‘อินแกรม’ ผนึก 2 บิ๊กเทคคอมพานี บูมตลาด Generative AI ในประเทศไทย

‘อินแกรม’ ผนึก 2 บิ๊กเทคคอมพานี บูมตลาด Generative AI ในประเทศไทย

“อินแกรม ไมโคร” ผนึกความร่วมมือ 2 พันธมิตรชั้นนำระดับโลก “เอซุส” และ “NVIDIA” บูมตลาด Generative AI มุ่งผลักดันองค์ธุรกิจ ภาครัฐ เปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล พร้อมสร้างยูสเคสช่วยยกระดับการแข่งขัน รับเทรนด์การเติบโต AI ในประเทศไทย

พรเทพ วัชรอำนวย กรรมการบริหาร บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจัดจำหน่าย ไอที โซลูชัน ครบวงจร เปิดมุมมองว่า วันนี้แต่ละอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงของการทรานส์ฟอร์มสู่ AI

ปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรม ซึ่ง Generative AI จะเข้ามายกระดับประสิทธิภาพในการทำงานที่มีดาต้าจำนวนมาก และยังช่วยลดเวลาในการประมวลผลให้รวดเร็ว ประสิทธิภาพสูง ซึ่งองค์กรธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกของดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน

“เอไอกำลังเข้ามาเปลี่ยนโลก ปรับโฉมสถาปัตยกรรมไอทีทั้งหมด โดยเฉพาะด้านความเร็วและการใช้ดาต้าต่างๆ แต่ทั้งนี้องค์กรต่างมีความท้าทาย เนื่องจากการประยุกต์ใช้ AI มีความซับซ้อนขององค์ประกอบที่เกี่ยวข้องและความสามารถในการกำกับดูแล”

ลุ้นดีมานด์ไอทีครึ่งปีหลัง

ผลสำรวจระบุว่า องค์กร 71.8% ในไทยมีศักยภาพที่จะปรับใช้เทคโนโลยี AI ทว่าตัวเลของค์กรที่มีการปรับใช้แล้วมีเพียง 15.2%, อยู่ระหว่างการพิจารณามากถึง 56.6% และที่ยังไม่ขยับตัว 28.2%

อย่างไรก็ดี ยังมีทิศทางเชิงบวกของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งปีที่ผ่านมามีการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาด้าน AI มูลค่ากว่า 7,354.57 ล้านบาท หลักๆ ใช้ในเรื่องของการพัฒนาคน การจัดการด้านข้อมูล รวมถึงการวิจัยและพัฒนาด้านเทคโนโลยี ทั้งได้เห็นการเตรียมความพร้อมเรื่องการกำกับดูแล รองรับการใช้งานที่จะแพร่หลายในอนาคต

โดยภาพรวม การลงทุนไอทีในประเทศไทยยังมีแนวโน้มขยายตัว กลุ่มคอนซูเมอร์จะคึกคักได้มากขึ้นรับการมาของ AI PC และการเปลี่ยนเครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเดิม เช่นเดียวกับตลาดเอ็นเตอร์ไพรซ์ที่ AI ทำให้ภาคธุรกิจตื่นตัวที่จะลงทุนเพิ่มเติม รองรับการใช้งานในอนาคต

ส่วนของผู้ค้า ทุกวันนี้ธุรกิจด้านไอทีต่างพยายามเพิ่มน้ำหนักการทำตลาดไปที่เอ็นเตอร์ไพรซ์มากขึ้น โดยเฉพาะตลาดโซลูชัน เอไอ รวมถึงไฮบริดคลาวด์

แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนจะมาฉุดกำลังซื้อบางส่วนและทำให้ลูกค้าลังเล แต่ยังหวังว่าสถานการณ์ตลาดไอทีครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก และหากว่างบประมาณภาครัฐมีความชัดเจนทิศทางตลาดจะยิ่งถูกขับเคลื่อนไปในเชิงบวกมากขึ้น 

นอกจากนี้ อีกหนึ่งโอกาสของไทยและทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือการลงทุนดาต้าเซ็นเตอร์ของบิ๊กเทคต่างๆ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องช่วยกันเตรียมความพร้อมด้านโครงการพื้นฐานเพื่อดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาในประเทศ แต่ก็ต้องยอมรับว่าคู่แข่งของไทยมีพอสมควรด้วยความพร้อมที่อาจจะมากกว่าไทย

ปักธง ‘แพลตฟอร์ม คอมพานี’

สำหรับอินแกรมไมโคร จุดยืนธุรกิจมุ่งเป็น “แพลตฟอร์ม คอมพานี” ให้บริการ “ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ไอที โซลูชัน”  ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดไอที ปัจจุบันแบ่งการทำตลาดเป็น 3 กลุ่มหลักคือ 1. เอจคอมพิวติ้ง จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีแบบซื้อมาขายไป, 2. คอร์โซลูชัน ครอบคลุมทั้งเซอร์ฟเวอร์ สตอเรจ อินฟราฯ เน็ตเวิร์ก และซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร, และ 3. คลาวด์และไซเบอร์ซิเคียวริตี้โซลูชัน

ขณะเดียวกัน กำลังเพิ่มโฟกัสการทำตลาด AI อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มั่นใจว่ามีพอร์ตโฟลิโอที่ครอบคลุม ด้านแนวทางการตลาดมีการตั้งทีมเฉพาะเพื่อขายยูสเคสที่ตอบโจทย์ธุรกิจ ครอบคลุมทุกส่วนของอีโคซิสเทม พร้อมร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายไม่ได้ขายเพียงแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง

ล่าสุด อินแกรม ไมโคร ได้ประกาศความร่วมมือกับ 2 ผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับโลก "เอซุส" และ “เอ็นวิเดีย (NVIDIA)” ทำตลาด Generative AI โดยมุ่งนำเสนอแพลตฟอร์มและชิปประมวลผลขั้นสูง มาประกอบเป็น GPU SERVER ซึ่งเป็นสิ่งที่มาตอบโจทย์ Hyper Computing ขององค์กรในปัจจุบัน

“เราต้องการสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ในประเทศไทยสามารถนำ Generative AI ไปต่อยอดธุรกิจ พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทุกระดับทั้งภาครัฐ และเอกชน”

ผนึก 2 พันธมิตรบูม GenAI

เขากล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งความร่วมมืออันแข็งแกร่งจาก 3 ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก เพื่อแสดงนวัตกรรมแพลตฟอร์มประมวลผลแห่งยุค AI และการส่งมอบโซลูชันในกลุ่ม Hyper Computing ให้กับตลาดในประเทศไทย

โดยมีโจทย์สำคัญคือ เข้าไปช่วยยกระดับการบริหารจัดการธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถนำเสนอโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการใช้งานของตลาดในประเทศไทยได้อย่างเหมาะสมและรวดเร็ว

ผ่านผลิตภัณฑ์ประสิทธิภาพสูงของเอซุส และแพลตฟอร์ม NVIDIA AI Enterprise ที่มีความมั่นคง ปลอดภัย ซึ่งองค์กรสามารถสร้างสรรค์ซอฟต์แวร์ Generative AI หรือ LLM ตามที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว กลุ่มเป้าหมายหลักๆ คือ ธุรกิจการเงิน การธนาคาร การผลิต การศึกษา และการบริหารจัดการดาต้า

“อินแกรม ไมโคร ในฐานะโกลบอลพาร์ทเนอร์ มั่นใจอย่างมากว่ามีความพร้อมในการบุกตลาด AI และหลังจากนี้ยังมีแผนนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ระดับโลก มาสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง”

ปัจจุบัน มีการเตรียมความพร้อมด้านสินค้าและบริการ ทั้งก่อนและหลังการขายอย่างครบวงจร ภายใต้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ มีขั้นตอนการตรวจสอบชัดเจน ขณะเดียวกันช่วยกำกับดูแลให้เป็นไปตามที่มาตรฐานสากลกำหนด

จากขณะนี้รายได้จากกลุ่มคอนซูเมอร์มีสัดส่วน 50% องค์กร 50% มีโอกาสที่รายได้จากกลุ่มองค์กรจะขยับไปได้ถึง 70% ในอนาคตอันใกล้ ถ้าทำได้ดีอาจเกิดขึ้นได้ภายใน 1 ปี