'การ์ทเนอร์' พาส่องปัญหาการทำงาน 'พนักงานดิจิทัล'

'การ์ทเนอร์' พาส่องปัญหาการทำงาน 'พนักงานดิจิทัล'

"การ์ทเนอร์" เผย คนยุคใหม่ประสบปัญหาการจัดการงานในยุคดิจิทัล เหตุมีข้อมูลและแอปพลิเคชันเข้ามาในดิจิทัลเวิร์กสเปซมากขึ้น 47% บอกว่ามีปัญหาด้านการค้นหาข้อมูลที่จำเป็นเพื่อทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ทอร์รี พอลแมน ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย การ์ทเนอร์ กล่าวถึงผลการสำรวความคิดเห็นพนักงานประจำที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจำนวน 4,861 ราย ว่า แม้ว่าพนักงานจะพยายามจัดการคอนเทนต์ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการทำงานซ้ำซ้อนหรือเพิ่มการแบ่งปันความรู้และการรักษาความรู้

ทว่ายังคงต้องประสบปัญหากับการจัดการงานในยุคดิจิทัล เนื่องจากมีข้อมูลและแอปพลิเคชันที่เข้ามาในดิจิทัลเวิร์กสเปซมากขึ้น

“การค้นหาข้อมูลที่ต้องการสำหรับการทำงานกลับสร้างแรงกดดันให้พนักงานเผชิญกับความท้าทาย ซึ่งผู้บริหารในองค์กรดิจิทัลควรสร้างกระบวนการที่เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถตกลงกันในแอปพลิเคชันที่ใช้ในการทำงานได้”

พนักงานต้องการเครื่องมือที่เหมาะสม

การสำรวจพบว่า พนักงานนั่งโต๊ะ (ที่อาจเรียกว่า "พนักงานที่มีทักษะหรือ Knowledge Worker") ใช้แอปพลิเคชันสำหรับทำงานโดยเฉลี่ย 11 แอปพลิเคชัน เมื่อเทียบกับ 6 แอปพลิเคชันในปี 2563

โดย 40% ของพนักงานดิจิทัลใช้แอปพลิเคชันทำงานมากกว่าค่าเฉลี่ย ขณะที่  5% ของพนักงานใช้มากกว่า 26 แอปพลิเคชันในที่ทำงาน

โดยเฉลี่ย 66% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่า องค์กรสามารถบรรลุผลและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นได้ หากฝ่ายไอทีจัดหาแอปพลิเคชันและอุปกรณ์ที่ได้รับการยอมรับและสนับสนุนการทำงานในระดับสากล

พบด้วยว่า พนักงานดิจิทัลต้องเจอกับปัญหาในการค้นหาข้อมูล การตัดสินใจที่ไม่ดีพอเนื่องจากขาดองค์ความรู้ การได้รับการแจ้งเตือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้องาน และพลาดการอัปเดตสำคัญท่ามกลางการถูกรบกวน

\'การ์ทเนอร์\' พาส่องปัญหาการทำงาน \'พนักงานดิจิทัล\' ยอมรับการตรวจสอบ

ข้อมูลระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิดทำให้องค์กรให้ความสนใจติดตามประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน โดยระบบเหล่านี้จะตรวจสอบการมีส่วนร่วมของพนักงานผ่านอุปกรณ์และการใช้งานแอปพลิเคชัน รวมทั้งประเมินว่าพนักงานคนใดทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดและตรงตามผลลัพธ์ทางธุรกิจหรือไม่

แม้ว่าแนวคิดเกี่ยวกับการประเมินประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในระดับพื้นฐานที่สุดอาจเต็มไปด้วยข้อกังขา อย่างไรก็ดีการสำรวจชี้ให้เห็นว่า มีพนักงานดิจิทัลถึง 96% ระบุว่าพวกเขายินดียอมรับการตรวจสอบเพื่อแลกกับความช่วยเหลืออย่างน้อยหนึ่งในสามตัวเลือกที่ตอบในแบบสอบถาม

ยิ่งไปกว่านั้น 34% ระบุว่าพวกเขายอมรับการตรวจสอบเพื่อเป็นประตูสู่โอกาสในการฝึกอบรมเสริมความรู้และความก้าวหน้าในอาชีพ

ขณะที่ 33% ยอมรับการตรวจสอบเพื่อรับการสนับสนุนในการหาข้อมูลสำหรับทำงานของพวกเขา และ 30% ยอมรับการตรวจสอบเพื่อแลกกับการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแอปพลิเคชันเชิงรุกจากทีมไอทีเมื่อเจอปัญหา

ต้องการการแก้ปัญหาเชิงรุก

การสำรวจพบว่า แนวทางความช่วยเหลือด้านไอทีภายในองค์กรที่พนักงานต้องการจากการแก้ไขด้านเทคโนโลยี 3 อันดับแรก ได้แก่ การโต้ตอบทางโทรศัพท์ แชท และบทสนทนาทางอีเมล

โดยให้เหตุผลหลักว่า ความรู้ความเชี่ยวชาญของพนักงานฝ่ายไอทีที่แก้ปัญหาและความรวดเร็วในการแก้ปัญหา ซึ่งผลการสำรวจในครั้งนี้ต่างจากปี 2563 ที่พนักงานเลือกใช้วิธีการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ เพื่อแก้ไขปัญหา เช่น ค้นหาวิธีแก้ปัญหาทางออนไลน์และปรึกษาเพื่อนร่วมงาน

“พนักงานต้องการการสนับสนุนด้านไอทีเชิงรุกมากขึ้น เช่นได้รับการแก้ปัญหาก่อนที่จะพบความผิดปกติหรือก่อนที่ความผิดปกตินั้นจะถูกรายงานออกไป”

ผู้บริหารในดิจิทัลเวิร์กสเปซต้องเริ่มขับเคลื่อน “ประสบการณ์การทำงานแบบดิจิทัลของพนักงาน (DEX)” และตระหนักว่าจะใช้เครื่องมือดิจิทัลที่มีอยู่ในองค์กรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ขณะเดียวกัน ควรมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพและหาแนวปฏิบัติที่เหมาะสมแก่พนักงานเพื่อสร้างประสบการณ์ทำงานดิจิทัลที่ยอดเยี่ยม เช่น ส่งเสริมการเติบโตและสร้างความสัมพันธ์ทั่วทั้งองค์กร เข้าใจวิธีการที่พนักงานรับรู้การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี