‘เมทเธียร์’ สยายปีกปิดดีล 7 กลุ่มธุรกิจ ควง ‘โปร อินไซด์’ ท้าชิงงานประมูลรัฐ
เมทเธียร์ ลุยปิดดีลงาน 7 กลุ่มธุรกิจ พร้อมดัน ‘โปร อินไซด์’ บริษัทลูกในสกาย ไอซีที ผงาดชิงเค้กงานดิจิทัลของภาครัฐ รองรับการเติบโตในอนาคต และพร้อมนำระบบไอทียกระดับประเทศไทยจ่อเข้าเทรดตลาด mai ภายไตรมาส 3 ปีนี้
นายขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด ในเครือบริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจการให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Facility Management) ในไทย คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 8-10% ในปีนี้ จากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจหลังโควิด-19 แต่เนื่องจากผู้ให้บริการส่วนมากในตลาดยังให้บริการโดยเน้นรปภ. และแม่บ้านแบบเดิม ขณะที่ความต้องการ Smart Facility Management เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ผู้ให้บริการยังน้อยราย ส่งผลให้ธุรกิจของ เมทเธียร์ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
บริษัทจึงปรับเป้ารายได้ปี 2567 จาก 1,500 ล้านบาท ซึ่งจะโต 15% จาก 1,300 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 1,800 ล้านบาท โตกว่า 30%
หลังจากบริษัทได้รุกทำการตลาดอย่างหนักตั้งแต่เปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการเมื่อปลายปีที่แล้วและได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
เขา เสริมว่า ปี 2567 นี้จะเป็นปีแรกที่เมทเธียร์ จะรับรู้รายได้เต็มปี โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% จากรายได้รวมปีที่แล้ว จากฐานลูกค้าเดิมของ SAMCO ที่ทำธุรกิจรถขนเงิน นอกจากนี้ บริษัทเดินหน้าเข้ารับงานโครงการใน 7 กลุ่ม ได้แก่ 1.Mixed-Use 2.ช้อปปิ้ง มอลล์ 3.โรงพยาบาล 4.การศึกษา 5.ไฟแนนซ์ 6.โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า และ 7.ภาครัฐ หลังจากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสามารถคว้างาน 5 โรงพยาบาล ในเครือ รพ.รามคำแหง
พร้อมกันนี้ นางสาวเบญญาภา เฉลิมวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปร อินไซด์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIS เปิดเผยว่า บริษัทเป็นบริษัทย่อยของสกาย ไอซีที ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 91.40% โดยบริษัทเดินหน้าระดมทุน รองรับการเติบโตในอนาคต และพร้อมนำระบบไอซีทียกระดับประเทศไทย
โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ได้ภายในไตรมาส 3/2567 หลังจากเมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2567 บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยเสนอขายหุ้นไม่เกิน 140,000,000 หุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.50 บาท โดยมี บริษัท สยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
“บริษัทมีความแตกต่างจาก บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ทีเคซี และ บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอที โดยบริษัทเป็นไอทีที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มมากที่สุด และใกล้กับ End User ซึ่งบริษัทได้ยื่นไฟลิ่งไปเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2567 หลังจากนั้นปกติใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ก.ล.ต. จะอนุมัติแบบไฟลิ่ง และคาดว่าน่าจะเข้าเทรดได้ทันในไตรมาส 3/2567” นางสาวเบญญาภา กล่าว
สำหรับโปร อินไซด์ ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษา วางแผน ออกแบบพัฒนา และติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยทางภายภาพและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (ICT-Solutions) รวมถึงการบำรุงรักษาอุปกรณ์และระบบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของสกาย ไอซีทีถือหุ้นในสัดส่วน 91.40% หลังจากเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 67.70%
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินหลักค้ำประกันกับสถาบันการเงินเพื่อใช้ในการขอออกหนังสือค้ำประกัน (Letter of Guarantee: LG) ให้กับงานโครงการ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในงานโครงการแก่ลูกค้าหน่วยงานภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจ
ทางด้านผลการดำเนินงานในปี 2564-2566 บริษัทมีรายได้รวม 674.61 ล้านบาท 642.61 ล้านบาท และ 1,075.18 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 87.52 ล้านบาท 18.68 ล้านบาท และ 104.03 ล้านบาท ตามลำดับ
บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินของบริษัทภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของบริษัท