'วีซี' ใน ซิลิคอน วัลเลย์ แนะ 'สตาร์ตอัปไทย' ต้องมี ‘Global Mindset’

'วีซี' ใน ซิลิคอน วัลเลย์  แนะ 'สตาร์ตอัปไทย' ต้องมี ‘Global Mindset’

'Jeep Kline' ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน VC ใน ซิลิคอน วัลเลย์ แนะสตาร์ตอัปไทย ต้องมี ‘Global Mindset’ ขณะที่ ต้องไม่มองความสำเร็จของสตาร์ตอัปในเชิงมูลค่า แต่มองคุณภาพและการสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม และประเทศ

จี๊ป ไคลน์ (Jeep Kline) ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน VC ใน ซิลิคอน วัลเลย์ และ Professional Faculty at UC Berkeley สหรัฐอเมริกา กล่าวกับ "กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ผลกระทบจากความเสี่ยงเรื่องธนาคาร SVB ต่อการลงทุนในสตาร์ตอัป ไม่น่าจะมีมากนักเพราะ กองทุนส่วนใหญ่ได้ปรับตัวไว้ก่อนที่จะมีปัญหาแล้ว ยกตัวอย่างเช่นอย่างกองทุน กองทุนที่บริหารอยู่ ได้ถอนออกมาก่อนที่ SVB จะล้ม

สำหรับเป้าหมายของกองทุนฯของคุณจี๊ปนั้น จะเน้นลงทุนสตาร์ต อัป emerging market เช่น ในละตินอเมริกาเป็นหลัก ควบคู่กับการลงทุนบริษัทอื่นๆใน silicon valley โดยที่จะ เลือกผู้ประกอบการที่สร้างธุรกิจที่มี Impact ต่อสังคม มีผลกระทบเชิงบวกต่อประเทศ  ในขณะเดียวกันก็มีลักษณะการเติบโตและ scale ได้มาก

"การเป็นสตาร์ตอัปที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้อยู่ที่การเป็นยูนิคอร์น หรือการมุ่งเน้นแต่ขนาดของบริษัท แต่ธุรกิจนั้นต้อง Create Impact ได้ สตาร์ตอัปที่ประสบความสำเร็จ ต้องไปถึงขึ้น M&A หรือการได้ทำ IPO  เราไม่ได้มองความสำเร็จสตาร์ตอัปในเชิงมูลค่าเป็นหลัก แต่เรามองคุณภาพและการสร้างผลกระทบเชิงบวก"

จี๊ป บอกว่า สตาร์ตอัปที่อยู่ในเรดาห์ของผู้ลงทุน ต้องมีโกลบอล มายด์เช็ต (Global Mindset) หรือการตั้งเป้าหมายว่าสตาร์ตอัปต้องสามารถสเกลเกินระดับประเทศได้ ต่อมา คือ ต้องระวังเรื่องการประเมินมูลค่าบริษัท (Valuation) ที่สูงเกินไป ทั้งที่ยังไม่มีกำไร

สำหรับหลักการในการลงทุนในประเทศที่กำลังพัฒนา นักลงทุนที่ไปลงทุนกับสตาร์ต อัปในประเทศกำลังพัฒนา ส่วนใหญ่เป็นเพราะมีข้อได้เปรียบด้านค่าใช้จ่ายในส่วนของ โอเปอเรชั่นที่ต่ำกว่าสตาร์ตอัปใน ซิลิคอน วัลเลย์ แต่ถ้าประเมินออกมาแล้ว      สตาร์ตอัปในประเทศเหล่านี้ มีมูลค่าสูงกว่าในซิลิคอน วัลเลย์ ก็ไม่มีนักลงทุนคนไหนกล้าเสี่ยงเข้าไปลงทุน

ทั้งนี้ ต้องพิจารณาหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น สตาร์ตอัปนั้นๆต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่ได้เปรียบและเหมาะกับลักษณะของประเทศนั้นๆ

สำหรับในธุรกิจที่มีความซับซ้อนขึ้น จี๊ป บอกว่า ในส่วนของวีซีที่ดูแลอยู่จะไม่เน้นลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ ยา ไบโอเทค เพราะต้องมีเรื่องไอพี เข้ามาเกี่ยวข้อง จะไม่เน้นลงทุนในธุรกิจที่ยังไม่สามารถทำเป็นคอมเมอร์เชียลได้ทันที เช่น ควอนตัม คอมพิวติ้ง

"สิ่งที่วีซีจะเน้นเข้าไปลงทุน คือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับ การศึกษา (Ed Tech) ,ฟินเทค, Food Tech ,บีทูบีเอ็นเตอร์ไพร์ส ,ธุรกิจด้านการเกษตร (Agriculture)" เป็นต้น