‘ซัมซุง’ พาเหรดสมาร์ทดีไวซ์บุกตลาดองค์กร
“ซัมซุง” เดินกลยุทธ์บุกองค์กร พาเหรดสมาร์ทดีไวซ์ความทนทานสูงลงตลาด ชูเครื่องทนทาน เร็ว แรง ใช้งานง่ายตอบโจทย์การทำงานยุคใหม่ ตั้งเป้าปีนี้เติบโตไม่น้อยกว่า 15%
นายณเอก สงศิริ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายขาย ธุรกิจลูกค้าองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้เทรนด์การทำงานมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แม้สถานการณ์คลี่คลายลงมากแล้ว แต่วิถีการใช้ชีวิตของผู้คนรวมทั้งการทำงานได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างชัดเจน และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นแบบไฮบริดมากขึ้น
ข้อมูลระบุว่า องค์กรกว่า 95% มองเห็นโอกาสที่ธุรกิจจะเติบโตได้จากการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และองค์กรกว่า 89% ได้มีการปรับเปลี่ยนการทำงานให้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยพนักงานและคนในองค์กรสามารถทำงานได้จากทุกที่และควรมีอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานอย่าง เช่น สมาร์ทดีไวซ์สำหรับธุรกิจที่มีความทนทาน (Rugged Device) อย่างน้อยหนึ่งเครื่องต่อหนึ่งคน
การสำรวจอินไซต์ผู้บริโภคจาก Tech Research Asia’s SEAO Custom Rugged Study 2022 พบว่า องค์กรกว่า 66% พิจารณาเลือกสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตเพื่อใช้งานจากความทนทานของดีไวซ์ กว่า 61% ต้องการฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลาย ครบครัน ครอบคลุมทุกโซลูชันในการดำเนินธุรกิจ
นอกจากนี้ กว่า 59% ต้องการดีไวซ์ที่สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย ไม่ซับซ้อน กว่า 57% คาดหวังถึงความสามารถพิเศษเพิ่มเติมที่สามารถช่วยให้ใช้ทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้น และลูกค้ากว่า 51% ตระหนักในเรื่องของความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัย รวมทั้งความแข็งแรงของหน้าจอ
จากเทรนด์ดังกล่าว ซัมซุงจึงได้พัฒนา Rugged Device ที่มาพร้อมกับโซลูชันตอบโจทย์การใช้งานอย่างครบวงจร เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเชิงธุรกิจที่ดีกว่าเดิม ล่าสุด เปิดตัว Rugged Device ใหม่สมาร์ทโฟน “Samsung XCover6 Pro 5G” และ “TabActive4 Pro 5G” มุ่งยกระดับการใช้งานให้เร็ว แรง ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้นกว่าเดิม
สำหรับ 3 กลยุทธ์การทำตลาดลูกค้าองค์กร ประกอบด้วย Expansion จับมือกับพันธมิตรขยายขอบเขตการให้บริการรวมถึงนำเสนอโซลูชันใหม่ๆ ต่อเนื่อง} Collaboration ตั้งเป้าเป็นผู้ช่วยองค์กรต่างๆ ในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นผ่านนวัตกรรมต่างๆ เช่นไอโอที และ Sustainable เน้นการทำธุรกิจแบบยั่งยืนพร้อมช่วยผลักดันการเติบโตของทั้งลูกค้าและผู้ใช้งาน
ซัมซุงเผยว่า ช่วงปี 2562 ก่อนสถานการณ์โควิด สินค้ากลุ่ม Rugged Device มีสัดส่วนราว 3-5% ในธุรกิจบีทูบีของซัมซุง ขณะที่วันนี้เพิ่มขึ้นมากว่า 10% และคาดว่าต่อไปจะเป็นอุปกรณ์ที่พนักงานใหม่จะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเมื่อเข้าทำงาน
สำหรับกลุ่มค้า หลักๆ มาจากธุรกิจค้าปลีกสัดส่วนกว่า 70% นอกจากนั้นเป็นแบงกิ้งและภาคการผลิต ส่วนปีหน้าเตรียมขยายไปในส่วนของภาครัฐผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคต่างๆ
“เราเน้นนำเสนอสินค้าเชิงโซลูชันเบส ซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละธุรกิจ มีพาร์ทเนอร์โปรแกรมที่ทำงานร่วมกับธุรกิจบีทูบีต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อทำงานร่วมกันแบบอีโคซิสเต็ม”
บริษัทตั้งเป้าว่า ปีนี้ยอดขายจะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 15% แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเต็มที่ แต่ด้วยดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นเชื่อว่ายังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง