ก้าวที่กล้า
จากประสบการณ์ทำงานหลายสิบปีทำให้ผมมองเห็น คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นมักจะมีอุปนิสัยบางประการที่คล้ายกันโดยเฉพาะเรื่องของ การจดบันทึกเรื่องราวต่าง
ทั้งในด้านการนัดหมาย หรือเตือนความทรงจำ ไปจนถึงจดเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มาใหม่
ส่วนตัวผมเองก็มักจดบันทึก 3 เรื่องหลักๆ นั่นคือ Achievement หรือสิ่งที่ทำสำเร็จในแต่ละวัน กับ Appreciation ที่หมายถึงความประทับใจที่ได้รับจากผู้คนรอบข้าง กับจดบันทึกเรื่องราวใหม่ๆ ที่ได้เรียนรู้ และสรุปเป็นเป้าหมายและสิ่งที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้น
การจดบันทึกนั้นจะช่วยเราเป็นอย่างมากในแง่การพัฒนาตัวเอง เพราะการที่เรารับรู้ว่าตัวเองมีความสามารถอะไร ทำให้เราสร้างความพึงพอใจและความภูมิใจในตัวเอง เป็นแรงผลักดันให้เรามีพลังเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ และกำหนดเป็นเป้าหมายเพื่อพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ยิ่งได้บันทึกเป็นประจำวัน ก็ยิ่งทำให้ได้ทบทวนและวางแผนให้ตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง เพราะความสำเร็จของแต่ละคนไม่ได้มาเพียงชั่วช้ามคืน แต่ล้วนเกิดจากการบ่มเพาะแนวคิดที่ดีเพื่อสร้างเป็นอุปนิสัยและสะสมความสำเร็จจากก้าวเล็กๆ จนกลายเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ได้ในภายหลัง
หลายคนอาจไม่ให้ความสำคัญกับการจดบันทึกเพราะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ผมจึงอยากชี้ให้เห็นว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้หากนำมาสะสมจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จนกลายเป็นประสบการณ์หลายสิบปี นั่นอาจเป็นความสำเร็จของเราได้ในท้ายที่สุด
เพราะความเป็นมนุษย์ของเรานั้นต้องพึ่งพาการใช้สมองทุกขณะ ทำให้เราเปิดรับสิ่งไม่ดีต่างๆ จากสภาพแวดล้อมซึมซับเข้ามาในสมองได้ง่าย ๆ ตลอดเวลา กลายเป็นความวิตกกังวล ความเครียด ความกดดัน ก่อให้เกิดเป็นภาวะซึมเศร้าได้หากไม่มีการจัดการแก้ไข
หากเรายังใช้ชีวิตอยู่ในอดีตเช่นยุคก่อนสังคมเกษตรกรรมมนุษย์ดำรงชีพอยู่ด้วยการล่าสัตว์ ความเครียดในการใช้ชีวิตจึงไม่เหมือนกับวิถีชีวิตของคนปัจจุบันเพราะมนุษย์ในยุคนั้นต้องคอยห่วงเรื่อง หาอาหาร และต้องตื่นตัวตลอดเวลาเพราะระแวดระวังไม่ให้สัตว์ป่ามาทำร้าย
ความเครียดหรือความวิตกกังวลในวันนี้มักจะเป็นเรื่องของความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทำให้เราไม่มีความสุขเท่าที่ควรจะเป็น การจดบันทึกเรื่องต่าง ๆ จึงเป็นการลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น โดยอาศัยสิ่งที่ตัวเองสังเกตเห็นในแต่ละวันกำหนดเป็นเป้าหมายและขั้นตอนในการเดินทางต่อ
ย้อนกลับมาขยายความกันที่ข้อแรกที่ควรทำในการจดบันทึกนั่นคือ Achievement ซึ่งก็คือความสำเร็จที่เราได้รับในแต่ละวัน เพราะการเติบโตสู่เป้าหมายไม่มีใครสามารถทำได้ในวันเดียว เช่นเดียวกับภาษิตจีนโบราณที่กล่าวไว้ว่า “หนทางหมื่นลี้เริ่มต้นได้ด้วยก้าวแรก”
ความสำเร็จในแต่ละวันแม้จะเป็นความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ จึงเป็นเป้าหมายที่เราควรบันทึกเอาไว้ เพื่อให้เราได้เห็นว่าเรามีพัฒนาการมาแค่ไหน เราเติบโตได้อย่างไร แม้บางเรื่องอาจดูเป็นไปได้ยาก เช่นต้องอ่านหนังสือเล่มโต ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไรจะอ่านหมด
แต่หากเราจัดสรรเวลาเพียง 15 นาทีต่อวัน กำหนดให้อ่านหนังสือเล่มนี้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องกดดันตัวเองว่าจะอ่านได้กี่หน้า เพียงแค่นี้ก็จะพบว่าใช้เวลาไม่นานเราก็สามารถอ่านจบได้แล้ว ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเป้าหมายในชีวิตที่เรากำหนดและตั้งใจไปให้ถึงได้หากลงมือทำอย่างจริงจัง
ก้าวแรกนั้นอาจยากเสมอ แต่เมื่อได้ก้าวแล้วเราจะค่อยๆ ภูมิใจกับความสำเร็จจากก้าวแรก ก้าวที่สอง ที่สาม สี่ และห้า จนกลายเป็นความเชื่อมั่นให้เราไปถึงเป้าหมายใหญ่ได้ในที่สุด
...ติดตามต่อในสัปดาห์หน้าครับ