สร้างคุณค่าให้ชีวิต

ชื่อเสียง เงินทอง และความสำเร็จของใครสักคนจะคงอยู่ได้ยาวนานเพียงใดไม่มีใครบอกได้ แต่ความคิดและทัศนคติในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่างหากที่จะทำให้คนจดจำต่อไปอีกนานแสนนาน เช่นเดียวกับ “ทีน่า เทอร์เนอร์” ราชินีเพลงร็อคซึ่งลาจากโลกนี้ไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

จากชีวิตที่ลุ่มๆ ดอนๆ ในวัยเด็ก จนประสบความสำเร็จในฐานะนักร้องและนักแสดงระดับโลก แต่ชีวิตของเธอก็ยังต้องประสบกับปัญหาความรุนแรงในครอบครัว จนช่วงบั้นปลายชีวิตจึงดูเหมือนจะลงตัวด้วยการย้ายมาอยู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จนกระทั่งจากไปอย่างสงบ

ข้อคิดที่ทีน่าทิ้งไว้ให้จากบทสัมภาษณ์ เน้นที่ความเรียบง่ายในการใช้ชีวิต และจงหาความสุขให้กับตัวเองโดยไม่ต้องสนใจความคาดหวังของคนอื่นซึ่งเป็นเรามักไม่ค่อยพบในวิถีชีวิตของนักร้องนักแสดงระดับโลกส่วนใหญ่ที่มักจะใช้ชีวิตหรูหราและคุ้นเคยกับของฟุ่มเฟือยต่างๆ เป็นเรื่องปกติ

ในขณะที่ทีน่าใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายอยู่ในบ้านเช่าเพราะไม่อยากยึดติดกับวัตถุสิ่งของใดๆ พร้อมทั้งทิ้งข้อคิดไว้ให้ ซึ่งเกริ่นไว้ใน Think out of The Box ที่แล้ว 2 ข้อนั่นคือ คนเรามีความสุขได้เสมอไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานหรือเกษียณอายุแล้วก็ตาม และการสะสมสิ่งของใด ๆ ก็ควรเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจไม่ใช่วัตถุ

ต่อกันในข้อที่สามนั่นคือ การคิดถึงตัวเองเป็นหลัก ซึ่งข้อคิดนี้เกิดจากการเดินสายแสดงคอนเสิร์ตรอบโลกของเธอเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2009 ซึ่งทีน่าต้องใช้พลังมหาศาลในการสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมโดยไม่ได้คิดถึงตัวเอง

เมื่อถึงจุดนั้นเธอจึงคิดได้ว่าหลังจากนี้จะต้องคิดถึงตัวเองเป็นลำดับแรก และหาทางสร้างความสุขให้กับตัวเองก่อนสิ่งอื่นใด ซึ่งคนทุกอาชีพมักมีปัญหาเหมือนกันคือการสร้างสมดุลระหว่างการทำเพื่อผู้อื่นกับทำเพื่อตัวเอง

คนที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ มักจะทำทุกสิ่งให้คนรอบข้างอยู่เสมอเพราะต้องการให้ทุกอย่างลุล่วงไปด้วยดี จนในที่สุดก็มักจะพบว่าคนรอบข้างมีความสุข แต่ตัวเองนั้นเหนื่อยและกดดันจนใกล้ที่จะทนไม่ไหวซึ่งไม่ส่งผลดีต่อการใช้ชีวิตเลย

เมื่อถึงจุดหนึ่งเราจึงต้องทบทวนตัวเอง และหาจุดสมดุลให้เจอว่า การทำให้ผู้อื่นที่ระดับที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน นอกเหนือจากการทำเพื่อผู้อื่น หรือการรับฟังแต่ปัญหาของคนอื่น เพื่อจะได้มีเวลาที่เป็นของตัวเราเองและหาทางทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ นั่นคือการหาความสุขให้ตัวเองบ้าง

ข้อสี่ อย่าใช้ชีวิตไปตามความคาดหวังของผู้อื่น เพราะภาพลักษณ์ในการเป็นคนดังระดับโลกของเธออาจบีบให้เธอต้องใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยไปตามที่แฟนเพลงคาดหวัง ไม่ว่าจะเป็นรถหรูราคาแพง คฤหาสน์หลายร้อยหลายพันล้าน อาหารจากภัตตาคารหรู ฯลฯ

แต่ทีน่าไม่สนใจและเลือกที่จะใช้ชีวิตไปตามที่ตัวเองกำหนด และยอมรับทุกเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตไม่ว่าจะดีหรือร้าย และหาทางอยู่ร่วมกับมัน เพราะความสำเร็จหรือความล้มเหลวในอดีตไม่ได้ส่งผลกับอนาคตของเธอแต่อย่างใด

ข้อห้า ทำในสิ่งที่อยากทำ จะไม่มีวันมองย้อนกลับมาแล้วเสียดายที่ไม่ได้ทำสิ่งนั้น เสียดายที่ไม่ได้ทำสิ่งนี้ ฯลฯ คนที่ต้องติดต่อกับทีน่าจึงรู้ว่าเธอจะมีเวลารับนัดหมายหลังเที่ยงเป็นหลัก เพราะเธอชอบใช้เวลาช่วงเช้ากับการพักผ่อนส่วนตัวรวมถึงชื่นชมทะเลสาบของเมืองซูริค ชีวิตของเธอจึงเน้นในการทำสิ่งต่างๆ เพื่อตัวเองเหมือนเป็นการตอบแทนที่ทำงานหนักมานับสิบปี

ประโยคที่เรามักได้ยินบ่อย ๆ คือ “รู้อย่างนี้...” นั่นหมายถึงการเฝ้าเสียดายกับอดีตที่ไม่อาจแก้ไขอะไรได้ กลายเป็นการจมอยู่กับอดีตและได้แต่เสียดายที่ไม่ได้สิ่งนี้สิ่งนั้นเพราะไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้ แต่หากเราใช้ชีวิตในวันนี้อย่างเต็มที่และทำทุกอย่างที่อยากทำให้ดีที่สุด เราก็ไม่ต้องเสียเวลาคิดถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วและไม่ต้องเฝ้าเสียดายโอกาสที่เราปล่อยให้ผ่านไปในแต่วัน

ความยิ่งใหญ่ในอดีตไม่ว่าจะมีมากเพียงใดก็เป็นเพียงอดีต แต่การอยู่กับปัจจุบันอย่างเรียบง่ายและเป็นสุขต่างหากที่จะสร้างคุณค่าให้ตัวเองอย่างแท้จริง

แม้ทีน่า เทอร์เนอร์ จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เสียงเพลงที่ได้สร้างความสุขให้กับคนทั่วโลก รวมถึงข้อคิดในการดำเนินชีวิตของเธอ จะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้คนตลอดไป