‘อะโดบี’ ส่งนวัตกรรมพลิกโฉม ไลฟ์สไตล์ 'Personalization'
ดัชนีเศรษฐกิจดิจิทัลของอะโดบีคาดการณ์ว่า ยอดใช้จ่ายอีคอมเมิร์ซจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ การขยายธุรกิจให้เติบโตจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้าเพื่อนำเสนอประสบการณ์เฉพาะบุคคล
“ประสบการณ์ลูกค้า และ “Journey” ที่ต่อเนื่องมีส่วนสำคัญในการพัฒนาจากอินไซต์ ดาต้า เนื้อหาที่โดนใจผู้บริโภค” ขณะเดียวกันทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลมีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น
อนิล จักราวาธี ประธานฝ่ายธุรกิจประสบการณ์ดิจิทัล อะโดบี กล่าวในงานคอนเฟอเรนซ์ “Adobe Summit 2022” งานประชุมด้านประสบการณ์ดิจิทัล และดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งระดับโลกของอะโดบี
พร้อมกับเผยว่า ทุกวันนี้ผู้บริโภคมีความคุ้นเคยมากขึ้นต่อการทำกิจกรรมต่างๆ บนระบบออนไลน์ รายงานดัชนีเศรษฐกิจดิจิทัลของอะโดบีคาดการณ์ว่ายอดใช้จ่ายอีคอมเมิร์ซจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้
ล่าสุด อะโดบีเผยโฉมนวัตกรรมใหม่บน “Adobe Experience Cloud” ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถรองรับ “เศรษฐกิจดิจิทัลในแบบเฉพาะบุคคล” ด้วยการปรับแต่งประสบการณ์ดิจิทัลให้เหมาะกับผู้บริโภคหลายล้านคนภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
เครื่องมือดังกล่าวจะช่วยนำเสนอประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลในเศรษฐกิจดิจิทัล เสริมศักยภาพให้แก่ทุกธุรกิจพร้อมเพิ่มการปฏิสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับลูกค้าผ่านทุกช่องทางดิจิทัล
สำหรับไฮไลต์ ประกอบด้วย “Personalization at Scale” ขับเคลื่อนด้วย “Adobe Experience Platform” ที่มาพร้อมกับ Adobe Experience Cloud, การรวมตัวกันของ Cross-cloud, Adobe Experience Cloud for Healthcare,
รวมไปถึงแพลตฟอร์ม Real-time Customer Data ความสามารถใหม่ๆ เกี่ยวกับข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์ เพื่อให้องค์กรสามารถนำเสนอคอนเทนต์และประสบการณ์อย่างฉับไวและครอบคลุมในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
นอกจากนี้ นำเสนอความรวดเร็วของคอนเทนต์ และ Customer Journey ที่ไร้รอยต่อ ด้วยฟีเจอร์เอไอที่ก้าวล้ำ เนื่องด้วยปัจจุบันการขยายธุรกิจให้เติบโต จำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับลูกค้าเพื่อนำเสนอประสบการณ์เฉพาะบุคคล, Adobe Learning Manager แพลตฟอร์มใหม่ในการเรียนรู้บนคลาวด์ของอะโดบี
ทั้งยังมี เมตาเวิร์สและประสบการณ์แบบ immersive: การรวมตัวกันระหว่าง Adobe Creative Cloud และ Adobe Experience Cloud รองรับการสร้างและนำเสนอประสบการณ์แบบ immersive ช่วยให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในเมตาเวิร์ส (Metaverse)
พร้อมด้วย นวัตกรรมจากห้องแล็บวิจัยของอะโดบี ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเช่น เอไอ แมชีนเลิร์นนิง เออาร์ เพื่อนำเสนอประสบการณ์ลูกค้าที่เหนือชั้นตลอดเวลา
“นวัตกรรมใหม่เหล่านี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่องค์กรธุรกิจในการสร้างและนำเสนอประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลให้แก่ลูกค้าจำนวนมาก พร้อมทั้งเพิ่มความรวดเร็วในการนำเสนอคอนเทนต์ รองรับ customer journey ในทุกขั้นตอนแบบไร้รอยต่อ และใช้ข้อมูลลูกค้าแบบเรียลไทม์”
อย่างไรก็ดี เพื่อช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถขยายกิจการให้เติบโตในสถานการณ์นี้ อะโดบีได้มีการขยายอีโคซิสเต็มส์ของพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่องรวมถึงเพิ่มความร่วมมือต่างๆ กับลูกค้า และผลักดันการเติบโต ในภาพรวมได้รับการสนับสนุนจากอีโคซิสเต็มส์ระดับโลกที่ครอบคลุมแพลตฟอร์มของพาร์ทเนอร์มากกว่า 300 รายการ
อะโดบี ระบุว่า 75% ของบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับ Fortune 100 ใช้งาน Adobe Experience Cloud ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Adobe Experience Platform เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของประสบการณ์ลูกค้าด้วยแอพพลิเคชั่นที่มุ่งเน้นการจัดการ Customer Journey ข้อมูลเชิงลึกและกลุ่มเป้าหมาย คอนเทนต์และการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล รวมไปถึงเวิร์กโฟลว์ด้านการค้าและการตลาด