Intel Innovation 2023 ‘เอไอ อินไซด์' ไฮเทคพลิกโลก
“อินเทล” พาเหรดนวัตกรรมใหม่เขย่าโลกเทคโนโลยี ปักธงนำขุมพลัง “เอไอ” ขยายสู่ทุกที่ทั่วโลก รองรับยุคใหม่แห่ง “Siliconomy” ดีเดย์เปิดตัวซีพียูใหม่โค้ดเนม “Meteor Lake” 14 ธ.ค.นี้
ยักษ์ชิป เปิดตัวนวัตกรรมเทคโนโลยีสำคัญที่งานอีเวนต์ใหญ่แห่งปี “Intel Innovation 2023” โดยครั้งนี้พระเอกของงานคือ “เอไอ” ซึ่งทางอินเทลได้ประกาศว่า มีเป้าหมายที่จะชูศักยภาพเอไอให้ขยายไปสู่ทุกที่ทั่วโลก พร้อมช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในทุกเวิร์กโหลด ตั้งแต่ลูกค้า เอดจ์ ไปจนถึงเครือข่ายและคลาวด์
แพท เกลซิงเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อินเทล แสดงวิสัยทัศน์ว่า เอไอเปรียบเสมือนนวัตกรรมตัวแทนแห่งการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ก่อกำเนิดยุคใหม่ที่เทคโนโลยีได้ขยายแทรกซึมไปสู่ทุกที่ทั่วโลก
โดยเฉพาะพลังการประมวลผลที่กลายเป็นรากฐานสำคัญของอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำหรับบรรดานักพัฒนาแล้ว สิ่งนี้จะยิ่งสร้างโอกาสอันมหาศาลต่อสังคม
ขณะเดียวกัน ช่วยให้ภาคธุรกิจขยายขอบเขตความเป็นไปได้ สร้างโซลูชันในการรับมือกับความท้าทายที่โลกกำลังเผชิญ ที่สำคัญยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนบนโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้น
ก้าวสู่ยุคแห่ง ‘Siliconomy’
แพทบอกว่า อินเทลจะนำพลังของเอไอไปใช้กับทุกผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ที่มี และทำให้สามารถเข้าถึงได้ผ่านสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์แบบเปิดที่มีความหลากหลาย (Multi-Architecture Software Solutions)
โดยเอไอนั้นจะเป็นตัวจักรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อน “Siliconomy” ยุคใหม่ของการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของซิลิคอนและซอฟต์แวร์ ขณะเดียวกันมีการเชื่อมโยงระหว่างโลกของมนุษยชาติและเทคโนโลยี ตอบโจทย์ความต้องการพลังการประมวลผลที่มีความปลอดภัย เปิดกว้าง และยั่งยืน
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมซิลิคอนมีมูลค่ากว่า 5.74 แสนล้านดอลลาร์ และเป็นส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนและเพิ่มมูลค่าให้กับเทคอีโคโนมีทั่วโลกที่มีมูลค่าราว 8 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา Siliconomy ได้ผลักดันให้คอนเนคเต็ดดีไวซ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า และในช่วงเวลา 10 ปีจากนี้จะขับเคลื่อนการเติบโตให้กับคอนเนคเต็ดดีไวซ์อีกกว่า 15 เท่า
จุดพลุซีพียูใหม่ ‘Meteor Lake’
ซีอีโออินเทลวิเคราะห์ว่า เอไอจะเข้ามาเปลี่ยนโฉม ปรับรูปแบบ และปรับโครงสร้างประสบการณ์พีซีโดยพื้นฐาน ซึ่งจะปลดปล่อยประสิทธิภาพและความคิดสร้างสรรค์แบบเฉพาะบุคคลผ่านพลังของระบบคลาวด์และพีซีที่ทำงานร่วมกัน ขณะเดียวกันตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวได้มากขึ้น
กล่าวได้ว่า ขณะนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่แห่ง “พีซีเอไอ” ซึ่งประสบการณ์พีซีใหม่นี้มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายใต้โค้ดเนม “Meteor Lake” วันที่ 14 ธ.ค. 2566 นี้
