'เอไอเอส เอ็นที' คู่หูคู่ใหม่เร่งโรมมิ่ง '5G' สร้างเสาเพิ่ม 13,500 แห่งใน 2 ปี
ผนึกกำลังครั้งสำคัญ เสริมขีดความสามารถ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz มุ่งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศ ต่อยอดนวัตกรรมโครงข่ายอัจฉริยะเพื่อคนไทย
ภายหลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลผู้ให้บริการโทรคมนาคม ได้อนุญาตให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที สามารถโอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 700 MHz จำนวน 5 MHz ให้กับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด หรือ เอดับบลิวเอ็น ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส
ตามที่เอ็นทีชนะการประมูลคลื่นในย่านดังกล่าวจำนวน 2 ใบอนุญาต 738-748 MHz คู่กับ 793-803 MHz ด้วยราคา 34,306 ล้านบาทจากกสทช.
ล่าสุด เอ็นทีและเอดับบลิวเอ็นทีได้ลงนามสัญญาในโครงการเช่าใช้บริการอุปกรณ์โครงข่ายเพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G บนคลื่น 700 MHz และสัญญาการใช้บริการข้ามโครงข่ายโทรคมนาคมภายในประเทศ (โรมมิ่ง) เพื่อเดินหน้าเสริมขีดความสามารถในการให้บริการ 4G/5G ของเอ็นที และ เอไอเอส
โดยภายใต้สัญญาฯ ดังกล่าวเอไอเอส จะจัดทำโครงข่าย 4G/5G บนคลื่นความถี่ 700 MHz จำนวน 13,500 สถานีฐาน ภายในระยะเวลา 2 ปี เพื่อให้ เอ็นที ใช้ในการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้ง 4G/5G แก่ลูกค้าผู้ใช้บริการตลอดอายุใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ 700 MHz ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2579
นับเป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรภาครัฐและเอกชน บนแนวคิด Infrastructure Sharing ซึ่งลดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่ซ้ำซ้อน ในภาพรวมของประเทศ และสามารถใช้คลื่นความถี่ที่มีอย่างเต็มประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อคนไทย รองรับการเติบโตของผู้ใช้บริการทั้งในปัจจุบันและอนาคต อีกทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพโครงข่าย 5G ของประเทศไทยให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้นตามความตั้งใจของทั้งสององค์กร
พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็นที กล่าวว่า “การทำสัญญา Network Sharing ร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง เอไอเอส ส่งผลประโยชน์หลายด้านโดย เอ็นที สามารถประหยัดงบประมาณการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องในระยะยาวบนคลื่น 700 MHz และเป็นแนวทางที่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วเพื่อเพิ่มโอกาสของเอ็นทีในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5G ตามที่ครม.อนุมัติ
ทั้งนี้ โครงข่ายที่จะจัดสร้างบนคลื่น 700 MHz สามารถรองรับการให้บริการแก่ลูกค้าในปัจจุบันกว่า 2 ล้านราย และรองรับการขยายตลาดในอนาคตได้ถึง 4 ล้านราย ครอบคลุมบริการสำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปและลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ
นอกจากนี้ เอ็นทียังมีข้อตกลงกับเอไอเอสในการให้บริการข้ามโครงข่ายบนโครงข่ายของเอไอเอสได้ในทุกคลื่นความถี่ อันจะส่งผลทำให้ลูกค้าเอ็นทีได้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G/5G อย่างมีคุณภาพ ครอบคลุมทุกพื้นที่
ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า เรามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับโอกาสจากเอ็นทีในการเข้าเป็นพันธมิตรร่วมทำงานยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเอไอเอส พร้อมเป็นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนเป้าหมายของเอ็นทีในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีระดับสากล และ ทีมงานวิศวกรที่จะดูแลคุณภาพของโครงข่ายอย่างเต็มที่
รวมไปถึงภารกิจของเอไอเอส เองที่มุ่งมั่นส่งมอบบริการ 5G คุณภาพให้แก่ลูกค้าจากคลื่นความถี่ทุกย่าน ตั้งแต่ 700 MHz จากความร่วมมือในครั้งนี้ที่จะทำให้มีปริมาณรวม 2x20 MHz ที่จะสามารถขยายบริการ 5G ให้ครอบคลุมไปยังพื้นที่ห่างไกลในต่างจังหวัดและพื้นที่เมืองในเขตอาคารสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พร้อมผนึกพลังกับคลื่นความถี่ซึ่งได้รับการจัดสรรมาก่อนหน้านี้ ในย่าน 900 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz รวมเป็น 1460 MHz มากที่สุดในไทย ที่จะทำให้ครอบคลุมการใช้งานลูกค้าและองค์กรธุรกิจทุกรูปแบบ และต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศสู่ความเป็นเครือข่ายอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม