'AIS-ตำรวจ' ทลาย แก๊งคอลเซนเตอร์ - ยึด SIM BOX แปลงสัญญาณโทรศัพท์เป็นซิมการ์ด

'AIS-ตำรวจ' ทลาย แก๊งคอลเซนเตอร์ - ยึด SIM BOX แปลงสัญญาณโทรศัพท์เป็นซิมการ์ด

เอไอเอส ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กสทช. ขยายผลจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์สวมรอยหลอกลวงประชาชน พร้อมกัน 5 จุด ระบุตรวจยึดเครื่องมือใช้ในการกระทำความผิด เครื่อง GSM Gateways (SIM BOX) และซิมการ์ด 320 เบอร์

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร  เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ พล.ต.ท.วรวัฒน์  วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ หรือ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ร่วมกันให้ข้อมูลว่า

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมมือกับ สำนักงาน กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่าย เดินหน้าปราบปรามสถานีโทรคมนาคมผิดกฎหมาย และจัดระเบียบเสาสัญญาณตลอดแนวชายแดนประเทศ เพื่อนบ้าน

ตั้งแต่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด, อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อสกัดไม่ให้ มีการเผยแพร่สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมาได้มี การกวาดล้างจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง

ย้ายฐานหนีไปชายแดน

ทั้งนี้ ทำให้ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการย้ายฐานปฏิบัติ การเข้าสู่พื้นที่ใหม่ๆ ที่ยังสามารถอาศัยสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตจากฝั่งไทยได้และปลอดภัยจากการกวาดล้างจับกุม

โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและบางส่วนอยู่ ภายใต้อิทธิพลของชนกลุ่มน้อย ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการร่วมตำรวจและ กสทช. ได้มีการลงพื้นที่หาข่าวจนนำมาสู่การปฏิบัติการ

โดยได้เข้าจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมกัน 5 จุด รวมเข้าตรวจยึดอุปกรณ์ SIM BOX รวมทั้งหมดจำนวน 10 เครื่อง พร้อมซิมการ์ดจำนวนรวมกว่า 320 เบอร์ รวมไปถึง เราเตอร์อินเทอร์เน็ตสำหรับควบคุมระยะไกล 5 เครื่อง

ครั้งนี้ พบว่า เป็นลักษณะของการใช้พื้นที่ในอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ แล้วใช้เราเตอร์ของอาคาร ทำให้กลืนไปกับปริมาณการใช้งานของอาคาร เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตรวจจับได้ยากขึ้น

นอกจากนี้การเข้ามาตั้ง SIM BOX ในลักษณะนี้ทำให้หมายเลขการโทรแสดงเป็นหมายเลขภายในประเทศ เพื่อหลบเลี่ยงมาตรการขึ้นหมายเลขหน้าเบอร์โทร Prefix ของ กสทช.ที่เคยกำหนดไว้ และทำให้ประชาชนหลงเชื่อได้ง่ายขึ้น

\'AIS-ตำรวจ\' ทลาย แก๊งคอลเซนเตอร์ - ยึด SIM BOX แปลงสัญญาณโทรศัพท์เป็นซิมการ์ด

ทลายถึงต้นตอ แหล่งกบด้าน

วรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ เอไอเอส กล่าวว่า จากกรณีการเกิดอาชญากรรมจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ และมีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ส่งผลกระทบตั้งแต่การสูญเสียทรัพย์สิน ไปจนถึงสภาพจิตใจ

ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ทำงานร่วมกับภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจไซเบอร์ และ กสทช. ตั้งทีมประสานงาน ตรวจสอบ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลจากการที่ประชาชนแจ้งความร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หรือแจ้งผ่านบริการสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนเบอร์โทรและ SMS มิจฉาชีพ ตลอด 24 ชั่วโมง จนสามารถนำไปสู่การขยายผล จับกุม คนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบัน นอกจากมิจฉาชีพจะใช้กลอุบายในการโทรหลอกลวงเช่นในอดีตที่ผ่านมาแล้ว ยังมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่อที่จะโทรหลอกลวงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดการหลงเชื่อ สูญเสียทรัพย์สิน หรือ กระทำการข่มขู่ทวงหนี้ทำให้เกิดความหวาดกลัว

สำหรับเครื่องมือที่นำมาใช้กระทำความผิดหลักๆ จะเป็นอุปกรณ์ SIM BOX เครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ที่เป็นการลักลอบใช้เป็นช่องทางการสื่อสารที่สามารถเข้าถึงประชาชนบุคคลทั่วไปภายในประเทศ และซิมการ์ด

ทางเอไอเอสได้ร่วมส่วนหนึ่งของภารกิจในการติดตามและตรวจสอบสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น จนสามารถทราบถึงต้นตอหรือแหล่งกบดานของคนร้าย ซึ่งนำสู่การบุกทลายแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้ได้สำเร็จ