5 เหตุผล ทำไมสาวก “Apple” ควรใช้ “HomePod” รุ่น 2 ลำโพงอัจฉริยะล่าสุด
เปิด 5 เหตุผลที่ทำให้ลำโพงอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุดของ Apple อย่าง HomePod (รุ่นที่ 2) น่าใช้มาก และจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้บ้านธรรมดาเปลี่ยนเป็นบ้านอัจฉริยะ โดยเฉพาะคนที่ใช้ดีไวซ์ของแอปเปิลอยู่แล้ว
นี่คือ ลำโพงอัจฉริยะ ที่ครบเครื่องทั้งคุณภาพและเทคโนโลยีสุดล้ำ เพราะ HomePod อัดแน่นไปด้วยหลากหลายนวัตกรรมจาก Apple และความชาญฉลาดของ Siri
ความสามารถของ HomePod รุ่น 2 มีตั้งแต่ระบบเสียงขั้นสูงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังระดับสูง แล้วยังแทร็คเพลงที่ใช้ระบบเสียงตามความเหมาะสมได้อย่างชาญฉลาดเพื่อความเต็มอิ่มสมจริงทุกเมโลดี้
นอกจากเรื่องเสียง ยังมีวิธีการใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเพื่อจัดการงานประจำวันและควบคุมบ้านอัจฉริยะได้อย่างง่ายดาย
และนี่คือ 5 เหตุผลสำคัญที่ KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที รวบรวมมาให้ว่าทำไม "HomePod" รุ่น 2 จึงกลายเป็น Gadget ที่สาวก "Apple" ต้องมี ถ้าอยากให้ชีวิตนี้พรั่งพร้อมไปด้วยความทันสมัยและสะดวกสบายแบบดิจิทัลไลฟ์สไตล์
เสียงดี
ในฐานะลำโพง "HomePod" ถูกพัฒนามาให้มีคุณภาพเสียงเหนือระดับ ให้ทั้งเสียงเบสทุ้มลึกและเสียงสูงที่น่าประทับใจ
ด้วยส่วนประกอบต่างๆ ทั้งวูฟเฟอร์แบบ High Excursion ผ่านการปรับแต่งด้านวิศวกรรมมาเป็นพิเศษ, มอเตอร์ทรงพลังที่ใช้ไดอะแฟรมขนาดถึง 20 มม., ไมค์ในตัวแบบ Bass-EQ และชุดทวีตเตอร์ 5 ตัวเรียงแบบบีมฟอร์มมิ่งอยู่รอบฐาน ต่างทำหน้าที่ประสานกันเพื่อสร้างสรรค์เสียงอันทรงพลัง
นอกจากนี้ยังมีชิป S7 ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีระบบตรวจจับเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นระบบเสียงขั้นสูงกว่าเดิมที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ระบบเสียงแสดงพลังได้ถึงขีดสุด
ที่สำคัญคือมีเทคโนโลยีตรวจจับสภาพห้องช่วยให้ "HomePod" นำข้อมูลเสียงสะท้อนจากพื้นผิวใกล้เคียงมาประมวลผลว่าตอนนี้ตัวเครื่องวางอยู่ชิดผนังห้องหรือตั้งอยู่กลางห้อง แล้วนำไปปรับเปลี่ยนลักษณะเสียงได้แบบเรียลไทม์
สวยดี
"HomePod" เน้นใช้วัสดุผ้าตาข่ายแบบไร้รอยต่อ เพื่อจุดประสงค์ด้านคุณภาพเสียงคือจะไม่กีดกั้นพลังเสียงและแสงแบ็คไลท์ที่จะสว่างขึ้นแบบขอบจรดขอบ
นั่นทำให้ "HomePod" รุ่นใหม่ดูสวยงามลงตัว จนกลายเป็นเสมือนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่นำไปวางตกแต่งได้ทุกพื้นที่ และด้วยความที่มีให้เลือก 2 สี คือ สีขาวและสีมิดไนท์ ซึ่งเป็นสีใหม่ที่ผลิตขึ้นจากผ้าตาข่ายรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ มาพร้อมกับสายไฟแบบถักสีเข้ากัน จึงแมตช์ได้กับบ้านทุกสไตล์
ใช้งานได้หลากหลาย
การใช้ "HomePod" หรือ HomePod mini ร่วมกันหลายเครื่องจะช่วยให้ได้ใช้งานหลากหลายคุณสมบัติ เช่น เมื่อใช้ระบบเสียงที่เล่นพร้อมกันในหลายห้องด้วย AirPlay2 เพียงพูดว่า "สวัสดี Siri" หรือแตะค้างไว้ที่ด้านบนของ HomePod เพื่อสั่งให้เล่นเพลงได้ทั้งเพลงเดียวกันผ่านลำโพง HomePod หลายตัว เล่นเพลงแตกต่างกันในลำโพง HomePod แต่ละตัว หรือแม้แต่ใช้ลำโพงเป็นอินเตอร์คอมเพื่อประกาศข้อความไปยังห้องอื่นๆ
หรือการสร้างคู่เสียงสเตอริโอโดยใช้ลำโพง HomePod สองเครื่องในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งนอกจากจะเล่นเพลงในช่องเสียงซ้ายและขวาแยกกันแล้ว คู่เสียงสเตอริโอนี้ยังเล่นเพลงในแต่ละช่องเสียงให้สอดคล้องลงตัวกัน เพื่อสร้างมิติเสียงที่กว้างขึ้นและสมจริงมากกว่าคู่ลำโพงสเตอริโอทั่วไปได้ด้วย
ตัวช่วยสำคัญของบ้านอัจฉริยะ
คุณสมบัติการจดจำเสียงทำให้ "HomePod" คอยฟังเสียงของเซ็นเซอร์ตรวจจับควันไฟหรือก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ แล้วส่งการแจ้งเตือนไปที่ iPhone ของเราได้โดยตรง รวมถึงเซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มเข้ามาใหม่ จะช่วยตรวจวัดข้อมูลภายในบ้าน เราจึงสร้างการทำงานอัตโนมัติให้ปิดม่านหรือพัดลมโดยอัตโนมัติเมื่ออุณหภูมิในห้องอยู่ถึงจุดที่กำหนดไว้
และยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะเปลี่ยนบ้านของคุณให้เป็นบ้านอัจฉริยะได้อย่างสะดวกสบายด้วยการควบคุมผ่านแอปพลิเคชัน My Home ในดีไซน์ใหม่ มีหมวดหมู่ต่างๆ เพิ่มเข้ามาสำหรับอุปกรณ์ด้านสภาพอากาศ แสงไฟ และความปลอดภัย
ไร้รอยต่อบน Eco System ของ Apple
เหตุผลข้อสุดท้ายที่ตอกย้ำว่าผู้ใช้ "Apple" คู่ควรกับการใช้ลำโพง "HomePod รุ่น 2" อย่างมาก คือการมีเทคโนโลยีอัลตร้าไวด์แบนด์ช่วยย้ายสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บน iPhone หรือ iPad ให้เล่นต่อได้ทันทีที่ "HomePod"
หรือการจับคู่กับ Apple TV 4K เพื่อเนรมิตโฮมเธียร์เตอร์ให้บ้านของเราได้อย่างง่ายดาย รวมถึงการรองรับ eARC (Enhanced Audio Return Channel) ทำให้ HomePod เป็นระบบเสียงสำหรับอุปกรณ์ทุกชิ้นที่เชื่อมต่ออยู่กับทีวี รวมถึงการสั่งการ ควบคุม Apple TV ด้วย Siri ผ่าน HomePod ด้วย
นอกจากนี้ ทุกคนในบ้านยังควบคุมสิ่งที่กำลังเล่นอยู่ได้ง่ายๆ เพียงนำ iPhone มาอยู่ใกล้กับ HomePod แล้วคำแนะนำจะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติ แถม HomePod ยังจดจำเสียงได้มากถึง 6 เสียง สมาชิกแต่ละคนในบ้านจึงรับฟังเพลงในเพลย์ลิสต์ของตัวเอง ถามข้อมูลเรื่องการเตือนความจำ และเพิ่มกิจกรรมลงในปฏิทินได้