ไม่ใช่บัญชีม้า! แต่ 'ชื่อบัญชีไม่ตรงซิม' ต้องทำอย่างไร เปิดวิธียืนยันตัวตน

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2567 เป็นต้นไปสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม หรือ สำนักงาน กสทช. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สถาบันทางการเงินธนาคารพาณิชย์ทั้ง 21 แห่ง ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเริ่มทำการตรวจคัดกรอง ผู้ถือครองซิมการ์ดและผู้เปิดบัญชี ธนาคารเพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ หรือ โมบายแบงก์กิ้ง) เพื่อสกัดกั้นการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ที่ผิดกฎหมายด้วยการรับจ้างเปิด "ซิมผี-บัญชีม้า"

โดยล่าสุดวันนี้ (28 พ.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี กล่าวว่า จากกรณีที่ประชาชนมีความกังวล และเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องมาตรการตรวจสอบซิมการ์ดที่ผูกกับโมบายแบงก์กิ้งนั้น เพื่อป้องกันความสับสนและมีความเข้าใจในมาตรการดังกล่าว กระทรวงดีอีและหน่วยงานพันธมิตรขอชี้แจงว่า การดำเนินการตรวจสอบโมบายแบงก์กิ้งนั้น เป็นไปตามมาตรการกวาดล้างซิมม้า และบัญชีม้า เพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์

โดยจะมีการดำเนินการดังต่อไปนี้

1.ดำเนินการกวาดล้างซิมม้าต้องสงสัย ที่มีการแจ้งความผ่าน AOC 1441 แล้ว โดยการปิดกั้นซิมโทรศัพท์มือถือที่เข้าข่ายการกระทำความผิด เดือนละ 15,000 ซิม หรือสัปดาห์ละ 4,000 ซิม

2. การตรวจสอบรายชื่อลงทะเบียนใช้งานหมายเลขโทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีธนาคาร Mobile Banking จำนวน 106 ล้านหมายเลข โดยเริ่มกระบวนการตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 และจะใช้เวลาตรวจสอบ 120 วัน คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ตุลาคม 2567 

โดยหากพบว่ารายชื่อไม่ตรงกับโมบายแบงก์กิ้ง สามารถแสดงหลักฐานเพื่อยืนยันตัวตนผ่านศูนย์บริการของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่

ทั้งนี้ ยกเว้นกลุ่มประชาชน ใน 4 กลุ่มได้แก่ (1) บุคคลในครอบครัว (2) ผู้อนุบาลตามคำสั่งศาล (3) นิติบุคคล (4) และอื่นๆ ที่ธนาคารเห็นว่ามีเหตุอันควรในการใช้ชื่อไม่ตรงกันกับบัญชี

ซึ่งกลุ่มนี้ธนาคารจะมีการแจ้งเตือนการยืนยันตัวตนผ่านระบบโมบายแบงก์กิ้งของแต่ละบัญชีเท่านั้น โดยไม่มีการแจ้งเตือนผ่านการส่งข้อความ SMS ปกติ

3. การกำหนดมาตรการและเงื่อนไขการเปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันการนำไปกระทำความผิดโดยเพิ่มกระบวนการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง Customer Due Diligence หรือ CDD โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง ธนาคารต้องตรวจสอบให้เคร่งครัดมากขึ้นก่อนอนุมัติเปิดบัญชี โดยทาง ธปท.จะมีการออกประกาศภายในเดือนมิถุนายน 2567 ซึ่งปัจจุบันบางธนาคารได้มีการดำเนินการแล้ว

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการ กสทช.ด้านกฎหมายและประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯกล่าวว่า ผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้าและรับจ้างเปิดซิมการ์ดที่ไม่ตรงกับชื่อและเลขบัตรประจำตัวประชาชนจะมีความผิดตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มาตรา 9 คือ เปิดบัญชีหรือให้ผู้อื่นยืมใช้บัญชีของตนที่เปิดไว้ โดยที่รู้หรือพึงรู้ได้ว่าเขาจะไปใช้ในการกระทําความผิด มีโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปีปรับไม่เกิน 300,000 บาท 

