TADA แอปเรียกรถน้องใหม่ บุกตลาดไทยแบบ ‘ไม่คิดค่าคอมมิชชัน’

TADA แอปเรียกรถน้องใหม่ บุกตลาดไทยแบบ ‘ไม่คิดค่าคอมมิชชัน’

TADA (ทาดา) แอปพลิเคชันเรียกรถสาธารณะสัญชาติสิงคโปร์ เจาะตลาดประเทศไทยด้วยโมเดล ‘ไม่คิดค่าคอมมิชชัน’ เก็บแค่ค่าธรรมเนียม เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้

TADA (ทาดา) บริการเรียกรถสาธารณะที่ได้รับความนิยมลำดับต้นๆ ของสิงคโปร์ หลังขยายตลาดไปกัมพูชาและเวียดนาม ทาดาเปิดบริการในไทยเพิ่มอย่างเป็นทางการ ด้วยโมเดล “ไม่คิดค่าคอมมิชชัน” เก็บแค่ค่าธรรมเนียม ชูจุดเด่น ให้ความเป็นธรรมแก่คนขับและผู้ใช้บริการ 

ทั้งนี้ ยังทำความร่วมมือกับบริษัท Howa International ผู้ให้บริการรถแท็กซี่รายใหญ่ของไทย เพื่อยกระดับมาตรฐานของบริการสู่ระดับสากล โดยทาดามีคนขับในระบบที่พร้อมให้บริการแล้วถึง 15,000 ราย 

ฌอน คิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของทาดา กล่าวว่า ตลาดเรียกรถผ่านแอปนั้นมีคู่แข่งมากหน้าหลายตา ถึงแม้ว่าทาดาจะเข้ามาให้บริการในประเทศไทยช้า แต่ก็มาพร้อมจุดเด่นที่ไม่คิดค่าคอมมิชชัน 

อีกทั้งทาดายังเป็น 1 ใน 5 แพลตฟอร์มเรียกรถที่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานขนส่งทางบกของสิงคโปร์ (LTA) ซึ่งมีประสบการณ์การให้บริการแก่ผู้โดยสารมา 5 ปี และได้ดำเนินตามขั้นตอนของกรมการขนส่งทางบกของไทย ด้วยแนวทางที่ต้องการให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน ทั้งคนขับ ตลอดจนผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน 

“ถึงแม้ว่าจะไม่เก็บค่าคอมมิชชัน แต่ทาดาสามารถทาดาใช้ระยะเวลา 4-5 ปี ในการสร้างกำไรในสิงคโปร์ ทำให้เบื้องต้นคาดว่าจะใช้ระยะเวลา 3-4 ปี ในไทยเพื่อที่จะทำกำไรได้ พร้อมกับสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทย”

นอกจากนี้ ทาดาตั้งเป้าที่จะเพิ่มบริการจำนวนผู้ใช้งานมากขึ้นด้วยความร่วมมือจากกลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่ โดยเป้าหมายต่อไปคือ การเปิดบริการเรียกรถจักรยายนต์สาธารณะ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ปี 2567 นี้ และขยายพื้นที่ให้บริการจากกรุงเทพไปยังปริมณฑล นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ ก่อนเพิ่มบริการทั่วทั้งประเทศ

“การประสบความสำเร็จในสิงคโปร์ทำให้เราอยากเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเรียกรถในไทยให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีความเท่าเทียมเช่นเดียวกัน โดยการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้บริการผู้โดยสาร ไม่ใช่แสวงหาผลกำไรอย่างเดียว คนขับของทาดาคือพาร์ทเนอร์ของเรา”