้น ผู้ให้บริการเครือข่ายให้ความสำคัญกับการพัฒนาความครอบคลุมโครงข่าย ปัจจุบันรวมทุกค่ายผู้ใช้งาน 5จี มีอยู่ประมาณ 3 ล้านราย โดยมีปัจจัยผลักดันมาจากเติบโตของดิจิทัลคอนเทนท์ และราคาดีไวซ์ที่เข้าถึงได้มากขึ้น
เขาแนะว่า สิ่งผู้ให้บริการเครือข่ายต้องโฟกัสอย่างมากหลังจากนี้ คือ การพัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพสัญญาณ การให้บริการและข้อเสนอแพ็คเกจใหม่ๆ สำหรับผู้บริโภค ประเมินขณะนี้นับว่าตลาดไทยอยู่ตำแหน่งผู้นำและมีความแอคทีฟอย่างมาก
โดยการเปลี่ยนผ่านไปสู่ 5จี มีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และจะมีส่วนสำคัญทำให้เกิดการพลิกโฉมครั้งใหญ่ ทั้งด้านการใช้ชีวิต การทำงาน การพัฒนาคุณภาพชีวิต ยิ่งเกิดวิกฤติโควิด 5จี ยิ่งมีความสำคัญต่อการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ช่วยให้ธุรกิจสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่ดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม
อีริคสันคาดการณ์ว่า เมื่อถึงปี 2568 จำนวนผู้ใช้งาน 5จี ในประเทศไทยจะมีสัดส่วนราว 50-55% ส่วน 4จี จะลดลงเหลือประมาณ 40%
“ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรใช้อินเทอร์เน็ตสูงที่สุดในโลก เมื่อกล่าวถึงภาคอุตสาหกรรมและองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ประเทศไทยคือหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญของภาคอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค โดยมีธุรกิจที่มีศักยภาพจำนวนมากที่นำเทคโนโลยี 5จี มาปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความทันสมัย”
สำหรับการควบรวมกิจการระหว่างกลุ่มทรู และดีแทค อีริคสัน มีมุมมองว่า เมื่อมีผู้เล่นเหลือเพียง 2 ราย แน่นอนว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่น้อยลง โดยทั่วไปในตลาดอื่นๆ มักมีผู้เล่น 3 ราย ส่วนตลาดที่มี 2 ราย และแต่ละรายมีส่วนแบ่งการตลาดห่างกันไม่มาก จะมีการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะเรื่องเน็ตเวิร์ค ผลิตภัณฑ์ และประสบการณ์ลูกค้า ซึ่งเรื่องนี้ผู้มีหน้าที่กำกับดูแลต้องคอยทำหน้าที่ตรวจสอบว่าผู้บริโภคได้รับการบริการที่ดีพอหรือไม่
พร้อมระบุว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่าน จากปี 2554 จนถึงปัจจุบันปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 300 เท่า การสื่อสารบนมือถือก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเหลือเชื่อต่อสังคมและธุรกิจ ในปี 2570 เครือข่ายมือถือจะยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นทั้งในแง่ของการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน รวมถึงการใช้ชีวิต และการทำงาน
โดยตั้งแต่ปี 2554 การนำเครือข่าย 4จี แอลทีอี มาใช้งานถือเป็นปัจจัยกระตุ้นสำคัญที่เพิ่มยอดผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกพุ่งเป็น 5.5 พันล้านคน และเกิดอุปกรณ์ที่รองรับการเชื่อมต่อ 4จี ขึ้นในตลาดมากกว่า 2 หมื่นรุ่น แต่ทั้งนี้วงจรเทคโนโลยีของอุปกรณ์ 5จี นั้นเปลี่ยนแปลงไปได้รวดเร็วกว่า ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือที่รองรับ 5จี มีสัดส่วน 23% ของมือถือทั่วโลกแล้ว