‘YouTube’ ครองแชมป์​แพลตฟอร์มวีดีโอในไทย - เดินหน้าบุกตลาดไทยเต็มที่

‘YouTube’ ครองแชมป์​แพลตฟอร์มวีดีโอในไทย - เดินหน้าบุกตลาดไทยเต็มที่

คนไทยยก YouTube แพลตฟอร์มวีดีโอที่ 1 ในใจ เผยทุก 1 นาที มีคอนเทนต์ ถูกอัปโหลดบน YouTube ทั่วโลก มากกว่า 500 ชั่วโมง ขณะที่ YouTube Shorts สุดฮิต ดึง AI ดันยอดดูรายวัน ทะลุกว่า 7 หมื่นล้านครั้ง เฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้นถึง 130% !!!!

YouTube ครองตำแหน่งแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมที่คนไทยเลือกรับชมคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ ท่ามกลางตัวเลือกที่มีอยู่มากมาย ดัน เครื่องมือที่ทำงานด้วยระบบ AI บน YouTube ช่วยให้ครีเอเตอร์ปลดล็อกรูปแบบใหม่ๆ ในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ และทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

YouTube ประเทศไทย จัดงานใหญ่ประจำปี “YouTube Works for Thailand 2023” ชูความมีชีวิตชีวาของระบบนิเวศของ YouTube เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาประสิทธิภาพและประสิทธิผลของ YouTube ในฐานะแพลตฟอร์มการโฆษณา พร้อมทั้งเน้นย้ำบทบาทที่สำคัญของ AI ในการขับเคลื่อนความสำเร็จอันน่าประทับใจของ YouTube

ภายในงานยังมีการประกาศแคมเปญที่ชนะรางวัล “Best of Thailand” YouTube Works Awards และแคมเปญจากประเทศไทยที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ “YouTube Works Awards South East Asia 2023” ซึ่งเป็นการแข่งขันชิงรางวัลระดับภูมิภาคที่จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้

‘YouTube’ ครองแชมป์​แพลตฟอร์มวีดีโอในไทย - เดินหน้าบุกตลาดไทยเต็มที่ ปัจจุบัน ผู้คนมีพฤติกรรมการรับชมวิดีโอที่หลากหลายมากขึ้น แต่ YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้ของแบรนด์และผลลัพธ์ทางธุรกิจได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจากผลการสำรวจล่าสุดของ Kantar พบว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโออันดับ 1 ของคนไทย โดยผู้ชมชาวไทยใช้เวลารับชมวิดีโอบน YouTube มากกว่าแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ

ทุก 1 นาที วิดีโออัปโหลด 500 ชม.

แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “นับตั้งแต่ที่ YouTube เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ 9 ปีที่แล้ว พฤติกรรมการรับชมวิดีโอออนไลน์ของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมาก ในทุกๆ 1 นาที มีการอัปโหลดคอนเทนต์ลงบน YouTube จากทั่วโลกมากกว่า 500 ชั่วโมง และครอบคลุมเนื้อหาหลายพันประเภท และแม้ว่าจะมีช่องโทรทัศน์และแอปวิดีโอสตรีมมิงต่างๆ ให้เลือกชมหลายร้อยเจ้า คนไทยก็ยังคงเลือก YouTube ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นเพราะ YouTube ตอบโจทย์ในทุกด้าน โดยมีคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ

ตั้งแต่วิดีโอความยาว 6 วินาที ไปจนถึงสตรีมแบบสดที่ยาวเป็นชั่วโมง นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นบนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะรับชมบนโทรศัพท์มือถือหรือบนหน้าจอทีวีที่บ้าน และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่คนไทยรับชมและผูกพันมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง แม้ว่าจะมีตัวเลือกอื่นๆ ให้รับชมมากมาย”

YouTube Shorts อาเซียนโต 130%

นอกจากนี้ ครีเอเตอร์และแบรนด์ต่างๆ ยังใช้ YouTube Shorts ในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายด้วยคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ ทำให้ YouTube Shorts ได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมียอดดูรายวันกว่า 7 หมื่นล้านครั้ง โดยยอดดูเฉลี่ยรายวันของ YouTube Shorts เฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มขึ้นถึง 130% จากปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หัวใจสำคัญของประสบการณ์การรับชมวิดีโอบน YouTube ก็คือ AI โดย YouTube ได้นำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในการดำเนินงานด้านต่างๆ มาระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งรวมถึงการปกป้องผู้ชมจากเนื้อหาที่เป็นอันตราย การช่วยให้ผู้คนค้นพบเนื้อหาที่พวกเขาชื่นชอบ การยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ และการช่วยให้คนทั่วโลกเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น และล่าสุด YouTube ได้ขจัดอุปสรรคในกระบวนการสร้างสรรค์และช่วยให้ครีเอเตอร์ YouTube เข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น

“ตอนนี้เราอยู่ในจุดเปลี่ยนของความก้าวหน้าด้าน AI ที่จะพลิกโฉมอนาคตของการสร้างสรรค์วิดีโอ เรารู้สึกตื่นเต้นกับศักยภาพของ AI ที่จะช่วยปลดล็อกรูปแบบใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ของครีเอเตอร์ ศิลปิน ผู้ลงโฆษณา และผู้ชม และเราจะยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ อย่างสร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบต่อไป” แจ็คกี้ กล่าวเสริม

