'ทรู' ปูพรมขยาย 5G ลุย Single Grid ทั่วประเทศ วางเป้าปี'68 มีจำนวน 42,000 ต้น
มั่นใจสัญญาณดีขึ้น ถือเป็นบทพิสูจน์หลังควบรวมทรู-ดีแทค ยกระดับประสบการณ์สัญญาณมือถือ 5G และ 4G เผยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยสู่การจัดการโครงข่าย ลดจุดเสาซ้ำซ้อน ย้ำไม่ลดสถานีฐาน เพิ่มความครอบคลุมพื้นที่ใช้งานทั่วไทย พร้อมประสานคลื่นความถี่
ทรู ลุยทำ “Single Grid” ทั่วประเทศ เพิ่มคุณภาพเร็ว-แรง-ครอบคลุมยิ่งขึ้น พร้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วย AI
• เดินหน้าปูพรมขยาย 5G ให้ครอบคลุม 97% ด้วยโครงข่ายคุณภาพ
• ประสานคลื่นความถี่ทรู-ดีแทคสัญญาณกว้างขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพ 5G และ 4G
• ย้ำลดเสาซ้ำซ้อนสัญญาณกวน แต่ไม่ลดอุปกรณ์ส่งสัญญาณคลื่นความถี่
ประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี ทรู ยืนยันว่า หลังการควบรวมทรูและดีแทคบริษัทได้เดินหน้าคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์มือถืออย่างเต็มความสามารถ โดยได้เร่งเดินหน้าโครงการรวมโครงสร้างเสาสัญญาณระบบโครงข่ายเดียว หรือ Single Grid ให้เป็น 42,000 ต้นในปี 2568 ซึ่งเป็นหัวใจหลักของการดำเนินงานของที่ผสานจุดแข็งเสาสัญญาณของทรูและดีแทค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโครงข่ายในทุกคลื่นสัญญาณ
โดยปรับเสาที่ซ้ำซ้อนและอาจก่อให้เกิดสัญญาณรบกวน โดยขยายโครงข่ายให้สัญญาณเพิ่มขึ้น ครอบคลุมขึ้น และดีขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา ด้วยข้อมูลอินไซต์การใช้งานที่เจาะลึกในรายละเอียดแต่ละพื้นที่ พร้อมนำเทคโนโลยีเสาสัญญาณล้ำสมัยที่ผสานหลากหลายคลื่นความถี่จากทรูและดีแทครวมกันทำให้เรามีคลื่นให้บริการทุกย่านความถี่มากที่สุด
"เดิมดีแทคมีจำนวนสถานีฐาน 24,000 แห่ง และ ทรูมี 35,000 แห่ง แต่เมื่อมี Single Grid ลูกค้าดีแทคและทรูเดิมจะมองเห็นสถานีฐานเพิ่มขึ้นตามที่เราวางระบบ Single Grid"
ทรูคอร์ปอเรชั่นยืนยันคุณภาพสัญญาณมือถือ ลุยสร้างเครือข่ายที่เหนือกว่า ภายใต้ Single Grid เพื่อลูกค้ากว่า 50 ล้านราย บทพิสูจน์หลังควบรวมทรู-ดีแทคยกระดับประสบการณ์สัญญาณมือถือ 5G และ 4G โดยเผยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยสู่การจัดการโครงข่าย ลดจุดเสาซ้ำซ้อน ย้ำไม่ลดสถานีฐาน เพิ่มความครอบคลุมพื้นที่ใช้งานทั่วไทย พร้อมประสานคลื่นความถี่ รวมพลังอัปเกรดสัญญาณอย่างรวดเร็วด้วยศักยภาพความพร้อมในฐานะบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย
"เราเร่งขยายการเชื่อมต่อที่มีคุณภาพสูงสุด โดยผ่าน “โรมมิ่ง” ในช่วงแรกหลังควบรวมทรูและดีแทค โดยลูกค้ากว่า 76% ได้ใช้งานในย่านความถี่ 2600 MHz และ 700 MHz ที่มีความเสถียรแม่นยำ และปัจจุบันเพิ่มแผนปูพรม “Single Grid” ทั่วไทย เพื่อลูกค้าทั้งหมดกว่า 50 ล้านหมายเลข คาดแล้วเสร็จภายในปี 2568 โดยปัจจุบันโครงข่าย 4G ของทรู-ดีแทค นั้นครอบคลุมประชากร 99% โดยโครงข่าย 5G ของทรู-ดีแทคตั้งเป้าขยายให้ถึง 97% ภายในปี 2568"
อนึ่ง การควบรวมสถานีฐานในพื้นที่เดียวกันเป็นการผสานจุดแข็งเสาสัญญาณของทรูและดีแทค ทั้งนี้จากการที่มีข้อมูลบิดเบือนว่าเสาสัญญาณเป็นเสาดัมมี่นั้นไม่ได้เป็นข้อมูลตามจริง ในทางกลับกัน “Single Grid” ได้เพิ่มประสิทธิภาพการประสานการทำงานของโครงข่ายในทุกคลื่นสัญญาณอีกด้วย
ทั้งนี้ ในการรวมโครงข่ายของทรู คอร์ปอเรชั่นจะมุ่งเน้นความสำคัญในการยกระดับประสบการณ์ใช้งานของลูกค้าให้ดีขึ้นด้วยการเพิ่มพื้นที่ครอบคลุมการใช้งานพร้อมนำคลื่นความถี่รวมกันเพื่อให้บริการมีประสิทธิภาพสูงสุดจากผสานคลื่นที่มีครบทุกย่านมากที่สุด คือ 700 MHz, 850 MHz, 900 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz การสร้างเครือข่ายที่มีความครอบคลุมมากกว่าเดิม และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก
มุ่งสู่เครือข่ายลดผลกระทบ “Climate Change”
ทรู มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน 42% ภายในปี 2573 พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน จากโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และ Machine Learning (แมชชีน เลิร์นนิง) รวมถึงการวางแผน รวมทั้งการปรับใช้โมเดลสถานีฐานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Powered Cell Sites)
• “Single Grid” ลดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการวางแผน
• 15% ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน จากโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning (ML)
• 100% รวมศูนย์ฐานข้อมูล วิเคราะห์การใช้พลังงาน และติดตามเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด