‘ดาต้า-เอไอ’ เพิ่มศักยภาพ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลทุกมิติ

ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีและเอไอจำนวนมากได้ถูกพัฒนาให้มีความสามารถที่หลากหลายและง่ายต่อการใช้งาน เป็นตัวช่วยในการทำงานด้านต่างๆ รวมทั้งนำมาใช้เป็นตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับทีมทรัพยากรบุคคลได้ในหลายด้านด้วยกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้

เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกบุคลากรในการ ร่างเอกสารคุณสมบัติและหน้าที่ในตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร (Job Description) โดยการใช้ Generative AI เช่น ChatGPT ช่วยเขียนและเรียบเรียงข้อความให้น่าสนใจ 

รวมถึงมีรายละเอียดของงาน หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทักษะที่ต้องการ รวมถึงวัฒนธรรมขององค์กรที่ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งช่วยให้ผู้สมัครเกิดความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนพิจารณาสมัครในตำแหน่งนั้นๆ 

หลังจากนั้นเอไอยังช่วย คัดเลือกเรซูเม่ (Resume Screening) จากการอ่านข้อมูลของผู้สมัครทั้งหมดและเลือกผู้สมัครที่มีคุณสมบัติที่ตรงกับความต้องการที่ทางบริษัทกำหนดไว้มากที่สุด รวมทั้งช่วยวิเคราะห์เบื้องต้นได้ว่า บุคคลนั้นๆ มีแนวโน้มที่สามารถร่วมงานกับองค์กรและเป็นบุคลากรคุณภาพในอนาคตได้หรือไม่

ในขั้นตอนการสัมภาษณ์ เอไอมีส่วนช่วยในการ สร้างชุดคำถาม (Creating Interview Questions) ที่เหมาะสมกับตำแหน่งและสายงานนั้น ๆ ที่ช่วยให้เราวัดความรู้ ความสามารถ ประเมินความเชี่ยวชาญในการทำงานของผู้สมัคร มองเห็นทัศนคติและมุมมองทางความคิดที่ส่งผลต่อการทำงานในอนาคต 

และสุดท้ายเอไอจะช่วยทำสรุปผลการสัมภาษณ์ (Interview Summarization) เพื่อนำเสนอต่อทีมที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป

ส่วนของการฝึกอบรมพนักงานใหม่ เอไอจะเข้ามาช่วย เตรียมเอกสารคู่มือประกอบการอบรม (Onboarding Document) หรือทำหน้าที่เป็น แชทบอท (Chatbot) ที่ช่วยตอบคำถามและสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่พนักงานก่อนเริ่มงานจริง เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นขององค์กร นโยบายต่างๆ หน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ สวัสดิการพนักงาน กฎระเบียบสำคัญ หรือคำถามที่พบบ่อย (FAQ) 

ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการทำงานด้านเอกสาร ง่ายต่อการอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ เพิ่มเวลาให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลไปทำงานด้านอื่นๆ ที่สำคัญกว่าแทน

อีกหนึ่งความสามารถที่เอไอจะเข้ามาช่วยได้คือ การประเมินผลการทำงาน (Performance Evaluation) โดยองค์กรสามารถใช้ เทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Face Recognition) เพื่อบันทึกข้อมูลและตรวจสอบเวลาเข้า-ออกในแต่ละวันของพนักงาน การใช้เวลาทำงานตามที่กำหนดในแต่ละวัน และมีการแจ้งลาล่วงหน้าตามข้อกำหนดของบริษัท 

นอกจากนี้ เรายังใช้เอไอตรวจสอบพฤติกรรมของพนักงานในด้านต่างๆ ที่ส่งผลต่อการประเมินผลการทำงานได้ เช่น การใช้เวลาในการประชุมอย่างเหมาะสม ส่งมอบงานได้ตามกำหนด มีการพัฒนาหรือยังคงทำผิดพลาดซ้ำๆ เป็นต้น ซึ่งทำให้หัวหน้างานได้เห็นข้อมูลการทำงานของพนักงานแต่ละคนอย่างชัดเจน และทำการประเมินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างสุดท้ายที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือ การนำเอไอมาช่วยในขั้นตอน การฝึกอบรมพนักงาน (Training) เพิ่มศักยภาพให้กับผู้บริหารและพนักงานในคอร์สเรียนที่เหมาะสมกับคนนั้นๆ โดยเริ่มจากการให้ ChatGPT สรุปเนื้อหาที่น่าสนใจจากหนังสือที่ตรงกับค่านิยมขององค์กร แสดงผลออกมาเป็นหัวข้อที่น่าสนใจ เพื่อนำมาออกแบบหัวข้อฝึกอบรมให้กับพนักงาน รวมทั้งการจัดทำคู่มือประกอบการฝึกอบรม และจัดทำแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน เพื่อวัดผลการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เอไอสามารถเข้าไปช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลได้ แต่ยังมีอีกหลายด้านที่น่าสนใจที่เจ้าของธุรกิจและผู้บริหารองค์กรอาจเริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาปรับใช้กับองค์กรได้อย่างเหมาะสม 

หรือปรึกษากับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเอไอเพื่อทำงานร่วมกัน หาต้นตอของปัญหาที่อยากแก้ไข เพื่อพัฒนาออกมาเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์และสนับสนุนการทำงานขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