จับตา 3 ราย 'เอ็นที -ไทยคม - พร้อมฯ' ชิงดำประมูลวงโคจรดาวเทียม วันนี้!!
หลัง กสทช.ประกาศรายชื่อเอกชนผ่านคุณสมบัติเข้าประมูลดาวเทียมแล้วทั้ง 3 ราย ได้แก่ เอ็นที โทรคมนาคม , ไทยคม , และพร้อม เทคนิคอล วันนี้ จับตาประมูล เริ่มเคาะราคาตั้งแต่ 10.00 น. คาดเอกชนจะเคาะราคาทำเงินเข้ารัฐอย่างต่ำ 800 ล้านบาท!!!
หลัง กสทช.ประกาศรายชื่อเอกชนผ่านคุณสมบัติเข้าประมูลดาวเทียมแล้วทั้ง 3 ราย ได้แก่ เอ็นที โทรคมนาคม , ไทยคม , และพร้อม เทคนิคอล วันนี้ จับตาประมูล เริ่มเคาะราคาตั้งแต่ 10.00 น. คาดเอกชนจะเคาะราคาทำเงินเข้ารัฐได้อย่างต่ำ 800 ล้านบาท
สำหรับดาวเทียมที่ประมูลประกอบไปด้วย 5 ชุด ได้แก่
ชุดที่ 1 วงโคจร 50.5E (ข่ายงาน C1, N1 และ P1R) และวงโคจร 51E (ข่ายงาน 51) เป็นวงโคจรที่พร้อมใช้งาน ทำตลาดในประเทศแถบอาหรับ ราคาเริ่มต้น 374 ล้านบาทเศษ
ชุดที่ 2 วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ LSX2R) มีความน่าสนใจตรงที่เป็นวงโคจรที่ให้บริการอยู่ในประเทศไทย เหมาะกับกลุ่มคนที่ทำตลาดในเมืองไทย ราคาเริ่มต้น 360 ล้านบาทเศษ
ชุดที่ 3 ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ LSX3R) และวงโคจร 120E (ข่ายงาน 120E) ใช้สำหรับการให้บริการบรอดแบนด์ ราคาเริ่มต้น 397 ล้านบาทเศษ
ชุดที่ 4 วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาทเศษ
ชุดที่ 5 วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และ N5) ราคาเริ่มต้น 189 ล้านบาทเศษ โคจรอยู่แถบแปซิฟิก ดังนั้น บริการที่สามารถให้บริการได้จะเป็นบริการดาวเทียมสำหรับเรือ
โดยผลการจับสลาก จะเริ่ม ประมูลวงโคจร 4 , 3 , 5 , 2 และ 1 ชุดสุดท้าย
ทั้งนี้ เมื่อที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) กสทช.ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ประสงค์ประมูลวงโคจรดาวเทียมประจำที่ ทั้ง 3 บริษัทตามที่ได้ยื่นเอกสารแสดงความจำนงต้องการเข้าประมูลต่อกสทช.
ผลปรากฎว่าทั้ง 3 บริษัทผ่านคุณสมบัติทั้งหมด ได้แก่ บริษัท สเปซ เทค อินโนเวชั่น จำกัด , บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที และ บริษัท พร้อม เทคนิคคอล เซอร์วิสเซส จำกัด ตามเกณฑ์การตรวจสอบคือตรวจสอบคุณสมบัติ ประสบการณ์ในการทำธุรกิจ และ ความสามารถด้านการเงิน
สำหรับการประมูลครั้งนี้ใช้วิธี Sequential Ascending Clock Auction กล่าวคือ ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องตัดสินใจตาม ระยะเวลาที่กำหนดในแต่ละรอบ (20 นาที) ด้วยการเคาะซึ่งจะทำให้ราคาสูงขึ้นครั้งละ 5% ของราคาขั้นต่ำ
โดยผู้ชนะ คือ ผู้ให้ราคาสุดท้ายสูงสุด คาดว่าแพ็คเกจที่น่าสนใจคือ ชุดที่ 2,3 และ 4 คาดนำเงินเข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท
ผู้เข้าร่วมประมูลจะไม่ทราบว่าผู้ร่วมแข่งขันรายใดต้องการสิทธิวงโคจรชุดใดและมีความต้องการกี่ชุด รวมทั้งลำดับชุดในการการประมูลนั้น กสทช.จะกำหนดลำดับในวันประมูล เพื่อป้องกันการสมยอมกันระหว่างผู้เข้าร่วมประมูล
การประมูลในลักษณะนี้จะทำให้เกิดการแข่งขันที่โปร่งใสและเป็นธรรมมากที่สุด รวมทั้งรายได้ที่เกิดขึ้นหลังหักค่าใช้จ่ายในการประมูล กสทช.จะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดินทั้งหมด