ชุดใหญ่! 'OPPO' ยกทัพเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครบทุกไลน์อัพสมาร์ตโฟนและ IoT
เปิดศักราชพร้อมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จาก "OPPO" ที่ไม่ได้มาแค่สมาร์ตโฟน แต่มาครบทุกไลน์อัพครอบคลุมผลิตภัณฑ์ "IoT" เป็นทางเลือกของคอ "Gadget" ได้เลือกช้อปกันในราคาโดนใจ แต่ให้สเปกมาเกินเบอร์
OPPO เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ไอทีที่ไม่หยุดเดินหน้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ บนพื้นฐานของเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้แฟนๆ ได้อัพเดตเทรนด์กันตลอดเวลา อย่างล่าสุด OPPO ได้ยกทัพผลิตภัณฑ์ทั้งสมาร์ตโฟนและ IoT มาแบบครบๆ จบในคราวเดียว
KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะพาไปรู้จักทุกผลิตภัณฑ์เปิดตัวใหม่ของ "OPPO" รับปีมังกรทอง
OPPO Reno11 Series 5G
สมาร์ตโฟนถ่ายคนอย่างโปรรุ่นใหม่ล่าสุด คือการยกระดับอีกขั้นของกล้องบนสมาร์ตโฟนไปสู่คุณภาพระดับกล้อง DSLR ทั้งด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ทำให้ได้ภาพสวยคมชัดอย่างโปร มาพร้อมฟีเจอร์ที่มอบประสบการณ์การทำงานที่ลื่นไหลและเสถียร ในดีไซน์โฉมใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวชายฝั่งทะเล เปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่นให้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์ ได้แก่ OPPO Reno11 5G, OPPO Reno11 Pro 5G และ OPPO Reno11 F 5G
"OPPO Reno11 5G" รุ่นกลางที่ถ่ายคนอย่างโปรได้ด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP พร้อมเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ½” Sony LYT600 และ OIS กันสั่น เสริมด้วยกล้องพอร์ตเทรตซูมได้ความละเอียด 32MP ภาพถ่ายคุณภาพสูงหน้าชัดหลังละลายอย่างเป็นธรรมชาติ และยังสามารถเปิดโหมดพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพ เพื่อตั้งค่ารูรับแสงเพื่อให้ได้เอฟเฟ็กต์โบ้เก้ แสงแฟลร์ และการแบ่งเลเยอร์ที่เทียบเท่าเลนส์ DSLR นอกจากนี้ออปโป้ยังได้พัฒนาระบบปรับแต่งภาพคนอย่างโปร Portrait Expert Engine ปรับแต่งแสงเงา ความคมชัด และ Skin Tone ได้อย่างสวยงามเป็นธรรมชาติ ในด้านดีไซน์ OPPO Reno11 5G ได้รับการออกแบบโค้ง 3D คู่ทั้งหน้าจอด้านหน้าและฝาหลัง ตัวเครื่องเพรียวบางเพียง 7.99 มม. และน้ำหนักเพียง 182 กรัม มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเขียวเหนี่ยวทรัพย์ (Wave Green) และสีเทาดำดูดทรัพย์ (Rock Grey) อัดแน่นด้วยฟีเจอร์เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลทั้ง LinkBoost และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับชาร์จไว 67W SUPERVOOC และหน่วยความจำ RAM 12GB + ROM
รุ่นท็อปสุดกับ "OPPO Reno11 Pro 5G" มาพร้อมเซนเซอร์ Sony IMX890 เสริมด้วย AI Portrait Retouching ที่ช่วยให้ปรับแต่งภาพเซลฟี่ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น ดวงตา เฉดสีลิป หรือโครงหน้าก็สามารถปรับให้สวยเป๊ะไม่ง้อแอปฯ เสริม มาในแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,600mAh รองรับการชาร์จไว 80W SUPERVOOC แบตเตอรี่เต็ม 100% ภายใน 28 นาที มาใน 2 สี ได้แก่ สีขาวไข่มุกจุกทรัพย์ (Pearl White) และสีเทาดำดูดทรัพย์ (Rock Grey) โดย OPPO Reno11 5G วางจำหน่ายราคา 14,990 บาท และ OPPO Reno11 Pro 5G วางจำหน่ายในราคา 19,990 บาท
และรุ่นเล็กสุดอย่าง "OPPO Reno11 F 5G" มาในดีไซน์ขอบเหลี่ยมบางเพียง 7.54 มม. และมีน้ำหนักเบาเพียง 178 กรัม ให้ความรู้สึกหรูหราและจับถือใช้งานได้เป็นเวลานานไม่เมื่อยมือ ฝาหลังตัวเครื่องได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติแนวชายฝั่งทะเล พร้อมความหมายสีมงคลเสริมดวงรับปีใหม่สำหรับสายมู
เริ่มจากสีไฮไลท์ สีฟ้าน้ำทะเลโดนเปย์ไม่อั้น (Ocean Blue), สีม่วงฉ่ำนำเทรนด์ (Purple Coral) และสีเขียวดำนำโชค (Palm Green) ให้สนุกทุกโมเมนต์บนหน้าจอใหญ่ขนาด 6.7” ด้วยอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz ลื่นไหล มีชีวิตชีวา ลุยทุกสถานการณ์ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP65 มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 64MP ให้ภาพสวยทุกระยะ หน้าชัดหลังละลาย และกล้องมุมกว้างพิเศษ 112 องศา ความละเอียด 8MP พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ Sony IMX355
นอกจากนี้ยังถ่ายวิดีโอคมชัดระดับ 4K 30fps ถูกใจสาย Vlog และวิดีโอสั้นแน่นอน เพิ่มลูกเล่นใหม่ Smart Image Matting ที่ไดคัทตัดต่อรูปภาพให้เป็นสติกเกอร์ได้อย่างรวดเร็วทันใจเพียงขั้นตอนเดียว ขจัดปัญหาสัญญาณไม่เสถียรเวลาอยู่ในลานจอดรถ ลิฟต์ รถไฟใต้ดิน หรือในฮอลล์คอนเสิร์ตด้วย LinkBoost เพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณเครือข่ายที่ออปโป้พัฒนาขึ้นเอง มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000mAh รองรับการชาร์จไว 67W SUPERVOOC พูดคุยได้เสียงดังฟังชัดกว่าเดิม 300% ด้วยโหมด Clear Voice และ Ultra Volume รวมถึงหน่วยความจำแบบจุใจ RAM 8GB + ROM 256GB อีกด้วย โดย OPPO Reno11 F 5G สนนราคาอยู่ที่ 11,990 บาท
OPPO Pad Neo
"OPPO Pad Neo" แท็บเล็ตที่เปิดประตูความบันเทิงให้จอยทุกความสนุกเหนือระดับด้วยหน้าจอแสดงผลถนอมสายตา 2.4K ขนาดใหญ่ถึง 11.4 นิ้วตัวแรกในอุตสาหกรรมให้ความละเอียดสูง ในขณะที่ปล่อยแสงสีฟ้าต่ำทำให้สามารถอ่านหรือรับชมเนื้อหาได้อย่างสบายตา แสดงผลภาพในอัตราส่วนภาพ 7:5ขนาดคล้ายกับหน้าจอ PC, กระดาษ A4 หรือหนังสือ ทำให้ใช้งานได้อย่างคุ้นเคย โดยไม่ต้องปรับขนาดเนื้อหาด้วยตนเองอีกต่อไป เมื่อดูในด้านดีไซน์ OPPO Pad Neo ให้ความรู้สึกเรียบหรูด้วยสีเทา (Space Grey) ตัวเครื่องเพรียวบาง โดยมีความบางเพียง 6.89 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 538กรัม ทำให้พกพาสะดวกตลอดวัน ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือดูหนังบน OPPO Pad Neo ก็เต็มอรรถรสจุใจด้วยลำโพงสเตอริโอ 4 ตัวมาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos® มอบประสบการณ์เสียงหลายมิติสมจริงรอบด้านและรองรับเสียง Hi-Res จอยไปกับความบันเทิงตลอดวันอย่างไร้กังวลด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8,000mAh รองรับการชาร์จไว 33W SUPERVOOC
"OPPO Pad Neo" ได้รับการพัฒนาการเชื่อมต่อที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ทำงานหลายอย่างพร้อมกันข้ามอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหลเหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันด้วยระบบ Auto Connect โดยเมื่อวาง OPPO Pad Neo ไว้ใกล้กับโทรศัพท์ที่รองรับและลงชื่อเข้าใช้บัญชี OPPO เดียวกัน อุปกรณ์ที่ใช้ Bluetooth ทั้งสองเครื่องจะเชื่อมต่อได้โดยอัตโนมัติ และเปิดชุดฟีเจอร์ข้ามอุปกรณ์ได้อย่างราบรื่น รวมถึงยังรองรับซิมการ์ดและไวไฟ และยังแชร์ไวไฟฮอตสปอตให้เครื่องอื่นได้ ในขณะที่กินพลังงานน้อยลงผ่าน Communication Sharing โดย OPPO Pad Neo มาในสีเทา (Space Grey) วางจำหน่ายในราคา 10,990 บาท
OPPO Enco Air3s
