‘ดีเอชแอล’ ผ่าเทรนด์อีคอมเมิร์ซโลก 'กรีนชอปปิง’เทรนด์ใหญ่มาแรง
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะต้องเจอกับอะไรบ้างในช่วงพีคซีซั่นนี้ และต้องเตรียมรับมืออย่างไร "ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทย" เปิดบทวิเคราะห์สำคัญ ก้าวต่อของอีคอมเมิร์ซท่ามกลางระบบเศรษฐกิจเงินเฟ้อรุนแรง และการเปลี่ยนไปของพฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิด
โดยพบว่า 1.งบประมาณของผู้บริโภคจะลดลง 2.“ความคุ้มค่า”คือสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากที่สุด 3.ความภักดีต่อแบรนด์จะลดลง 4.กรีนชอปปิง คือ เทรนด์ที่มาแรง และ 5.ธุรกิจต่างๆ จะเผชิญกับความท้าทายด้านซัพพลายเชนมากขึ้น
เทศกาล Black Friday และคริสมาสต์ที่กำลังใกล้เข้ามา คือ จุดเริ่มต้นของการสร้างยอดขายอย่างเป็นกอบเป็นกำ อย่างไรก็ตามภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะต้องต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อทั่วโลกที่รุนแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รวมถึงระบบซัพพลายเชนที่ไม่แน่นอน และพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม
งบประมาณผู้บริโภคลดลง
ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเมินความพร้อม ธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ โดยมองว่า พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคในช่วงพีคซีซั่นปลายปี 2565 งบประมาณของผู้บริโภคจะลดลง จากเงินเฟ้อทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ผู้ซื้อทั่วโลกกว่า 42% จึงวางแผนเริ่มต้นซื้อของขวัญสำหรับช่วงเทศกาลวันหยุดแต่เนิ่นๆ ก่อนที่ราคาจะสูงขึ้น หลายคนตั้งใจลดจำนวนเงินที่ใช้จ่ายฉุดยอดใช้จ่ายช่วงเทศกาลช้อปปิ้งจะลดลงในปีนี้
สิ่งที่ธุรกิจของคุณควรรับมือ คือ การทบทวนกลยุทธ์ราคา เพื่อให้แน่ใจว่าแข่งขันได้ รวมถึงตรวจดู สต็อกสินค้าส่วนเกินที่ตกค้างในโกดัง เพราะนี่คือเวลาเหมาะสมในการนำเสนอส่วนลดพิเศษเพื่อระบายสต็อกสินค้า หรืออาจเสนอตัวเลือกชำระเงินที่หลากหลาย ยืดหยุ่น รวมถึงบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” ที่จุดชำระเงิน และอย่าลืมเสนอบริการจัดส่งฟรี ซึ่งนับเป็นสิ่งจูงใจที่สำคัญเสมอสำหรับลูกค้าโดยเฉพาะช่วงเวลานี้
ผู้บริโภค มองความคุ้มค่า
ผู้บริโภคจะมองเรื่องความคุ้มค่ามากขึ้น โดย “60% ของผู้บริโภค” มองว่า “ความคุ้มค่า” คือสิ่งสำคัญสำหรับคริสต์มาสปีนี้ ทำให้ลูกค้าจะใช้เวลานานขึ้นในการพิจารณาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ดังนั้นธุรกิจอาจกระตุ้นการจับจ่าย เช่น แนะนำของขวัญที่น่าสนใจ ย้ำเรื่องคุณภาพ และจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ โดย 58% ของผู้บริโภคกล่าวว่าโซเชียลมีเดียจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของพวกเขาในช่วงเทศกาลนี้
ดีเอชแอลฯ ยังประเมินว่า ความภักดีต่อแบรนด์จะลดลลง และ “ราคา” คือสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญสูงสุด ดังนั้นผู้บริโภคจึงมีแนวโน้มที่จะ “นอกใจ” แบรนด์ที่เคยซื้อเป็นประจำ และหันไปเลือกซื้อสินค้าที่ให้โปรโมชั่นที่ดีที่สุดแทน ขณะที่ลูกค้าก็มีแนวโน้มไปซื้อแบรนด์ที่ราคาถูกกว่า
สิ่งที่ธุรกิจของคุณควรรับมือ คือ การให้ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ เป็นหัวใจสำคัญของแคมเปญการขายช่วงพีคซีซั่นนี้ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ และดึงดูดลูกค้ารายใหม่ พิจารณาเรื่องการตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalization)
กรีนชอปปิง เทรนด์แรงหนุนยั่งยืน
มีผลวิจัยระบุว่า 83% ของผู้ซื้อจะมองหาแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ แน่นอนว่า เทรนด์ 'กรีนช้อปปิ้ง' คือเทรนด์ที่มาแรง ในปีนี้ ประเด็นเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) มีบทบาทสำคัญอย่างมาก ขณะที่ 42% จะยอมจ่ายมากขึ้นสำหรับบริการจัดส่งที่ยั่งยืน
สิ่งที่ธุรกิจของคุณควรรับมือ แจ้งเป้าหมายและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของแบรนด์ในทุกช่องทางการสื่อสาร และบนเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ คำนึงถึงเรื่องบรรจุภัณฑ์ ถ้าหากออเดอร์ชิ้นเล็กๆ ถูกห่อหุ้มด้วยบรรจุภัณฑ์ที่มากเกินความจำเป็น ลูกค้าจะรู้สึกไม่ประทับใจ และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ลูกค้าอาจนำเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่บนโซเชียลมีเดีย
สิ่งที่น่าสนใจ คือ มีตัวเลขระบุว่า 80% ของธุรกิจเอสเอ็มอีมีต้นทุนด้านซัพพลายเชนเพิ่มสูงขึ้น นั่นเพราะ ธุรกิจต่างๆ จะเผชิญกับความท้าทายด้านซัพพลายเชนมากขึ้น สงครามในยูเครน ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อทั่วโลก และนโยบายจำกัดการเดินทางเข้า-ออกของประเทศจีน เนื่องจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้สินค้าส่งออกจากประเทศจีนเกิดความล่าช้า
ขณะที่ช่วงเวลาธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีความคึกคักมากที่สุดกำลังจะมาถึง ความกดดันก็อาจเพิ่มขึ้นเช่นกัน สิ่งที่ธุรกิจต้องรับมือ คือ การกระจายการซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์หลายราย พิจารณาโซลูชั่นที่เป็น Digital-first เช่น ซอฟต์แวร์ตรวจสอบติดตามสินค้าคงคลัง และระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ โซลูชั่นเหล่านี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น