โดยขบวนการเหล่านี้ทำเป็นกระบวนการหลังบ้าน ดังนั้น กสทช.และโอเปอเรเตอร์ ต้องรีบดำเนินการ เพราะมีเลขหมายโทรศัพท์ราว 120 ล้านเลขหมาย ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้ แต่ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเสร็จสิ้นหรือไม่ ดังนั้น เราต้องรีบนับหนึ่ง เพื่อให้มาตรการนี้ส่งผลออกมาเป็นรูปธรรมโดยเร็ว หลังจากนั้น เป็นเรื่องของธนาคารที่ต้องใช้ดุลพินิจว่า จะแจ้งใครให้มาเปลี่ยน หรือต้องระงับการใช้งานเลขหมายโทรศัพท์ของใคร ซึ่งเบื้องต้นเป็นเรื่องที่ ปปง.และธนาคารพาณิชย์ที่มีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควบคุมอยู่ ต้องหารือกัน ว่าจะออกกฎเกณฑ์ให้ปฏิบัติอย่างไรได้บ้าง ซึ่งยังระงับไม่ในทันที เพราะการระงับการใช้งานแต่ละเลขหมาย มีขั้นตอนตามกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ

ทั้งนี้ ปัจจุบันสำนักงาน กสทช.ได้จัดสรรเลขหมายโทรศัพท์มือถือมีรวม 120 ล้านเบอร์ แบ่งเป็นบุคคลธรรมดาและต่างชาติ  93.6 ล้านเบอร์ นิติบุคคล/อุปกรณ์ไอที และไอโอทีจำนวน 26.4 ล้านเบอร์มีผู้เปิดบัญชีธนาคารวม 130 ล้านบัญชี เปิดบริการ Moblie Banking 106 ล้านบัญชี มีชื่อลงทะเบียนซิมกับบัญชีธนาคารไม่ตรงกัน 30 ล้านบัญชี

แนะนำให้ประชาชนตรวจสอบเบอร์โมบายแบงก์กิ้งที่ผูกกับบัญชีธนาคาร ต้องเป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อสกัดกั้นซิมผีบัญชีม้าในระบบการโอนเงินออนไลน์แนะนำประชาชน กด *179*เลขบัตรประชาชน# โทรออก 

✅สำหรับคนที่ชื่อตรง ไม่ต้องดำเนินการอะไร ใช้โมบายแบงก์ได้ตามปกติ 

❌ ส่วนผู้ที่ “ ชื่อบัญชีไม่ตรงซิม” ทางธนาคารจะยังไม่ระงับบัญชีในทันที แต่เจ้าของบัญชีจำเป็นจะต้องไปยืนยันตัวตนกับธนาคารหรือผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือหรือหากมีกรณียกเว้นก็จะเป็นการใช้ดุลยพินิจพิจารณากรณีไปเช่นเปิดบัญชี ให้กับบิดามารดาผู้สูงอายุหรือบุตรหลาน 

◾️อย่างไรก็ตาม หากยังไม่ดำเนินการให้มีชื่อตรงกับบัญชี จะทำการแจ้งเตือน ผ่านข้อความภายในโมบายแบงก์กิ้ง คล้ายๆ ข้อความแจ้งเตือนเวลามีเงินเข้าออกบัญชี  ซึ่งจะไม่แจ้งผ่าน SMS อย่างแน่นอน เพื่อป้องกันแก็งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้าง  

🔺แต่หากเจ้าของบัญชีไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงให้ตรงไม่มาแจ้งความจำเป็นต่อผู้ให้บริการ อาจพิจารณาระงับการใช้งานธนาคารออนไลน์ต่อไป 

✔️ สำหรับกรณีขอเปิดใช้โมบายแบงก์กิ้งรายใหม่ ธนาคารต้องตรวจสอบชื่อเจ้าของบัญชีและเจ้าของเบอร์ต้องเป็นบุคคลคนเดียวกันเท่านั้น