สดช.จุดพลุพรบ.กิจการอวกาศปี 66 หวังสร้างรายได้ดึงเม็ดเงิน3แสนล.

สดช.จุดพลุพรบ.กิจการอวกาศปี 66 หวังสร้างรายได้ดึงเม็ดเงิน3แสนล.

ลุยประชาพิจารณ์โครงการพัฒนาแผนการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ ก่อนเคาะร่างไฟนอลส่งรัฐบาลชุดใหม่ภายในปี 66 ระบุต้องการนิวเอสเคิร์ฟใหม่ดันรายได้ให้ประเทศอีกทาง หลังพบเม็ดเงินในอุตฯดาวเทียมสะพัดกว่า 3 แสนล้านบาท

นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สดช. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมสัมมนา Space x Digital : Driving Thailand toward the New Economy" ว่า สดช. ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจในการจัดทำนโยบายด้านกิจการอวกาศของประเทศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการส่งเสริมระบบนิเวศของเศรษฐกิจอวกาศที่ครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมอวกาศ ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล โดยที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับกิจการและกิจกรรมอวกาศ เช่น ดาวเทียม สถานีภาคพื้นดิน ศูนย์การเรียนรู้ วิจัย และพัฒนานวัตกรรม เป็นต้น
 

โดยการทำประชาพิจารณ์สาธารณะ (พับบลิค เฮียริ่ง) ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 เฉพาะอย่างยิ่ง การจัดทำร่างพระราชบัญญัติกิจการอวกาศแห่งชาติ พ.ศ. .... และ ร่างแผนแม่บทกิจการอวกาศแห่งชาติ (พ.ศ. 2566- 2580) ซึ่งจะมีการปรับแผนรีวิวให้สอดคล้องกับบริบทของเทคโนโลยีทุกๆ 5 ปี ตลอดจนการส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศ และการสร้างนวัตกรรมจากเทคโนโลยีอวกาศ
 

สำหรับกิจการอวกาศของประเทศไทย ซึ่งอยู่ในระยะเริ่มแรกหลังจากการเปลี่ยนผ่านจากระบบการให้สัมปทานเป็นระบบการอนุญาต จึงมีความจำเป็นที่จะต้องกำหนดนโยบายหรือทิศทางในการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินกิจการหรือกิจกรรมอวกาศให้มีความชัดเจน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจอวกาศที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ และผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพในการแข่งขันด้านอวกาศของตลาดโลกได้


“สำนักงานใหม่ที่จะมากำกับดูแลกิจการอวกาศนี้ จะมีสถานะเป็นหน่วยงานนิติบุคคลเฉพาะ ที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติ จึงต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาชุดใหม่ (สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา) เพื่อพิจารณาก่อน โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์กรมหาชน) หรือ จิสด้า เป็นหน่วยงานหลักในการตั้งสำนักงานใหม่ และตัดโอนภารกิจจากส่วนราชการอื่น เช่น กองกิจการอวกาศแห่งชาติ ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ให้อยู่ในร่มเดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของภาครัฐให้เป็นเอกภาพและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทำให้เกิดรายได้อย่างยั่งยืนจากที่เคยมีสถิติว่าเม็ดเงินในอุตสาหกรรมดาวเทียมที่เกี่ยวเนื่องมีมากกว่า 3 แสนล้านบาทในอีก 10 ปีข้างหน้า"
 

เขา กล่าวอีกว่า ในวันนี้ จะเป็นการประชุมสัมมนาเพื่อรับทราบแนวคิดในการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ของประเทศ และการนำเสนอ (ร่าง) แผนการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ (New Space Economy) ของประเทศไทย รวมถึงเป็นการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อไปปรับปรุง (ร่าง) แผนการส่งเสริมฯ ให้มีความครบถ้วนและสมบูรณ์ สามารถใช้เป็นกรอบแนวทางในการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศของประเทศไทยได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ขณะที่ดร.พรพรรณ ตันนุกิจ ผู้อำนวยการกองกิจการอวกาศแห่งชาติ สดช. กล่าวเสริมว่า โครงการพัฒนาแผนการส่งเสริมระบบนิเวศเศรษฐกิจอวกาศยุคใหม่ของประเทศไทย เป็นการตอบสนองต่อการขยายตัวของกิจการและกิจกรรมอวกาศ รวมไปถึงอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องที่เกิดจากการประยุกต์ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศ ที่เน้นให้ภาคเอกชนเป็นผู้ขับเคลื่อนกิจการและกิจกรรมอวกาศ โดยมุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน