ด่วน! Google ประกาศลงทุนไทย ปลุกคลาวด์ เศรษฐกิจ AI - จ่อตั้ง ดาต้า เซ็นเตอร์
Google ประกาศแผน ลงทุนในไทย ปลุกคลาวด์ เศรษฐกิจ AI ยืนข้อตกลงความร่วมมือ '4 เสาหลัก' ระหว่าง Google และรัฐบาลไทยเน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล จ่อตั้ง ดาต้า เซ็นเตอร์ เร่งส่งเสริมใช้ AI ภาครัฐ พัฒนาทักษะอาชีพด้าน AI และด้านอื่นๆ ที่มีความต้องการสูง
การประชุมผู้นำความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) รัฐบาลไทย และ Google ประกาศความร่วมมือทางยุทธศาสตร์เพื่อเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทย และเร่งให้เกิดนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งสองฝ่ายจะทำงานร่วมกันเพื่อวางรากฐาน 4 เสาหลักที่จำเป็นต่อการส่งเสริมประเทศไทยให้เติบโตในเศรษฐกิจ AI ซึ่งได้แก่
- การต่อยอดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล
- การส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและปลอดภัยเพื่อยกระดับการให้บริการภาครัฐ
- การวางหลักเกี่ยวกับนโยบายการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-First Policies)
- การทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัลได้มากขึ้น
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการต่อยอดจากการลงทุนของ Google ตลอด 12 ปีที่ดำเนินการในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2565 ผลิตภัณฑ์และโครงการต่างๆ ของ Google สนับสนุนการจ้างงานในประเทศกว่า 250,000 ตำแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ภาคธุรกิจไทยกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ความร่วมมือกับ Google เป็นก้าวสำคัญเพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการปรับปรุงภาคส่วนต่างๆ ที่มีความสำคัญกับประชาชนชาวไทย ธุรกิจ และนักลงทุน ด้วยการลงทุนผ่านนโยบายการใช้งานระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-First Policies) พร้อมกับการสร้างไซเบอร์สเปซที่ปลอดภัย ความเชี่ยวชาญและการลงทุนจาก Google ในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล รวมถึงการวิจัยทางด้านการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ การพัฒนาทักษะทางดิจิทัล และการรักษาความปลอดภัยของแพลตฟอร์มในระดับโลกจะช่วยให้ประเทศไทยทะยานสู่การเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เพิ่มโอกาสสร้างงานที่มีมูลค่าสูง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน”
รายงานข่าวระบุว่า การลงทุนของกูเกิลในไทยครั้งนี้จะใช้เม็ดเงินกว่าแสนล้านบาท
รูธ โพรัท (Ruth Porat) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน ของ Alphabet และ Google กล่าวว่า
“การร่วมมือกับรัฐบาลในครั้งนี้มุ่งที่จะเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศไทย และเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ใช้ระบบคลาวด์เป็นหลักเพื่อตอกย้ำพันธกิจของ Google ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Leave no Thai Behind โดยเรามองเห็นศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีในการเป็นตัวขับเคลื่อนอันทรงพลังให้ธุรกิจและชุมชน
ภายใต้ความร่วมมือนี้ เราจะร่วมกันกับรัฐบาลเพื่อพัฒนาการให้บริการภาครัฐแก่ประชาชนและขยายการใช้งานเทคโนโลยี AI ด้วย Google Cloud และที่สำคัญ เราจะช่วยให้คนไทยได้มีส่วนร่วมในเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านการเสริมทักษะและการวางโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีนวัตกรรมเพื่อประชาชนและธุรกิจ ทั้งนี้ เราพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรในประเทศไทยเพื่อส่งมอบโอกาสที่สำคัญให้กับประชาชนชาวไทย”
เปิดแผน 4 เสาหลักลงทุนกูเกิลในไทย
เสาหลักที่ 1: การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย
Google กำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลใหม่ภายในประเทศเพื่อขับเคลื่อนบริการดิจิทัล
ก่อนหน้านี้ Google Cloud ได้ประกาศแผนก่อตั้ง Cloud Region แห่งแรกในประเทศไทย และด้วยการสนับสนุนของรัฐบาลไทย ในวันนี้ Google Cloud ยืนยันแผนก่อตั้ง Cloud Region ในประเทศไทยที่กรุงเทพฯ เมื่อ Cloud Region ในประเทศไทยเปิดให้บริการ จะทำให้เทคโนโลยีของ Google Cloud ใกล้ชิดกับองค์กรและหน่วยงานต่างๆ ในประเทศยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้บริการด้านดิจิทัลมีความเชื่อถือยิ่งขึ้น รองรับการขยายขอบเขตบริการได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีความเร็วสูงขึ้น
โดยคาดการณ์ว่าการก่อตั้ง Cloud Region ในประเทศไทยจะช่วยยกระดับผลิตภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า 4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ GDP ของประเทศ และสร้างงาน 50,300 ตำแหน่งในปี พ.ศ. 2573
เสาหลักที่ 2: การเร่งให้เกิดการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบในส่วนภาครัฐ และการสร้างไซเบอร์สเปซที่มั่นคง
รัฐบาล และ Google จะริเริ่มโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและใช้ AI อย่างกล้าหาญและมีความรับผิดชอบ ภายในกระทรวง หน่วยงานภาครัฐ และอุตสาหกรรมที่สำคัญต่างๆ
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และ Google Cloud จะร่วมกันศึกษาแนวทางการใช้งาน Generative AI (Gen AI) และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Google Cloud ในการใช้โซลูชันที่ขยายผลได้เพื่อผลประโยชน์ของภาครัฐ โดยจะให้ความสำคัญกับการให้บริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ๆ เทคโนโลยีด้านการเงิน รวมถึงการพัฒนาภาคสาธารณสุข การศึกษา และการขนส่งมวลชนเป็นอันดับแรก
เสาหลักที่ 3: การวางนโยบายการใช้คลาวด์เป็นหลักในประเทศไทย
Google Cloud จะสนับสนุนการพัฒนานโยบาย Go Cloud-first ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสำหรับประเทศไทย โดยจะให้ความช่วยเหลือด้านนโยบายและความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถส่งมอบโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่มีความยืดหยุ่น ประหยัดค่าใช้จ่าย และขับเคลื่อนโดยนวัตกรรมให้แก่ประเทศ
นโยบายนี้ตอกย้ำความพยายามของรัฐบาลในการให้ความสำคัญกับการใช้บริการคลาวด์ที่ดีที่สุดในการดำเนินการของรัฐบาลมากกว่าโซลูชันที่ใช้ทรัพยากรในสถานที่ตั้งของตนเองซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง โดยยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานการรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวระหว่างประเทศ นอกจากนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมยังจะร่วมมือกับ Google Cloud เพื่อระบุประเภทของข้อมูลที่อาจจำเป็นต้องจัดเก็บใน Google Distributed Cloud Hosted ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมของคลาวด์ที่เป็นส่วนตัวและมีมาตรการทางด้านความมั่นคงปลอดภัยที่ตัดขาดการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์แบบ (Fully air-gapped)
เสาหลักที่ 4: การทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงทักษะด้านดิจิทัลและระบบคลาวด์ได้มากขึ้น
โดยความร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) Google มอบทุนการศึกษาสำหรับใบรับรองทักษะอาชีพของ Google เพิ่มเติมจำนวน 12,000 ทุน ภายใต้โครงการ Samart Skills ที่ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ทำให้มียอดรวมทั้งสิ้น 34,000 ทุน เพื่อช่วยให้คนไทยได้พัฒนาทักษะพร้อมรับใบรับรองทักษะอาชีพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับงานระดับเริ่มต้นในสาขาที่มีความต้องการสูงอย่าง เช่น การรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ การวิเคราะห์ข้อมูล การสนับสนุนด้านไอที และอีคอมเมิร์ซและการตลาดดิจิทัล
Google Cloud ยังมอบหลักสูตร Introduction to Generative AI Path ให้แก่บุคคลทั่วไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านโครงการ Google Cloud Skills Program ซึ่งประกอบด้วยหลักสูตรออนไลน์ที่ทำให้ผู้เรียนเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Gen AI กับ AI ประเภทอื่น และการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ผู้เรียนที่สำเร็จหลักสูตรการเรียนรู้นี้จะได้รับป้ายรับรองแบบดิจิทัลซึ่งสามารถแสดงไว้ในเรซูเม่ของตนเองเพื่อแสดงถึงความเข้าใจขั้นพื้นฐานของ Gen AI