‘อาลีเพย์พลัส’ เชื่อม แอป TrueMoney หนุนคนไทยจ่ายออนไลน์ได้ทั่ว 'สิงคโปร์'
ก้าวไปอีกขั้น!! อาลีเพย์พลัส (Alipay+) รองรับ SGQR ชำระเงินออนไลน์ได้แล้วทุกศูนย์อาหารในสิงคโปร์ ล่าสุดผูกบัญชีกับ ‘แอป TrueMoney’ เปิดคนไทยใช้จ่ายเงินออนไลน์ระหว่างท่องเที่ยวสิงคโปร์ ผ่านแอป TrueMoney ได้เลย ตามร้านค้า ร้านอาหารในสิงคโปร์ที่มีสัญลักษณ์ SGQR
อาลีเพย์พลัส (Alipay+) รองรับ SGQR ได้แล้ว ด้วยความร่วมมือกับ Network for Electronic Transfers (NETS) กลุ่มผู้ให้บริการชำระเงินชั้นนำของสิงคโปร์ พร้อมใช้งานในรูปแบบการชำระเงินดิจิทัลแก่ร้านค้าและร้านอาหารกว่า 11,000 ร้านใน NEA Hawker Center รวมถึงร้านกาแฟ HDB, ตลาดสด และแคนทีนในเขตอุตสาหกรรม JTC
โดยผู้ใช้อีวอลเล็ทที่เป็นพาร์ทเนอร์กับอาลีเพย์พลัส (Alipay+) สามารถชำระเงินผ่านร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ SGQR เพียงแค่เปิดใช้แอปอีวอลเล็ทที่ใช้ประจำในประเทศของตนแล้วสแกน SGQR ได้ทันที นั่นหมายถึง แอป TrueMoney พันธมิตรของอาลีเพย์พลัส ก็สามารถใช้สแกนชำระเงินได้ในสิงคโปร์
SGQR เป็น QR code สำหรับการชำระเงินแบบครบวงจรเจ้าแรกของโลก โดยเป็น single standard QR code สำหรับการชำระเงินออนไลน์ที่ได้รวบรวมระบบการชำระเงินหลายรูปแบบไว้ในโค้ด SGQR ผู้บริโภคเพียงแค่มองหาสัญลักษณ์ SGQR เพื่อดูว่าร้านค้ารับการชำระเงินในรูปแบบใดบ้าง
ขณะที่ อาลีเพย์พลัส (Alipay+) คือชุดของการชำระเงินดิจิทัลระหว่างประเทศ และโซลูชั่นการตลาดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง ดำเนินการชำระเงินผ่านมือถือได้หลายวิธี และเข้าถึงผู้บริโภคทั้งในระดับภูมิภาคและทั่วโลกแล้วกว่า 1 พันล้านคน
โดยปรับใช้เทคโนโลยีที่อินทิเกรตกันอย่างง่ายดายเพียงครั้งเดียว (one-time integration & simple technical adaption) ปัจจุบันอาลีเพย์พลัส (Alipay+) รองรับพันธมิตรอีวอลเล็ทจำนวน 6 รายในสิงคโปร์ ได้แก่ TrueMoney จากไทย, Alipay จากจีนแผ่นดินใหญ่, AlipayHK จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน, Touch 'n Go eWallet จากมาเลเซีย, GCash จากฟิลิปปินส์ และ Kakao Pay จากเกาหลีใต้ โดย Alipay เป็นหนึ่งในพันธมิตรอีวอลเล็ทของ Alipay+ และได้อินทิเกรตกับ SGQR เมื่อต้นปี 2562
ดร.เชอร์รี่ หวง ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบริการร้านค้าออฟไลน์ของ Alipay+ ที่ Ant Group กล่าวว่า "การให้บริการอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ผ่าน SGQR ช่วยให้ชาวต่างชาติที่เดินทางท่องเที่ยวในสิงคโปร์สะดวกสบายมากขึ้น โดยพวกเขาสามารถชำระเงินผ่านอีวอลเล็ทที่ใช้ประจำในประเทศของตนได้ในสิงคโปร์ นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องหาเงินสดเพื่อใช้จ่ายในสภาพแวดล้อมที่คนแออัดหรือพลุกพล่าน
เช่น Hawker Centers อีกต่อไป เราหวังว่าจะได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ NETS อย่างต่อเนื่องเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านการชำระเงินดิจิทัล รวมถึงการยอมรับการใช้งาน โดยเราต้องการเชื่อมผู้ค้าหลายพันรายในสิงคโปร์กับผู้บริโภคดิจิทัลในภูมิภาคนี้"
ลอว์เรนซ์ ชาน, กรุ๊ป ซีอีโอ บริษัท NETS กล่าวว่า "ที่บริษัท NETS เราเชื่อมั่นว่าทุกธุรกิจควรเข้าถึงโซลูชั่นการชำระเงินดิจิทัล และด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรอาลีเพย์พลัส (Alipay+) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านดิจิทัลสำหรับร้านค้า หรือ Hawkers นั้น จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจขนาดเล็กโดยสามารถให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าสำหรับร้านค้าอีกด้วย"
นอกเหนือจาก NETS แล้ว Ant Group ยังได้จัดตั้งพันธมิตรและความร่วมมือต่างๆ ในอุตสาหกรรม เช่น คณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board – STB), ชางงีแอร์พอร์ตกรุ๊ป, รีสอร์ทเวิลด์ เซ็นโตซ่า, ComfortDelGro บริษัทแท็กซี่ของสิงคโปร์, ร้านค้าและแบรนด์ท้องถิ่นอื่นๆ เพื่อนำเสนอโซลูชั่นการชำระเงินดิจิทัลที่ดีที่สุดในการยกระดับประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศสิงคโปร์
ข้อมูลจากคณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวมาเยือนสิงคโปร์มากขึ้นตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม ปี 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเพิ่มขึ้นทุกเดือน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจากประเทศไทย มาเลเซีย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และจีน ติดอันดับ 10 ประเทศแรกที่เดินทางมาเที่ยวสิงคโปร์มากที่สุดในไตรมาสแรก