'โมบายเอ็กซ์โป' ลุ้นเงินสะพัด 1.2 พันลบ. ฝ่ากระแสตลาดสมาร์ทโฟน ‘ชะลอตัว’
“ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป” มหกรรมโทรศัพท์มือถือใหญ่ที่สุดในไทย เปิดฉากขึ้นอีกครั้ง “เอ็มวิชั่น” ผู้จัดงานยังคงต้องลุ้นว่ายอดเงินสะพัดจะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
ท่ามกลางความท้าทายและความไม่แน่นอนของทั้งสภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และกำลังซื้อผู้บริโภคที่มีความระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม...
“เอ็มวิชั่น” เข็นอีเวนท์ใหญ่งัดกำลังซื้อผู้บริโภคช่วงต้นปี เปิดงาน “ไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป” ครั้งแรกของปี หวัง 4 วัน คนตบเท้าเข้างานไม่ต่ำกว่า 4 แสน ยอดเม็ดเงินสะพัดแตะ 1,200 ล้านบาท
โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เดินหน้าจัดงาน “Thailand Mobile Expo 2023” มหกรรมมือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศครั้งแรกของปี ระหว่างวันที่ 16-19 ก.พ. 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
โดยบริษัทเชื่อมั่นว่า การจัดงานครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นตลาดที่เงียบไปในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และยังไม่ฟื้นเต็มที่ให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง
เอ็มวิชั่น ตั้งเป้าไว้ว่าตลอด 4 วันของการจัดงานจะมีผู้บริโภคสนใจเข้าร่วมงานประมาณ 4 แสนคน ยอดเงินสะพัดประมาณ 1,200 ล้านบาท
“เราตั้งใจไว้ว่าจะทำให้บรรยากาศคึกคักมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะตลาดโมบายมีการชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ เบื้องต้นคาดว่าในวันแรกของการจัดงานจะมีคนสนใจเข้างานราว 6-7 หมื่นคน แต่ช่วงวันหยุดน่าจะคึกคักมากขึ้น และทำให้ยอดคนเดินแตะ 4 แสนคนได้ตามเป้า”
คิกออฟ ‘อีวี เอ็กซ์โป’ ครั้งแรกในไทย
สำหรับไฮไลต์ คาดว่าจะมาจากกระแสการเปิดตัวและวางตลาดของสมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ “Samsung Galaxy S23 Series” และ “OnePlus 11 5G”
รวมไปถึงการแข่งขันของค่ายมือถือและแบรนด์จำนวนมากภายในงาน ที่มาร่วมจัดโปรโมชั่นพิเศษ ลดล้างสต็อกสินค้า ซึ่งคาดว่าข้อเสนอที่หลากหลายจะช่วยดึงดูดความสนใจให้กับผู้เข้าชมงานได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี ครั้งนี้มีการขยายพื้นที่การจัดงานเพิ่มขึ้นเป็น 3 ฮอลล์ และจัดพร้อมกับงาน “Bangkok EV Expo 2023” มหกรรมยานยนต์ไฟฟ้างานแรกในประเทศไทย ซึ่งได้รวบรวมแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยมาไว้มากที่สุด เพื่อเป็นการตอบสนองกระแสความสนใจรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล และมอเตอร์ไซค์
พร้อมมีสนามทดลองขับ (Test Drive) รถยนต์ไฟฟ้ากลางเมือง ภายในบริเวณงาน (หลังศูนย์ฯสิริกิติ์) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าชมงาน
เอ็มวิชันเผยว่า การจัดงานรอบต้นปีนี้มีการเสริมสินค้าเทคโนโลยีและแก็ดเจ็ทที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่เข้ามามากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงกลุ่มอีวีที่กำลังได้รับความสนใจและผู้บริโภคมองว่าจะนำมาเป็นรถคันที่สองสำหรับใช้งาน ขณะที่ต่อๆ ไปทางเอ็มวิชั่นเองก็จะจัดงานโมบายกับอีวีคู่กันไปเช่นกัน
‘ซัมซุง’ เล่นใหญ่ พื้นที่บูธใหญ่สุด
ด้านยักษ์อิเล็กทรอนิกส์ ซัมซุง รายงานว่า โมบายเอ็กซ์โปครั้งนี้จัดใหญ่กว่าเดิมด้วยการครองพื้นที่บูธใหญ่ที่สุดในงาน พร้อมจัดเต็มความพิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น 1.จับมือกับพาร์เนอร์ 9 แบรนด์ดัง มอบส่วนลดสุดพิเศษ กับของแถมสุดพรีเมียมให้กับผู้ที่สนใจซื้อสินค้าจากซัมซุง 2.โซน Galaxy Me Style กิจกรรมเพิ่มสีสันให้กับสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ซัมซุงและสร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้ง่ายๆ ผ่านการดีไซน์เคสมือถือด้วยตัวเอง
ขณะที่ 3.โซนสิทธิพิเศษ Galaxy Gift สำหรับลูกค้าและแฟนๆ ที่ต้องการทดลองใช้ และเรียนรู้สิทธิพิเศษต่างๆ 4.โซน Experience เปิดโอกาสให้ได้มาสัมผัสพร้อมทดลองใช้งาน Galaxy S23 Series เป็นครั้งแรกพร้อมทดลอง
นอกจากนี้ 5.โซน Redemption & Service จุดแลกของสมนาคุณรวมถึงให้คำปรึกษา และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้สินค้าเพิ่มเติม โดยมีทีมงานและเจ้าหน้าที่ คอยอำนวยความสะดวกตลอดทั้งวัน
ยอดพรีออเดอร์ S23 พุ่ง 130%
ซัมซุงเผยว่า Galaxy S23 Series ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้บริโภคชาวไทย ด้วยยอดพรีออเดอร์ในไทยที่เพิ่มสูงขึ้นจาก S22 Series 130% ในช่วงระยะเวลาสองสัปดาห์หลังจากเปิดให้สั่งซื้อ
โดยรุ่นที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ Galaxy S23 Ultra และสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Green ส่วนสีพิเศษที่เปิดขายเฉพาะบนเว็บไซต์ทางการซัมซุงดอทคอมถือว่าได้รับความสนใจเหนือความคาดหมายเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีจำนวนลูกค้าที่เปลี่ยนจากแบรนด์อื่นมาใช้ Galaxy S23 Series มากกว่าตอนเปิดตัว Galaxy S22 Series กว่า 9%
สำหรับเหตุผลหลักที่ทำให้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค คือ การรวมความสามารถของสมาร์ตโฟนไว้ในเครื่องเดียวที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของกล้อง ชิปเซ็ต หน้าจอ ระบบความปลอดภัย แบตเตอรี่ ปากกา S Pen และการใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น
ปี 65 ไม่ใช่ปีที่ดีสำหรับสมาร์ทโฟน-จับตาปีนี้
อย่างไรก็ตาม ปี 2565 ที่ผ่านมา นับว่าตลาดสมาร์ทโฟนโดยทั่วโลก ดูจะมีสัญญาณไม่ค่อยดีนัก สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จัดส่งสมาร์ทโฟนเข้าสู่ตลาดประมาณ 300.3 ล้านเครื่อง ในช่วงเวลาไตรมาสสี่ ระหว่างเดือนตุลาคม จนถึงธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งลดลง 18.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ขณะที่ ไอดีซี ระบุว่า ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนลดลงในไตรมาสเดียว ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ที่สุด เมื่อปี 2565 มีการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั้งหมด 1.21 พันล้าน นับเป็นยอดจัดส่งประจำปีที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556
“เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลงอย่างมาก อัตราเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ”
ขณะที่ ตัวแทนจัดส่งอุปกรณ์สมาร์ทโฟนของบริษัทต่างๆ ทั้งแอ๊ปเปิ้ลและซัมซุงส่งไปยังผู้ค้าปลีกและผู้ให้บริการมือถือที่น้อยลงพอๆกับยอดขายสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการณ์ไอโฟนปัจจุบัน
แอ๊ปเปิ้ล ยังครองตำแหน่งผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งจัดส่งไอโฟน 72.3 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 4 ลดลง 14.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่แอ๊ปเปิ้ลมีส่วนแบ่งการตลาด 24.1% โดยสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแม้แอ๊ปเปิ้ลจะเปิดตัวรุ่นล่าสุดไอโฟน 14
ส่วนซัมซุงเป็นผู้เล่นในธุรกิจสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสอง มียอดจัดส่งลดลง 15.6% เมื่อเทียบปีต่อปีเป็น 58.2 ล้านเครื่อง ทั้งนี้ซัมซุงไม่ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เปรียบเหมือนเรือธงในไตรมาสที่ 4 แต่เตรียมจัดงานเปิดตัวในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ คาดว่า มีแนวโน้มจะอวดอุปกรณ์ใหม่เป็นลูกเล่นให้กับแฟนซัมซุง
อย่างไรก็ตาม เสียวหมี่ เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้เล่นอันดับสาม มียอดจัดส่ง 33.2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่สี่ของปี ลดลง 26.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่นั่นเป็นการลดลงมากที่สุดในบรรดาผู้เล่นสมาร์ทโฟน5 อันดับแรก ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจีน Oppo และ Vivo