15 ปีแห่งความปัง! เส้นทาง "OPPO" จากผู้ตามสู่ผู้นำตลาดสมาร์ตโฟนในไทย

ประเทศไทยคือประเทศยุทธศาสตร์ของ OPPO บริษัทสมาร์ตโฟนจากจีนที่เข้ามาทำตลาดจวบจนวันนี้ 15 ปีแล้ว จากวันที่แบรนด์ OPPO คือผู้ตามที่ได้แต่มองแบรนด์ชั้นนำแข่งขันกัน ออปโป้ ไทยแลนด์ ได้ผลักดันจนแบรนด์น้องใหม่ไต่เต้าขึ้นมาจนถึงวันนี้คืออันดับ 2 ของประเทศไทย และเป็นอันดับ 4 ของโลก

กรุงเทพธุรกิจไอที พาย้อนรอยเส้นทางตลอด 15 ปีของ "OPPO" ประเทศไทย ดูจุดเริ่มต้นจนถึงวันแห่งความสำเร็จ ผ่านสายตาของ ชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหารออปโป้แห่งประเทศไทย

"OPPO ได้เข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2008 กว่าเส้นทาง 15 ปีที่ออปโป้ได้นำเสนอนวัตกรรมล้ำหน้า จนเปลี่ยนจากบริษัทสมาร์ตโฟนสู่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ ด้วยการเปิดตัว Feature Phone ที่มีดีไซน์หลากหลายที่เป็นกระแสในหมู่วัยรุ่น ทำให้โทรศัพท์ OPPO ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่

เมื่อมาถึงยุค Mobile Internet นั้น OPPO เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นแรก ในไทย อย่าง OPPO Find3 ตามมาด้วย Finder, Find5 และ Find7 ที่นำเสนอเทคโนโลยีชั้นนำ N1, N1 mini, N3 จึงต่อยอดด้วย F Series ที่เป็น Selfie Expert จนทำให้ OPPO ขึ้นชื่อเรื่องถ่ายรูปเซลฟี่สวย

จนถึงปี 2561 OPPO กลายเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับ 1 ในไทย ต่อมาในยุค Internet of Experience ออปโป้นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Find X และ Find X3 หลังจากนั้นก็ได้ต่อยอด เส้นทาง Hero Product จาก F Series ที่ขึ้นชื่อในด้านการถ่ายเซลฟี่มาสู่ Reno Series ที่เป็น The Portrait Expert รวมถึงผลิตภัณฑ์ IoT จนล่าสุดที่ได้เปิดตัว OPPO Find N2 Flip เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็กลายเป็นไอเทมที่ลูกค้าสนใจมากที่สุด"

นอกจากจะเป็นผู้ผลิตสมาร์ตโฟน "OPPO" ยังก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของโลกด้วย ตัวอย่างหนึ่งซึ่งเห็นได้ชัดคือเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอย่าง SUPERVOOC ที่มาสร้างมาตรฐานใหม่ให้ระบบการชาร์จรวดเร็วและปลอดภัย เป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง OPPO จึงก้าวจากการเป็นบริษัทผู้ผลิสมาร์ตโฟน สู่การเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกโดยยึดมั่นพัฒนานวัตกรรมที่มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้บริโภคตาม Brand Proposition “Inspiration Ahead” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน

ไม่เพียงแค่นั้น "OPPO" ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรกว่า 83,000 ฉบับและยื่นจดสิทธิบัตรแล้วกว่า 42,000 ฉบับทั่วโลกซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์เพื่อเปลี่ยนโลก

ด้านความยั่งยืน OPPO ได้ให้ความสำคัญในฐานะองค์กรที่เป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลกตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ จึงได้ยึดถือแนวทางการดําเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนใน 5 ประเด็นหลัก

ได้แก่ การดําเนินงานและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การปกป้องสิ่งแวดล้อม การดูแลพนักงาน การพัฒนานวัตกรรมที่มีคุณธรรมและการมีส่วนร่วมของระบบนิเวศ รวมไปถึงการบูรณาการแนวคิดด้านความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เข้ากับวงจรชีวิต ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ตามหลักการบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนอย่าง “3R+1D” ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากลมาใช้ในการลดน้ำหนักของบรรจุภัณฑ์ การนําวัสดุรีไซเคิลมาใช้ใหม่ และการใช้วัสดุที่รีไซเคิลและย่อยสลายได้ตามธรรมชาติมาใช้ในบรรจุภัณฑ์

และด้วยพันธกิจของ OPPO "Technology for mankind, kindness for the world" ผู้นำด้านเทคโนโลยีแบรนด์นี้เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยี ควรมุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งๆ ขึ้นเสมอ เพื่อมอบชีวิตที่ชาญฉลาด ยิ่งขึ้นสําหรับผู้ใช้ทั่วโลก

เส้นทางธุรกิจสมาร์ตโฟนของ "OPPO" ยังไม่หยุดยั้ง วันนี้กลับมาสร้างความคึกคักในตลาดสมาร์ตโฟนระดับกลางอีกครั้ง ด้วย OPPO Reno10 Series 5G ที่เปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่นมาพร้อมกับหนึ่งในเทคโนโลยีที่ OPPO ภาคภูมิใจที่สุดในปีนี้

"กล้องใน OPPO Reno10 Series 5G เป็นกล้อง Telephoto Portrait Camera กล้องพอร์ตเทรตซูมได้ที่มีครั้งแรกบนสมาร์ตโฟนในกลุ่มระดับราคานี้ ตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ให้เข้าถึงเทคโนโลยีการถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่ทำให้ภาพพอร์ตเทรตใกล้กว่า โดดเด่นกว่า พร้อมเตรียมแคมเปญการตลาด แบบจัดเต็ม ชูโรงด้วย ‘เบลล่า-ราณี แคมเปน’ ในฐานะ The Portrait Expert ตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่มองหาภาพพอร์ตเทรต คุณภาพสูงในไตรมาสแรก OPPO ครองตำแหน่งยอดขายสมาร์ตโฟนเป็นอันดับ 2 ในประเทศไทยด้วยกลยุทธ์การตลาด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์” ชานนท์ จิรายุกุล กล่าว