‘ซิสโก้’ คิกออฟศักราชใหม่ ‘เน็ตเวิร์ก ซิเคียวริตี้’ องค์กร
ท่ามกลางสถานการณ์ ภัยคุกคาม ที่มีการขยายตัว และเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง องค์กรธุรกิจต่างๆ ต้องเผชิญกับปัญหาท้าทายที่สำคัญ นั่นคือ การเสริมความแข็งแกร่งให้โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเพื่อรักษาความยืดหยุ่นในโลกไฮบริด...
วีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ ซิสโก้ ประเทศไทยและเมียนมาร์ กล่าวว่า องค์กรต่างๆ มีการพัฒนาไปตามเทรนด์ต่างๆ เช่น การโยกย้ายไปสู่ระบบคลาวด์ การทำงานแบบไฮบริด และการปรับใช้เทคโนโลยีเอไอ
ปัจจุบันพนักงานทำงานจากสถานที่ต่างๆ โดยใช้การเชื่อมต่อที่หลากหลาย และเข้าถึงข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ความยืดหยุ่นจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
ตรงจุดนี้เองที่ “เครือข่าย” เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่เป็น “ด่านแรก” ของการป้องกัน และเป็นจุดควบคุม (sole control point) ที่ตรวจสอบทุกการเชื่อมต่อทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผู้ใช้ อุปกรณ์ หรือสถานที่
องค์กร 89 % เสี่ยงถูกโจมตี
รายงานความพร้อมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity Readiness Index) ของซิสโก้ปีนี้ พบว่า การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มีความยากกว่าในอดีตมาก
ปัจจุบัน บริษัทต่างๆ ในไทยยังไม่พร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างเต็มที่ โดยมีเพียง 27% เท่านั้นที่มีความพร้อมอย่าง “สมบูรณ์” ในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามทางไซเบอร์สมัยใหม่
กล่าวได้ว่า ช่องว่างด้านความพร้อมนี้เห็นได้ชัดเจนอย่างมาก เพราะ 89 % ของผู้ตอบแบบสอบถามในไทยคาดว่าเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จะทำให้ธุรกิจของพวกเขาหยุดชะงักใน 12 ถึง 24 เดือนข้างหน้า
หากปราศจากการเตรียมพร้อมที่ดีก็สามารถทำให้เกิดความเสียหายที่มีมูลค่าสูงมาก 66% กล่าวว่า พวกเขาประสบเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และองค์กรครึ่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบต้องแบกรับความเสียหายมูลค่าอย่างน้อย 500,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ดี 3 องค์ประกอบที่มีความสำคัญสูงสุดยังคงเป็น “คน กระบวนการ และ เทคโนโลยี” ขณะที่แนวทางในการแก้ปัญหาต้องมองในเชิงแพลตฟอร์ม ไม่ควรแยกส่วน เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและปิดช่องโหว่ให้ได้มากที่สุดเท่า
ศักราชใหม่ ‘ระบบเครือข่าย’
วีระ กล่าวว่า การรับมือกับความท้าทายด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ในโลกยุคใหม่ องค์กรธุรกิจต่างๆ ต้องการประสบการณ์การเชื่อมต่อเครือข่ายตามแนวทาง Zero Trust พร้อมความสามารถในการตรวจสอบ วิเคราะห์ และการบังคับใช้นโยบายเพื่อคุ้มครองทุกการเชื่อมต่อโดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งที่ตั้ง
ล่าสุด ซิสโก้ได้ เปิดตัวแนวทาง “Secure Networking” ในไทย ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ผสานรวมความสามารถขั้นสูงของระบบเครือข่ายและระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ แนวทางนี้สร้างขึ้นบนแนวคิด Zero Trust เพื่อให้องค์กรธุรกิจต่างๆ ได้รับโซลูชั่นการเชื่อมต่อที่ราบรื่นและปลอดภัย สามารถรับมือกับความเสี่ยงทางไซเบอร์ในโลกไฮบริดได้
แนวทาง Secure Networking เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้องค์กรเหล่านี้เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์นวัตกรรม และเร่งการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการรักษาความปลอดภัย
ครั้งนี้ นับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของระบบเครือข่ายที่มุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัย โดยเชื่อมโยงกับคลาวด์เน็ตเวิร์ก และคลาวด์ซีเคียวริตี้ของซิสโก้ (Cisco Networking Cloud & Cisco Security Cloud) เพื่อมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่ปลอดภัยและดีที่สุด
กลยุทธ์ ‘เอไอ’ยกระดับซิเคียวริตี้
จวน ฮวด คู ผู้อำนวยการฝ่ายไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ซิสโก้ ภูมิภาคอาเซียน เผยว่า ซิสโก้ปรับใช้กลยุทธ์เอไอสำหรับระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อมอบโซลูชั่นไซเบอร์ซิเคียวริตี้ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการปกป้องระบบเอไอให้รอดพ้นจากภัยคุกคาม
แม้เทคโนโลยีเอไอจะพลิกโฉมภูมิทัศน์ทางด้านธุรกิจ ช่วยให้องค์กรธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถขับเคลื่อนในระดับแมชีน ไม่ใช่ในระดับมนุษย์ พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก่อให้เกิดประเด็นใหม่ๆ เกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความปลอดภัย การเก็บรักษาความลับ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา และ bias ต่างๆ
3 กลยุทธ์เอไอสำหรับระบบรักษาความปลอดภัยของซิสโก้
- ทำให้การจัดการนโยบายด้านความปลอดภัยง่ายขึ้น
- ทำให้การป้องกันภัยคุกคามมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น
- การคุ้มครองการใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ให้มีความปลอดภัย