เปิด 3 เทรนด์ใหญ่

มุกพิม อนันตชัย หัวหน้าฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ YouTube ประเทศไทย และเวียดนาม ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์ล่าสุดบน YouTube ว่า “เทรนด์หลักๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนอนาคตของการสร้างสรรค์คอนเทนต์บน YouTube ในตอนนี้มีอยู่ 3 เทรนด์ด้วยกัน

เทรนด์แรก คือ เทคโนโลยีที่ทำให้การสร้างสรรค์คอนเทนต์ง่ายขึ้นกว่าเดิม ตั้งแต่ฟีเจอร์ต่างๆ ไปจนถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญๆ อย่างเช่น AI โดยจะช่วยครีเอเตอร์ปลดล็อกรูปแบบใหม่ๆ 

เทรนด์ที่ 2 คือ วัฒนธรรมแฟนคลับมีการเติบโตขึ้นมาก ทำให้เกิดเป็นชุมชนกลุ่มย่อยๆ ขึ้นมากมาย 

เทรนด์สุดท้าย คือ YouTube ยังคงเต็มไปด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ผู้คนใช้ YouTube เพื่อติดตามคอนเทนต์ที่พวกเขาสนใจและหลงใหล

YouTube ดึง AI ปั้นยอด

อย่างไรก็ตาม AI ไม่ได้เพียงแต่เป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับครีเอเตอร์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอีกด้วย โดย YouTube มีเครื่องมือที่ทำงานด้วยระบบ AI ดังนี้

- หลักเกณฑ์ครีเอทีฟโฆษณาใน Google Ads (YouTube Ads Creative Guidance) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำงานด้วยระบบ AI ของ Google ที่จะประเมินแคมเปญโฆษณาให้โดยอัตโนมัติ พร้อมแนะนําแนวทางปฏิบัติแนะนําเพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา เช่น การใส่เสียงบรรยายในวิดีโอ หรือการวางแนววิดีโอให้เหมาะสม

- แคมเปญยอดดูวิดีโอ (Video View Campaign) ที่ทำงานด้วยระบบ AI ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาได้ยอดดูโฆษณามากที่สุดในวิดีโอทุกรูปแบบของ YouTube โดยการนำเสนอครีเอทีฟโฆษณาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดแก่ผู้ชมที่มีแนวโน้มที่จะพิจารณาแบรนด์นั้นๆ มากขึ้น

- Demand Gen ใช้ AI เพื่อช่วยให้แบรนด์นำเสนอโฆษณาในทุกช่องทางและพื้นที่โฆษณาของ Google ซึ่งรวมถึง YouTube, YouTube Shorts, Gmail และ Discover

ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย Head of Southeast Asia YouTube Marketing และ Country Marketing Manager, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “YouTube ยังคงเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมของคนไทย เพราะพวกเขารู้สึกว่า YouTube มอบประสบการณ์ที่คุ้มค่าและเติมเต็มชีวิต ทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าและมีความหมาย และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ YouTube มีความสำคัญต่อแบรนด์ต่างๆ ก็คือการเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยไว้ใจมากที่สุด

โดยผู้ชมชาวไทยกล่าวว่าโฆษณาบน YouTube นั้นน่าเชื่อถือที่สุด เช่นเดียวกับ 86% ของผู้ชม Gen Z ที่เห็นด้วยว่าโฆษณาในวิดีโอบน YouTube ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะพิจารณาแบรนด์หรือสินค้ามากขึ้น 

“คอนเทนต์ที่ดียังคงเป็นกุญแจสำคัญในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย และด้วยเครื่องมือที่ทำงานด้วยระบบ AI บน YouTube ที่มีให้แบรนด์ได้เลือกใช้ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าแบรนด์ต่างๆ มีการปรับตัวและสร้างสรรค์คอนเทนต์บน YouTube เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชมในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างไรบ้าง” ศารณีย์ กล่าวเสริม

“Love Your Gut” คว้ารางวัล

อีกหนึ่งไฮไลท์ภายในงานคือการประกาศผลแคมเปญที่ชนะรางวัล “Best of Thailand” YouTube Works Awards ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมและยกย่องแบรนด์ที่ใช้ YouTube เพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพผ่านแคมเปญครีเอทีฟโฆษณาที่มีความโดดเด่น

สำหรับปีนี้ แคมเปญ “Love Your Gut” คว้ารางวัล Gold Awards for Best of Thailand ไปครอง โดยมีจุดเด่นคือคอนเทนต์ที่ผสมผสานความตลกขบขัน การเสียดสี และเพนพ้อยท์ของ Gen Z เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งการนำเสนอคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบซึ่งทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ ในขณะที่แคมเปญ

“The Innocent Eyes” คว้ารางวัล Silver Awards และแคมเปญ “Quality Time, Again” ได้รับรางวัล Bronze Awards ไปครอง แคมเปญที่ชนะรางวัลในปีนี้ต่างสะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่น ทั้งในด้านการวางแผนสื่อ การเล่าเรื่องราว และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ระหว่างแบรนด์และเหล่าครีเอเตอร์ รวมถึงการกระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

สามารถดูรายละเอียดแคมเปญที่ชนะรางวัล “Best of Thailand” YouTube Works Awards ประจำปี 2566 ได้ที่นี่ และแคมเปญที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายของ YouTube Works Awards South East Asia 2023 ได้ที่นี่