"OPPO Enco Air3s" หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดบรรจุอยู่ในเคสสีทอง Champagne Gold ที่หรูหรา เปล่งประกายเมื่อแสงตกกระทบจากมุมที่แตกต่างกัน เติมเต็มสไตล์ที่โดดเด่นเมื่อจับคู่กับสมาร์ตโฟน OPPO Reno11 series 5G รุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีฝาเคสที่เปิดได้ 110° หยิบหูฟังไร้สายออกจากเคสได้อย่างง่ายดาย และใช้แม่เหล็กยึดหูฟังไร้สายให้เข้าที่ได้อย่างแน่นหนาอีกด้วย ด้วยน้ำหนักเบาพิเศษเพียง 3.7 กรัมต่อหูฟังแต่ละข้างที่ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ช่วยให้ใส่หูฟังไร้สายได้อย่างพอดีกับทรงหูทุกแบบ ใส่สบายแม้ใช้งานเป็นเวลานาน เมื่อพูดถึงคุณภาพเสียง OPPO Enco Air3s คือหูฟังไร้สายคู่แรกในช่วงราคานี้ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม HiFi 5 DSP ที่ผสมผสานกับไดรเวอร์คอมโพสิตขนาดใหญ่ 13.4 มม. มอบคุณภาพเสียงทรงพลัง รับฟังดนตรีที่มีเสียงแม่นยำและมีระบบเสียงรอบทิศทางแบบเรียลไทม์ได้นานมากยิ่งขึ้น ทำงานร่วมกับระบบ OPPO Alive Audio มอบเสียงเซอร์ราวด์ 360° นำประสบการณ์ภาพและเสียงระดับโรงภาพยนตร์มาสู่อุปกรณ์ในมือได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ยังคุยโทรศัพท์ได้อย่างชัดเจนด้วยอัลกอริธึมตัดเสียงรบกวน DDN แยกเสียงออกจากเสียงพื้นหลังแบบเรียลไทม์ โดย OPPO Enco Air3s สามารถการเชื่อมต่อได้ง่าย ลื่นไหล และเสถียรด้วยการส่งสัญญาณ Bluetooth 5.3 และ Google Fast Pair รวมถึงใช้งานได้ยาวนาน 25 ชั่วโมงเมื่ออยู่ในเคสชาร์จ วางจำหน่ายในราคา 1,999 บาท
OPPO Enco Buds2
"OPPO Enco Buds2" หูฟังไร้สายตัวเล็กมาพร้อมเบสทรงพลังด้วย Titanized Driver ขนาดใหญ่ 10มม. มอบเบสที่คมชัด ลึกล้ำ และหนักแน่น ดื่มด่ำไปกับจังหวะดนตรีได้เต็มอรรถรสมากยิ่งขึ้น ใช้งานได้นานด้วยแบตเตอรี่ทนทาน ฟังเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานไร้สะดุดถึง 28 ชั่วโมง พร้อมตอบโจทย์ทุกการใช้งานในชีวิตประจำวันด้วยโหมด AI deep noise cancellation ที่ช่วยให้ได้ยินเสียงได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสียงรบกวน ได้รับการออกแบบหูฟังไร้สายตามหลักสรีรศาสตร์ช่วยให้เข้ารับกับหูได้อย่างพอดี และยังมีน้ำหนักเบาเพียง 4 กรัม สวมใส่สบายตลอดทั้งวัน มาในสีใหม่แกะกล่องสีฟ้า Lilac Blue ในราคาเพียง 999 บาท
การวางจำหน่าย
สำหรับผู้ที่สั่งซื้อ "OPPO Reno11 Series 5G" ล่วงหน้าระหว่างวันนี้ – 29 มกราคม 2567 รับฟรีทันทีของสมนาคุณรวมมูลค่าสูงสุด 12,797 บาท ประกอบไปด้วย
- E-VIP Card รับประกันหน้าจอแตก
- Reno Special Edition Backpack
- เปลี่ยนฟิล์มกันรอย 2 ครั้ง และ เปลี่ยนเคส 2 ครั้งได้ภายใน 2 ปี
และเป็นเจ้าของ OPPO Reno11 5G และ OPPO Reno11 Pro 5G ได้ง่ายขึ้นเมื่อซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่ายในราคาลดสูงสุด 7,100 บาท โดย OPPO Reno11 5G และ OPPO Reno11 Pro 5G จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมกันวันที่ 30 มกราคม และ OPPO Reno11 F 5G วางจำหน่ายวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
สำหรับโปรโมชันสำหรับลูกค้าที่สนใจผลิตภัณฑ์ IoT รุ่นใหม่ล่าสุด ดังนี้
- เมื่อซื้อ OPPO Pad Neo คู่กับสินค้า IoT รุ่นที่กำหนดไว้รับส่วนลดสูงสุด 500 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2567 (อุปกรณ์ IoT ที่ร่วมรายการ OPPO Band, OPPO Band 2, OPPO Enco Buds, OPPO Enco Air3, OPPO Enco Air3s, OPPO Enco Air3 Pro)
- เมื่อซื้อ OPPO Pad Neo รับฟรี OPPO Pad Neo Smart Case มูลค่า 799 ตั้งแต่วันนี้ - 29 กุมภาพันธ์ 2567
- เมื่อซื้อสมาร์ตโฟน OPPO คู่กับ OPPO Enco Air3s รับส่วนลด 500 บาท ตั้งแต่วันนี้ - 31 มีนาคม 2567
ทดลองผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่จาก OPPO ได้แล้ววันนี้ ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