จับตา Gen AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ พลิกโฉม Wealth Management
Gen AI มีศักยภาพในการพลิกโฉมธุรกิจ Wealth Management ทว่าไม่สามารถทำงานได้เพียงลำพัง ต้องบูรณาการร่วมกับเทคโนโลยีที่เหมาะสม
KEY
POINTS
- Gen AI มีศักยภาพในการพลิกโฉมธุรกิจ Wealth Management
- ยุคแห่งการส่งต่อความมั่งคั่งการนำ Gen AI มาปรับใช้ นับเป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างความได้เปรียบการแข่งขัน
- Generative AI สามารถมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้นักลงทุนรุ่นใหม่
มีตัวเลขคาดการณ์ว่า การส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นจะมีมูลค่ากว่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2573 ขณะเดียวกันส่งผลให้จำนวนนักลงทุนชนชั้นกลางที่มีฐานะดีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
โอมาร์ บาเชียร์ ผู้อำนวยการด้านเทคนิค ฝ่าย บริการทางการเงิน Thoughtworks ที่ปรึกษาด้านเทคโนโยลีชั้นนำ เปิดมุมมองต่อประเด็นนี้ว่า ทิศทางนี้ย่อมส่งผลต่อธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง และทำให้การบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะเมื่อคนมีความรู้และประสบการณ์มากขึ้น ความต้องการย่อมเปลี่ยนไป เกิดคำถามคือ “แล้วธุรกิจบริหารความมั่งคั่งจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร”
ดึง Gen AI ทลายข้อจำกัด
โอมาร์ เผยว่า เรื่องนี้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น Generative AI (Gen AI) ที่สามารถมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้นักลงทุนรุ่นใหม่ที่ได้รับการสืบทอดความมั่งคั่งจากคนรุ่นก่อนมา
ปัจจุบัน กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ทั้งกลุ่มรายได้สูงและกลุ่มคนมั่งคั่ง มีความหลากหลายสูงมาก พวกเขามักมองโลกแตกต่างจากคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ในอดีต คือแทบจะไม่ให้ความสำคัญกับการมีที่ปรึกษาการลงทุน ซึ่งแตกต่างจากนักลงทุนรุ่นก่อน
นอกจากนี้ กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ยังไม่ได้ต้องการแค่เรื่องผลตอบแทนจากการลงทุน แต่ยังสนใจการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคมต่างๆ
เช่น เรื่องสิ่งแวดล้อมหรือความยั่งยืน รวมถึงให้ความสำคัญมากขึ้นกับความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และการตอบสนองต่อประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นของบริษัท Wealth Management ที่ตัดสินใจเข้าไปลงทุนด้วย
แก้โจทย์นักลงทุนหลายเจน
สำหรับ ความท้าทายหลักๆ ของธุรกิจ Wealth Management คือ ต้องตอบสนองความคาดหวังต่างๆ ของนักลงทุนรุ่นใหม่ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นความไว้วางใจ ความโปร่งใส การส่งมอบคุณค่าให้ลูกค้า รวมถึงความพร้อมในการให้บริการ
“กลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่และกลุ่มคนมั่งคั่ง ต่างคาดหวังการมีปฏิสัมพันธ์กับบริษัทด้าน Wealth Management ผ่านช่องทางดิจิทัล ขณะที่กลุ่มนักลงทุนรุ่นเก่าและกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) ยังคงต้องการพูดคุยกับที่ปรึกษาด้านการลงทุนและผู้จัดการกองทุนอยู่”
ดังนั้น ความท้าทายอย่างแรกจึงเป็นเรื่องการตอบสนองความต้องการของนักลงทุนทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยหากต้องการครองใจนักลงทุนรุ่นใหม่และกลุ่มคนมั่งคั่ง การพัฒนาช่องทางดิจิทัลต่างๆ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ขณะที่ระบบการทำธุรกรรมก็ต้องมีความปลอดภัย สอดคล้องกับระเบียบข้อกำหนดต่างๆ ของหน่วยงานกำกับดูแล ท่ามกลางภัยไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับความท้าทายอย่างที่สองคือ การปรับปรุงระบบและเทคโนโลยีที่ล้าสมัย (Legacy System) รวมทั้งคุณภาพของข้อมูลและความพร้อมใช้งาน ซึ่งเป็นกระบวนการทรานส์ฟอร์มระบบธุรกิจที่ใช้เวลา สำหรับทีมผู้บริหารนั้น การปรับเปลี่ยนที่จะประสบความสำเร็จได้ จะต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และจัดลำดับความสำคัญโดยพิจารณาโครงการที่จะสร้างค่าคุณค่าให้ธุรกิจได้มากที่สุด
ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
ผู้นำในธุรกิจ Wealth Management ต่างตระหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า Gen AI สามารถยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นได้ โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล (Personalization) มากกว่านั้น โมเดล AI ร่วมกับปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบริการและการดำเนินงานได้ ดังนี้
เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการลูกค้า (Customer service) : Gen AI สามารถเพิ่มความรวดเร็วในการดูแลลูกค้า เช่น ข้อร้องเรียนและกรณีเกิดปัญหาต่างๆ
โดยเฉพาะปัญหาที่บริบทไม่ครบถ้วนเนื่องจากตกหล่นไประหว่างการส่งเรื่องผ่านขั้นตอนต่างๆ ทำให้ใช้ระยะเวลานานกว่าที่จะสามารถแก้ปัญหาได้ และส่งผลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดี ซึ่งประสบการณ์ผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นสิ่งที่นักลงทุนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ
“Gen AI สามารถเข้าไปดึงบริบทที่หายไปและนำไปรวมเข้ากับข้อมูลที่ได้จากเจ้าหน้าที่ ทำให้มีข้อมูลที่ครบสมบูรณ์และนำไปใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที”
สร้างพอร์ตลงทุนเฉพาะบุคคล
เสริมสร้างความรู้ทางการเงิน (Financial Literacy) : Gen AI สามารถช่วยนักลงทุนรุ่นใหม่ในการหาความรู้เกี่ยวกับหลักการทางการเงิน ทฤษฎีการลงทุน และให้คำปรึกษาด้านการเงินที่ตรงกับความสนใจและประวัติการลงทุน โดยผ่านการตรวจสอบความถูกต้อง และสอดคล้องกับกฎระเบียบ
การสร้างพอร์ตการลงทุนแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Portfolio) : Gen AI สามารถทำความเข้าใจและสรุปความต้องการของนักลงทุนได้จากข้อมูลที่มีอยู่ รวมทั้งให้คำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งมีการตรวจสอบและมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
จากผลลัพธ์ดังกล่าว ผู้ให้บริการด้าน Wealth Management สามารถนำไปเป็นข้อมูลประกอบการออกแบบพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย เช่น แนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ควรลงทุนเพิ่ม ค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา และนำข้อมูลไปวิเคราะห์ร่วมกับ Predictive AI เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของสินทรัพย์แต่ละประเภท
ปูทางความสำเร็จระยะยาว
เพิ่มความปลอดภัยและการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ (Compliance and Security) : Gen AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย และการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ โดยสอดคล้องกับกฎระเบียบและมีการแจ้งเตือนลูกค้าหากมีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
สรุปได้ว่า Gen AI มีศักยภาพในการพลิกโฉมธุรกิจ Wealth Management แต่ทั้งนี้ ไม่สามารถทำงานได้เพียงลำพัง ต้องบูรณาการร่วมกับเทคโนโลยีที่เหมาะสม แพลตฟอร์มข้อมูลที่เชื่อถือได้ และการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
รวมถึงเพิ่มความเชื่อมั่นว่า ผลลัพธ์จาก Gen AI จะลดความเสี่ยงทั้งทางการเงิน การปฏิบัติตามกฎระเบียบ รวมทั้งปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และประสิทธิภาพของธุรกิจ
ยุคแห่งการส่งต่อความมั่งคั่ง ไม่ใช่แค่นักลงทุนจะเปลี่ยนผ่านจากรุ่นหนึ่งมาสู่อีกรุ่นเท่านั้น ธุรกิจ Wealth Management เองต้องก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในแง่การเตรียมความพร้อมเพื่อตอบสนองความคาดหวังของนักลงทุนรุ่นใหม่
ดังนั้น การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง Gen AI มาปรับใช้ นับเป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ก้าวข้ามความท้าทายและขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จได้ในระยะยาว