รีวิว ‘Sony ULT WEAR’ หูฟังเทพราคาไม่ถึง 7 พัน เบสหนัก ฟีเจอร์เสียงจัดเต็ม

ในงบไม่เกิน 7,000 บาท หูฟังของ Sony รุ่น Sony ULT WEAR (WH-ULT900N) เป็นหูฟังที่ทำให้ KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที ประทับใจมาก ทั้งรูปร่างหน้าตาและประสิทธิภาพที่ไม่ธรรมดา จนอาจพูดได้ว่าถ้าไม่รู้ราคาก็คิดว่านี่คือหูฟังราคาหลักหมื่นอย่างแน่นอน

หลังจากที่ KT Review ได้ใช้งานจริงหูฟัง Sony ULT WEAR และนี่คือสิ่งที่เราอยากเล่าถึงความน่าสนใจของหูฟังรุ่นนี้

เสียงเบสคือ The Best

เราได้ยินกิตติศัพท์ของ "Sony ULT WEAR" ในเรื่องเสียงเบสมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะโดดเด่นและทรงพลังถึงเพียงนี้ เพราะถึงแม้จะไม่ได้ปรับแต่ง Equalizer ใดๆ แต่ เป็น Default Setting ก็ยังให้เสียงที่ไพเราะ มีเบสที่หนักแน่นมาอยู่แล้ว และถ้าสังเกตที่หูฟังข้างซ้ายจะมีปุ่ม ULT นี่คืออาวุธลับของหูฟัง ULT WEAR  ที่มีไว้กดเพื่อบูสต์เสียงเบสให้ทรงพลังขึ้นอีก เป็นเสียงที่ถูกต้อง มีคุณภาพสูง ขับเคลื่อนด้วยไดรฟ์เวอร์ยูนิต 40 มม. และชิป Processor V1 ซึ่งปุ่ม ULT จะแบ่งเป็นสองโหมดด้วยกันคือ ULT 1 สำหรับเสียงเบสทุ้ม ย่านความถี่ต่ำ หรือ ULT 2 สำหรับเสียงเบสทรงพลัง หนักแน่น

นอกจากนี้ในแอป Headphones ที่เราต้องใช้งานร่วมกับหูฟังอันนี้ มีฟีเจอร์ Equalizer ให้เราปรับแต่งเสียงได้ตามต้องการทั้งแบบ Manual, Custom หรือจะเป็น Preset ที่มีให้มาแบบสำเร็จรูป ได้แก่ Bright, Excited, Mellow, Relaxed, Vocal, Treble Boost, Bass Boost และ Speech ซึ่งจะเหมาะกับเพลงแต่ละแนวหรือการฟังคอนเทนต์ที่แตกต่างกันไป

ตัวตึงเรื่องฟีเจอร์ด้านเสียง

ถึงเสียงเบสจะเป็นพระเอกของ "Sony ULT WEAR" แต่ที่เราอึ้งมากคือการที่ Sony ใส่สารพัดฟีเจอร์ที่จะทำให้การฟังเสียงมีคุณภาพมากที่สุด ตั้งแต่ในกระบวนการตั้งค่าแอป Headphones แล้วที่มีเทคโนโลยี 360 Reality Audio Setup ให้ใช้ โดยที่เราจะต้องถ่ายรูปหูเพื่อวิเคราะห์รูปทรงของหู ทำให้การฟังเพลงผ่านหูฟังอันนี้ได้ประสิทธิภาพเต็มร้อย

ส่วนฟีเจอร์ที่มาคู่กับหูฟังยุคใหม่แทบจะทุกรุ่นแล้วอย่างฟีเจอร์ Noise Canceling กับ Ambient Sound ต้องยอมรับว่านี่คืออีกเรื่องที่เราตกหลุมรักหูฟัง UTL WEAR จนต้องขอแยกเล่าทีละฟีเจอร์

เริ่มต้นกันที่ฟีเจอร์ Noise Canceling ในหูฟังรุ่นนี้คือเต็มระบบมากๆ เมื่อเปิดโหมดนี้คุณจะได้อยู่อีกโลกหนึ่ง เสมือนโลกนี้มีเพียงคุณกับเสียงดนตรี (หรือคอนเทนต์) ที่กำลังดื่มด่ำอยู่ ซึ่งความสามารถด้านการตัดเสียงรบกวนที่สุดยอดนี้ส่วนหนึ่งมาจากการซีลเสียงของตัวหูฟังที่ดีมาก เมื่อครอบหูแล้วจะไม่มีช่องว่างให้เสียงเล็ดลอดเข้ามา และเมื่อบวกกับเทคโนโลยี Dual Noise Sensor ผสานกับชิป Processor V1 จึงตัดเสียงรบกวนได้แบบไร้ที่ติ