Meteor Lake มาพร้อมหน่วยประมวลผลเชิงประสาทเทียมแบบบูรณาการตัวแรกของอินเทลหรือ NPU เพื่อการเร่งความเร็วเอไอที่ประหยัดพลังงานและใช้การอนุมานเฉพาะบนพีซี
Intel Core Ultra เปรียบเสมือนจุดพลิกโฉมสำคัญของแผนพัฒนาโปรเซสเซอร์สำหรับลูกค้าของอินเทล โดยถือเป็นดีไซน์ชิปเล็ตสำหรับลูกค้าตัวแรกของอินเทลที่ใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่เรียกว่า Foveros
นอกเหนือจากหน่วยประมวลผล NPU และความก้าวหน้าสำคัญด้านประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานด้วยเทคโนโลยีการประมวลผล Intel 4 แล้ว โปรเซสเซอร์ใหม่นี้ยังโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพกราฟิกระดับแยกด้วยกราฟิก Intel® Arc™
สำหรับพันธมิตรรายแรกที่ออกมาประกาศความร่วมมือกับอินเทลคือ “เอเซอร์” โดยนายเจอรร์รี่ เกา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เอเซอร์ได้เผยโฉมตัวอย่างแล็ปท็อปที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ พร้อมระบุว่า ได้ทำงานร่วมกับอินเทลในการพัฒนาชุดแอปพลิเคชัน Acer AI โดยใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Intel Core Ultra ซึ่งพัฒนาขึ้นมาด้วยชุดเครื่องมือ OpenVINO และไลบรารี AI ที่พัฒนาร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์ฮาร์ดแวร์ให้กับแล็ปท็อปใหม่ล่าสุด
ส่องไฮไลต์เด่นประจำปี
งานครั้งนี้ยังมีไฮไลต์ที่น่าสนใจเช่น การประกาศเดินหน้าแผนพัฒนาเทคโนโลยีเซิร์ฟเวอร์ 5 โหนดให้สำเร็จภายใน 4 ปี พร้อมเผยโฉมแพ็กเกจมัลติชิปเล็ตแรกของโลกที่ใช้ Universal Chiplet Interconnect Express (UCIe) ในการเชื่อมต่อเข้าหากัน
นอกจากนี้ เผยรายละเอียดใหม่ล่าสุดของโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® รุ่นถัดไป พร้อมเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการใช้พลังงานขึ้นไปอีกขั้น โดยมีจำนวนโปรเซสเซอร์ E-core ถึง 288 คอร์ ซึ่งโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® เจนเนอเรชั่น 5 เตรียมเปิดตัวในวันที่ 14 ธ.ค. 2566 นี้
เช่นเดียวกัน ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เอไอขนาดใหญ่จะถูกสร้างขึ้นบนโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® และชิปเร่งความเร็วฮาร์ดแวร์ AI Intel® Gaudi®2 โดยมี Stability AI เป็นหัวใจสำคัญ
เพื่อช่วยให้นักพัฒนาปลดล็อกศักยภาพแห่งอนาคต อินเทลยังได้เปิดตัวไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ Intel Developer Cloud ที่ให้บริการแก่ผู้ใช้ทั่วไป, ชุดเครื่องมือ OpenVINO เวอร์ชัน 2023.1 รวมไปถึง Project Strata และการพัฒนาแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Edge-native
ผู้บริหารอินเทลแสดงความมั่นใจว่า จะสามารถเอาชนะในเกมเอไอนี้ได้ เหตุเพราะมีจุดแข็งทั้งด้านอินโนเวชั่น สเกล การเปิดกว้าง และจากนี้พร้อมพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา นอกจากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นรายไตรมาสแล้ว ได้เห็นด้วยว่าลูกค้าให้ความสนใจสูงขึ้นอย่างมาก ขณะเดียวกันอินเทลมีความแข็งแรงด้านซัพพลายที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้รวดเร็ว ตรงตามความต้องการ