‘จีเอเบิล’ ตั้งบริษัทลูกลุยซิเคียวริตี้

นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เห็นได้จากรายงานของ เอคเซนเชอร์ที่ระบุว่า ช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดคือ การเข้าถึงข้อมูลจากแอปพลิเคชันของผู้ใช้งานบนเครือข่ายปิดของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต

ดังนั้น เป็นข้อบ่งชี้ว่า การโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความเสียหายให้แก่บริษัทและองค์กรทั่วโลกเป็นจำนวนมาก จากสถิติพบด้วยว่า บริษัทต่างๆ สูญเสียเงินประมาณ 8,500 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง เพราะโดนโจมตีจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ส่งผลทำให้อุตสาหกรรมไซเบอร์ซีเคียวริตี้เติบโตตามปริมาณข้อมูลบนโลกดิจิทัล

ปัจจุบัน ตัวเลขมูลค่าตลาดไซเบอร์ซิเคียวริตี้อยู่ที่ 133,100 ล้านดอลลาร์ในปี 2564 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตเป็น 211,700 ล้านดอลลาร์ในปี 2569 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 9.7% ต่อปีในช่วง 5 ปีข้างหน้า ขณะที่มูลค่าตลาดไซเบอร์ซิเคียวริตี้ในประเทศไทยนั้นสูงถึง 13,000 ล้านบาท

ล่าสุด จีเอเบิลได้เปิดตัวบริษัทใหม่ “ไซเบอร์จีนิคส์ (CyberGenics)” บริการให้คำปรึกษา บริหารจัดการความปลอดภัยและเฝ้าระวังภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ ครอบคลุมทุกความต้องการของธุรกิจแบบครบวงจร ขณะเดียวกัน ช่วยเตรียมความพร้อมให้ทุกองค์กรสามารถรับมือกับทุกภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้อย่างทันท่วงที สร้างความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้ธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

บริษัทตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ยต่อปี 30-40% และสร้างยอดขายทะลุ 1,200 ล้านบาท ภายใน 3 ปี ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในศักยภาพของเทคโนโลยีและการให้บริการ ตอบโจทย์องค์กรธุรกิจยุคดิจิทัลในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ปิดช่องโหว่ ปกป้องระบบและข้อมูลสำคัญ ตลอดจนลดความเสี่ยงและผลกระทบต่อธุรกิจจากการถูกโจมตี เสริมเกราะให้องค์กรพร้อมรับมือกับความท้าทายในโลกไซเบอร์ได้ทุกรูปแบบทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

นายสุธี อัศวสุนทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซเบอร์จีนิคส์ จำกัด กล่าวเสริมว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบันทำให้การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นประเด็นสำคัญ ไซเบอร์จีนิคส์จึงได้ถูกก่อตั้งขึ้น

โดยเป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มบริษัทจีเอเบิล ทำธุรกิจเกี่ยวกับไซเบอร์ซิเคียวริตี้แบบครบวงจร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่ที่อยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม

สำหรับ จุดแข็งสำคัญที่เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด ประกอบไปด้วย 5 ด้าน คือ 1.Professional ผู้เชี่ยวชาญและทีมงานที่ปรึกษาที่คร่ำหวอดในแวดวง 2. Secure การเลือกใช้ไซเบอร์ซิเคียวริตี้โซลูชันจากบริษัทชั้นนำของโลก 3. Trustworthy ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำในประเทศไทย

ขณะที่ 4. Ecosystem Partnership ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกและภายในประเทศ และ 5. ISO Standardsด้วยมาตรฐาน ISO9001 และ ISO 27001