โนเกียส่งแท็บเล็ตรุ่นแรก ‘Nokia T20’ ประเดิมตลาดไทย

โนเกียส่งแท็บเล็ตรุ่นแรก ‘Nokia T20’ ประเดิมตลาดไทย

"Nokia T20" แท็บเล็ตรุ่นแรกใต้แบรนด์ "โนเกีย" มาพร้อมกับแบตที่อึด สเปคดี ราคาคุ้มค่า การันตีอัพเกรดแอนดรอยด์โอเอสให้ 2 ปี เปิดราคาที่ 8,590 บาท

นายภราดร รามบุตร ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล (HMD) เผยว่า เดินเกมรุกตลาดประเทศไทย ด้วยการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตเป็นครั้งแรก นำร่องด้วยการเปิดตัว Nokia T20" แท็บเล็ตใหม่รุ่นแรก มุ่งเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคเข้าถึงสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ราคาคุ้มค่า ตอบโจทย์การใช้งานยุคดิจิทัล ไปพร้อมกับการสร้างแบรนด์โนเกียให้เข้มแข็งในตลาดไทย

โนเกียส่งแท็บเล็ตรุ่นแรก ‘Nokia T20’ ประเดิมตลาดไทย Nokia T20 มากับสเปคที่ดีในราคาสุดคุ้ม หน้าจอ 2K ใสคมชัด ขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว ลำโพงสเตอริโอ OZO Playback และไมค์ 2 ตัวติดตั้งในตัวเครื่อง แบตเตอรี่ 8200mAh ใช้งานท่องเวบออนไลน์ได้นาน 15 ชั่วโมง ประชุมทางโทรศัพท์ได้นาน 7 ชั่วโมง ชมภาพยนตร์ 10 ชั่วโมง พร้อมระบบชาร์จเร็ว

นับเป็นแท็บเล็ตที่มีฟีเจอร์และเทคโนโลยีอเนกประสงค์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อการทำงาน การเรียน และความบันเทิง

มาพร้อมกับ Android 11TM รองรับการอัพเกรด 2 ปี อัพเดทความปลอดภัยรายเดือนตลอด 3 ปี และ Google Kids Space เพื่อความปลอดภัยสำหรับการใช้งานของเด็ก

ด้านการดีไซน์เป็นสไตล์สแกนดิเนเวีย ผลิตด้วยวัสดุคุณภาพ โครงสร้างตัวเครื่องเป็นโลหะเหล็กแข็งแรง ทนทานใช้งานได้ยาวนานตามแบบฉบับโทรศัพท์มือถือโนเกีย กรอบจอ 3 มิติขัดเงา ติดจอขนาดใหญ่เข้ากับตัวเครื่องโลหะ

Nokia T20 ถูกรวมอยู่ในกลุ่มอุปกรณ์ Android Enterprise Recommended (AIR) ตรงตามข้อกำหนดระดับองค์กรที่เข้มงวดของ Google ซึ่งผู้ใช้งานสามารถวางใจได้ว่าเครื่องสามารถสนับสนุนงานของธุรกิจได้ โดย Nokia T20 แท็บเล็ตใหม่ ยังทำงานร่วมกับ HMD Enable Pro ซึ่งเป็นโซลูชั่นการจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ระดับองค์กรที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและสามารถจัดการอุปกรณ์ที่ใช้จากอินเทอร์เฟซแบบครบวงจรอีกด้วย

สำหรับการวางจำหน่ายในประเทศไทยมีสี Nordic Blue (สีน้ำเงิน) หน่วยความจำ RAM 4GB ROM 64GB พร้อมช่องใส่ MicroSD การ์ด 512GB ราคา 8,590 บาท ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ช้อปปี้ ลาซาด้า เจดีเซ็นทรัล

โนเกียส่งแท็บเล็ตรุ่นแรก ‘Nokia T20’ ประเดิมตลาดไทย

ข้อมูลระบุว่า ตลอดปีที่ผ่านมาวิถีชีวิตการทำงาน และการเรียนแบบออนไลน์ เกิดการใช้งานบนโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มวิดีโอคอล และบริการสตรีมมิ่งที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมการใช้งาน

โดยในปี 2564 ทั่วโลกมียอดขายแท็บแล็ต จำนวน 170 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นกลุ่มการใช้งานเป็นผู้ชาย 55% และผู้หญิง 45%  ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทย

จากรายงานล่าสุดของ Counterpoint เกี่ยวกับแท็บเล็ตในตลาดทั่วโลก ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการใช้แท็บเล็ตเพิ่มขึ้นถึง 53% ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2564 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563

ขณะที่รายงาน Connected Consumer Radar ของโนเกียล่าสุดที่พบว่า 27% ของผู้ใช้งานแท็บเล็ตเห็นคุณค่าของแท็บเล็ตที่ใช้งานมากขึ้น ตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกับประเทศไทย ผู้บริโภคต้องการใช้แท็บเล็ตเพื่อการทำงานและการเรียนออนไลน์เพิ่มขึ้น

"แม้สถานการณ์แพร่ระบาดจะเริ่มคลี่คลายลงได้ในอนาคต แท็บเล็ตก็จะยังเป็นเครื่องมือสำคัญด้านการทำงาน การเรียน และเพื่อความบันเทิง เนื่องจากได้กลายเป็นเครื่องมือเข้าถึงโลกดิจิทัลได้สะดวกรวดเร็วที่สำคัญไม่แพ้สมาร์ทโฟน ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ รองรับการใช้งานในระยะเวลานานได้ดีกว่า และยังมีขนาดพอเหมาะพกพาง่ายเมื่อเทียบกับโน๊ตบุ๊ค"

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์