‘อะโดบี’ เปิด 4 ‘เทรนด์ครีเอทีฟ’ สะเทือนโลกคอนเทนต์ปี 67
อะโดบี (Adobe) เผยรายงานครีเอทีฟเทรนด์ “Adobe Creative Trends Report” ประจำปี 2567 คาดการณ์ครีเอทีฟวิชวลและธีมที่จะสร้างผลกระทบในปี 2567 กับ 4 เทรนด์การออกแบบที่จะนำทางดิจิทัลคอนเทนต์ และส่งผลต่อวงการถ่ายภาพ วิดีโอ สื่อโซเชียล บล็อก และอื่นๆ อีกมากมาย
เบรนดา มิลลิส หัวหน้าฝ่าย Consumer and Creative Insights อะโดบี เผยว่า โลกยุคปัจจุบันที่ถูกดิสรัปชัน และต้องการคอนเทนต์และความคิดสร้างสรรค์อย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคต่างหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อปลุกพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และไอเดียในรูปแบบใหม่ๆ
พบด้วยว่า ผู้บริโภคกำลังให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลในทุกๆ ด้านของชีวิต ที่น่าสนใจด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง “Generative AI” ทุกคนไม่ว่าจะมีทักษะมากน้อยเพียงใด ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ตรงกับสไตล์และรสนิยมของตัวเองได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้ไอเดียกลายเป็นจริงได้เพียงปลายนิ้ว 4 เทรนด์ครีเอทีฟในปี 2567
อะโดบีพบว่า ความปรารถนาของผู้บริโภคในการทดลอง เล่นสนุก และจินตนาการการปลุกพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์แบบใหม่ในรายงานครีเอทีฟเทรนด์ประจำปี 2567 ได้มีการผสมผสานโลก 2D และ 3D รวมถึงความนิยมภาพแฟนตาซีที่สร้างสรรค์ด้วย เอไอ และภาพถ่ายสวยงามที่เรียบง่ายแต่ทรงเสน่ห์ที่ชวนให้เกิดความอัศจรรย์ใจไว้ด้วยกัน
ขณะที่ ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ แลนสเคปด้านความคิดสร้างสรรค์ก็สะท้อนภาพโลกยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง เทรนด์ครีเอทีฟในปีนี้ บ่งบอกชัดเจนว่า ทั้งผู้สร้างสรรค์และผู้บริโภคต่างโหยหาวิชวลที่สร้างแรงบันดาลใจ สะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุดของจินตนาการ
สำหรับเทรนด์ที่น่าสนใจในปี 2567 ประกอบด้วย Calming Rhythms, Wonder and Joy, Dynamic Dimensions, และ The New Nostalgia
Calming Rhythms : ยุคที่ความเครียดและสุขภาพจิตจัดเป็นเรื่องที่โลกให้ความสำคัญ วิชวลที่ผ่อนคลายและชวนให้สงบ ได้รับความนิยมมากขึ้นจากแบรนด์และองค์กรต่างๆ โดยถูกนำไปใช้ในสถานที่ทำงาน ร้านค้า บรรยากาศกลางแจ้ง แพลตฟอร์มโซเชียล และแอปพลิเคชันทั่วโลก
ภาพเคลื่อนไหวแบบ Calming Rhythms มีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่พื้นหลังแบบเรียบง่าย ไปจนถึงรูปทรงที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ มักมาพร้อมกับเสียงและเพลงที่ฟังแล้วสบายใจ
เทรนด์นี้มักเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ ASMR ซึ่งมียอดวิวบน TikTok ถึง 912.6 พันล้านวิว ติด #asmr โดยทั่วไปจะเป็นภาพที่ผ่อนคลาย จับคู่กับเสียงต่างๆ ชวนให้รู้สึกสงบและผ่อนคลาย
ไม่ยึดติดกรอบเดิมๆ
Wonder and Joy : ผู้บริโภคกำลังหันไปหาภาพหรือวิชวลที่สร้างความรู้สึกประหลาดใจ ความสุข และความมหัศจรรย์ เพื่อเป็นกลไกในการรับมือกับสภาพเศรษฐกิจที่ท้าทายในปัจจุบัน
เทรนด์ “Wonder and Joy” ขยายไปสู่การสื่อสารและประสบการณ์ของแบรนด์ทุกประเภท ตั้งแต่ความสุขง่ายๆ ของการเป็น “ผู้ใหญ่ที่ยังคงหัวใจเด็ก” ไปจนถึงประสบการณ์ท่องเที่ยวหรูหรา และการสร้างสภาพแวดล้อมด้วย เอไอ
รายงาน Happiness Report ประจำปี 2565 เผยว่า 80% ของผู้คนให้ความสำคัญกับสุขภาพเพื่อทำให้ตนเองมีความสุข ขณะที่ 79% เน้นความสัมพันธ์ส่วนตัว และ 53% สนใจประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างความสุข
Dynamic Dimensions : ด้วยกระแสของมัลติเวิร์ส เกม VR และ AR ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น การผสมผสานทรัพยากรและไดเมนชั่นต่างๆ ทำให้โลกมีโมชั่น Dynamic Dimensions ได้รับแรงบันดาลใจจากการผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ และสร้างประสบการณ์วิชวลที่ทรงพลัง
โดยการผสาน 2D กับ 3D เข้าด้วยกันผ่านวิดีโอ เพลง และภาพประกอบ ตามรายงานครีเอทีฟเทรนด์ของอะโดบีในปี 2567 คนรุ่นใหม่จะมีมุมมองต่อความเปราะบางหรือความอ่อนไหวที่ค่อยๆ พัฒนาขึ้น โดยการแสดงออกทางอารมณ์และแสดงความคิดเห็นด้านสุขภาพจิตที่เป็นปกติทั้งออนไลน์และออฟไลน์
The New Nostalgia : ความโหยหารูปแบบใหม่ เริ่มต้นด้วยความหลงใหลในยุค 90s ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ ดีไซน์ และเทคโนโลยี โดยคนเกือบทุกยุคสมัยมีความทรงจำในยุคนั้นได้อย่างลึกซึ้ง มีมุมมองและการตีความของสไตล์วินเทจใหม่ด้วยความคิดสร้างสรรค์
โดยเฉพาะการใช้ภาพแนวไฮเปอร์เรียลลิสติกในอดีตด้วย เอไอ โดยเทรนด์ “The New Nostalgia” นี้จะผสมผสานความชื่นชอบสไตล์วินเทจของผู้บริโภคกับการตีความแบบร่วมสมัยอย่างมีรสนิยม
รายงานได้ระบุว่า 50% ของเจนแซดในสหรัฐ สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลียต้องการดิสคอนเน็คจากโทรศัพท์ พวกเขากำลังหันไปหาของเก่าๆ และงานอดิเรกในอดีต เช่น การถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิทัล ที่ทำให้พวกเขารู้สึกผูกพันกับโลกความจริงมากขึ้น