ส่วนฟีเจอร์ Ambient Sound อาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้าม และคิดว่ามีไว้แค่เพื่อฟังเสียงรอบข้างในบางขณะก่อนจะกลับไปใช้ Noise Cancelling ต่อ ซึ่งกับหูฟัง Sony ULT WEAR เรากลับพบว่าในฟีเจอร์ Ambient Sound ค่อนข้างใช้งานได้ดีมากและเราใช้บ่อยมากไม่แพ้กับการตัดเสียงรบกวนเลยทีเดียว

ที่บอกแบบนี้เพราะนอกจากความจำเป็นจะต้องเปิด Ambient Sound เพื่อได้ยินเสียงรอบข้าง ไม่ว่าจะตอนเดินอยู่ริมถนน หรือตอนกำลังอยู่ในที่สาธารณะเพื่อความปลอดภัย เราพบว่าแม้จะเปิดรับเสียง Ambient ทว่าเสียงเพลงหรือคอนเทนต์ที่กำลังฟังอยู่ยังมีคุณภาพดีมากอยู่ ซึ่งจะแตกต่างกับหูฟังบางรุ่นที่เมื่อเปิด Ambient Mode แล้วจะได้ยินเสียงลม เสียงรอบข้างดัง จนรบกวนสิ่งที่กำลังฟังอยู่ นี่จึงทำให้เราต้องชื่นชมเทคโนโลยีที่ Sony พัฒนาขึ้นจนทำให้บาลานซ์เสียงเพลงกับเสียงรอบข้างได้อย่างยอดเยี่ยม

ดีไซน์เรียบหรู สวมใส่สบาย

ถึงคุณภาพเสียงจะเลิศแค่ไหน แต่สิ่งที่จะทำให้เรามีความสุขอยู่กับการฟังเพลงหรือเสพคอนเทนต์ได้ต่อเนื่องนานๆ คือ การดีไซน์ให้เหมาะแก่การใช้งานจริง แน่นอนว่า "Sony ULT WEAR" ได้รับการออกแบบให้มีทั้งความสวยงามและความสบาย

ในแง่ความสวยงาม นี่เป็นหูฟังแบบครอบหูที่เรียบหรู ดูดี ถึงจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ความเรียบง่ายนี้กลับทำให้ใช้งานได้ในทุกโอกาส และเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย

เรื่องความสบาย "ULT WEAR" ออกแบบมาให้สวมใส่สบายมากๆ ตั้งแต่วัสดุของส่วนที่สัมผัสกับร่างกาย ไม่ว่าจะ Ear Cup ที่บุมาหนานุ่มกำลังดี ผิวสัมผัสอ่อนละมุนปานกลาง พอเหมาะกับการสวมใส่ หรือบริเวณ Head Band ก้านที่ครอบบนศีรษะก็ตาม มีการบุมาแบบเดียวกับบริเวณ Ear Cup

ส่วนองศาของหูฟังก็ออกแบบมาได้ดี มีมุมที่เอียงรับกับสรีระ ได้ทั้งเรื่องการได้ยินเต็มร้อย และความรู้สึกสบาย ไม่บีบรัดมากเกินไป และยังมีการปรับความยาวของก้านหูฟังที่ยืดหยุ่น โดยจุดที่ขยับปรับความยาวก็อยู่ในตำแหน่งค่อนไปด้านบนศีรษะที่เราไม่ต้องจับตัวหูฟังโดยตรง ข้อดีคือจะไม่มีอาการ “มือลั่น” ไปถูกปุ่มต่างๆ บนตัวหูฟัง

ซึ่งบริเวณตัวหูฟังข้างขวาจะเป็นจุดที่ใช้สั่งการต่างๆ ได้ด้วยระบบสัมผัส ไม่ว่าจะ เล่น-หยุด, เพิ่ม-ลดเสียง หรือเลื่อนไปด้านซ้ายหรือขวาเพื่อเปลี่ยนเพลง

ข้อสังเกต

ถึงแบตเตอรี่ของ "Sony ULT WEAR" จะใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่ามาก และน่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว แต่ในหูฟังระดับราคาเดียวกัน มีหลายรุ่นที่ให้แบตเตอรีมากกว่า ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งประเด็นนี้ไม่ใช่ข้อเสียของ ULT WEAR แต่อย่างใด เพียงแค่เป็นข้อสังเกตหนึ่งที่ถ้า Sony ให้แบตเตอรี่จุใจกว่านี้แทบจะเป็นหนึ่งในหูฟังแบบครอบหูที่ค่อนข้างเพอร์เฟกต์ได้เลย

ราคาและการวางจำหน่าย

หูฟัง Sony ULT WEAR (WH-ULT900N) ราคา 6,990 บาท

มีให้เลือก 3 สีคือ สีดำ สีขาวออฟไวท์ และสีเทา (forest gray)

วางจำหน่ายที่โชว์รูมโซนี่ สโตร์ ทุกสาขา, ร้าน โซนี่ เซ็นเตอร์, ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย หรือคลิก ที่นี่