ปีหน้ามังกรผงาด! ตลาดสมาร์ทโฟนจะปังหรือพัง แบรนด์รองจะเอาตัวรอดอย่างไร?

ปีหน้ามังกรผงาด! ตลาดสมาร์ทโฟนจะปังหรือพัง แบรนด์รองจะเอาตัวรอดอย่างไร?

วิเคราะห์ตลาด ‘สมาร์ทโฟน’ ปีหน้า 2567 จากสายตาผู้บริหารตัวแทนจำหน่ายแบรนด์สมาร์ทโฟนรายใหญ่ ยักษ์ใหญ่จะยังอยู่หรือแบรนด์เล็กจะสู้ยิบตา

ตลอดปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟน อยู่ในภาวะนิ่งและเนือยพอสมควร สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย แม้จะมีกระแสของ สมาร์ทโฟน แบรนด์ดังอย่าง Apple กับ Samsung มาพยุงให้วงการนี้พอมีสีสันบ้าง แต่ภาพรวมกลับไม่ได้น่าชื่นชมนัก

KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที มีโอกาสพูดคุยกับ สมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ถึงภาพตลาดสมาร์ทโฟนปีหน้าว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และนอกจากแบรนด์ดังเจ้าตลาดทั้งสองราย ยังมีแบรนด์รองแบรนด์ใดอีกบ้างที่จะสร้างความตื่นเต้นให้แวดวงสมาร์ทโฟนได้

ไม่ตาย แต่ไม่โต

“ปีหน้าผมมองว่าตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมดจะยังไม่ได้เติบโต อาจจะเท่าเดิม หรือจะมีโอกาสลดลงนิดหน่อยด้วยซ้ำไป ขึ้นอยู่กับหลายเรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องตลาดอิ่มตัว ซึ่งมันอิ่มตัวไปแล้ว เพราะโทรศัพท์มือถือมันหลายปีแล้ว มีกันครบทุกคนแล้ว รวมทั้งมันอิ่มตัวด้วยการพัฒนาในช่วงต้นๆ พัฒนาเร็วมาก ในอดีตหลายคนจึงใช้มันไม่ครบอายุไขของมัน ถึงจะยังไม่เสียแต่พอรุ่นใหม่ดีกว่ารุ่นเดิมแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ก็คุ้มที่จะซื้อใหม่

แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว การพัฒนาสมาร์ทโฟนให้แปลกใหม่มันยากขึ้นแล้ว คนก็จะใช้โทรศัพท์นานขึ้น เดิมทีคนใช้สมาร์ทโฟนกันแค่ปีเศษๆ ก็เปลี่ยนแล้ว แต่ปัจจุบันใช้กันอย่างน้อยสามปีถึงจะมองหาเครื่องใหม่ หรือมากกว่าเดิมเท่าตัว”

นอกจากนี้ปัจจัยที่น่าวิตกมากคือกำลังซื้อของภาคครัวเรือน โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศระบุว่าประเทศไทยมีหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นทุกไตรมาส ในขณะที่ดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นอีก นั่นเท่ากับว่ารายจ่ายจะเพิ่มขึ้น ไม่สัมพันธ์กับรายรับที่มีเท่าเดิม

พฤติกรรมคน โอกาสของแบรนด์รอง

ถ้าสังเกตราคา "สมาร์ทโฟน" ช่วงปีที่ผ่านมา จะพบว่าทุกแบรนด์ทั้งใหญ่และเล็ก ล้วนเพิ่มราคาสินค้าของตัวเองขึ้นมา ซึ่งจะด้วยค่าเงินหรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ทว่าการเพิ่มราคาขึ้นนั้นสมชัยมองว่ามาพร้อมกับความคาดหวังของผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นด้วย

“มุมหนึ่ง เวลาคนจะเปลี่ยนโทรศัพท์ แน่นอนว่าก็อยากใช้เครื่องที่ดีขึ้น บางครั้งก็ต้องจ่ายแพงขึ้น แรกๆ อะไรก็ได้ พอใช้ได้ พอรอบที่สอง คุ้นเคยแล้วก็อยากขอเรื่องนั้นเรื่องนี้เพิ่ม เช่นกล้องที่ถ่ายภาพสวยขึ้น

สำหรับแบรนด์ Xiaomi ถึงจะเป็นราคาเดิมแต่ก็ได้ของดี อย่างเรื่องกล้อง เขามองเห็นว่าคนสนใจเรื่องนี้กันมากขึ้น ก็เพิ่มความละเอียดเข้าไปในกล้องสมาร์ทโฟนแม้แต่รุ่นเริ่มต้นอย่าง Redmi 13C ในราคาที่ถูกจนน่าทึ่ง”

แบรนด์ไหนปัง?

ไม่ต้องบอกก็คงพอเดาได้ว่ายอดพีระมิดแบรนด์ "สมาร์ทโฟน" คือใคร ในระดับโลกหนีไม่พ้น Apple กับ Samsung อย่างแน่นอน แต่อันดับรองลงมาถึงจะไม่มงแต่ก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ

"ปัจจุบันอันดับสามคือ Xiaomi ในระดับโกลบอล ผมคิดว่าปีหน้าสามอันดับแรกจะยังอยู่ แต่ก็แอบหวังว่าจะมีการสลับตำแหน่งนิดหน่อย เพราะ Xiaomi มีทิศทางที่เพิ่มขึ้น ถ้าในประเทศไทย ณ ตอนนี้จะอยู่อันดับที่ 5 รองจาก OPPO และ vivo ในแง่ของมูลค่าตลาด แต่ในปีหน้า Xiaomi มีแนวโน้มจะขยับอันดับขึ้นด้วยสินค้าที่มีมาทั้งหมด และการปรับปรุงคุณภาพสินค้าและราคา”

อีกปัจจัยที่จะเป็นไม้ตายของ Xiaomi ในปีหน้าคือมีโอกาสที่สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงท็อปสุดของค่ายจะเข้ามาขายในไทย หลังจากทำให้แฟนเสียวหมี่รอเก้อกันมาไม่รู้กี่รุ่นต่อรุ่น

“ที่ผ่านมาที่ยังไม่เข้ามา อย่างรุ่นที่ผมอยากได้ รุ่นที่พับได้ (Xiaomi Mix Fold 3) สาเหตุที่ Xiaomi ไม่เอาเข้ามาขายในไทยเพราะเขาต้องการให้สินค้านิ่งในจีนก่อน สมมติเขาดีไซน์อะไรผิดสักนิดหนึ่ง ในจีนเขาแก้ได้เร็ว เขาก็เลยบอกว่าเอาให้ชัวร์ก่อน ไม่อยากออกมาแบบที่ต้องเรียกคืน

หรืออย่างรุ่นท็อปสุดในซีรีส์หลักอย่าง Xiaomi 14 Ultra เราก็ฟีดแบ็คไปทางจีนว่าต้องเอาตัวท็อปเข้ามาด้วย แต่ก็ต้องรอฟังทางนั้นอีกที เพราะเท่าที่เราสังเกต ตระกูลแบบนี้รุ่นล่างๆ จะขายไม่ดี คนจะซื้อตัวท็อปไปเลย”