'ดีอี' จ่อดึงบุรุษไปรษณีย์ 25,000 คน ช่วยยืนยันตัวตนรับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต'
ดีอีเรียกหน่วยงานสังกัดถกด่วน หลังรับโจทย์รัฐบาลช่วยเพิ่มช่องทางยืนยันตัวตนให้แก่ประชาชน โครงการดิจิทัล วอลเล็ต ล่าสุดจ่อดึงตัวบุรุษไปรษณีย์ไทย 25,000 คนที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ รู้จักบ้านประชาชนทุกหลัง ช่วยทำ KYC หวั่นประชาชนถูกหลอกจากลิ้งค์ปลอม
รายงานข่าวจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี เปิดเผยว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีดีอี ได้เรียกหน่วยงานในสังกัด อาทิ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ เอ็นที สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (เอ็ตด้า) มาหารือเกี่ยวกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านกระเป๋าเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต
โดยมีกระแสข่าวว่า ดีอีจะให้บุรุษไปรษณีย์ไทยที่กระจายอยู่ประเทศ 25,000 คน ช่วยประชาชนยืนยันตัวตนในระบบ KYC โดยเปิดลงทะเบียนให้สิทธิรับเงิน 1 สิงหาคม 2567 ทั้งนี้ ประชาชนสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีดีอี ออกมาเตือนประชาชนถึงการลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อรับเงินดิจิทัลวอลเล็ตว่า กระทรวงดีอีขอเตือนประชาชนผู้มีสมาร์ทโฟนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เท่านั้น อย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ หลอกลวงส่งลิงก์ หรือแพลตฟอร์มปลอมต่างๆ โดยอ้างว่าเป็นช่องทางการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงกา ดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งอาจส่งผลกระทบทำให้เกิดการหลุดรอดของข้อมูลส่วนบุคคล หรือสูญเสียทรัพย์สินได้ หรือหากมีการส่งต่อ แชร์ลิงก์ปลอมดังกล่าวไป อาจส่งผลให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างต่อประชาชนในสังคม
ทั้งนี้ การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตามกำหนด แยกเป็นกลุ่มลงทะเบียน 3 กลุ่มได้แก่
1.ประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ทโฟน เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567
2.ประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567
3.ร้านค้า เบื้องต้นเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป
และจะเริ่มใช้จ่ายสินค้าด้วยเงินดิจิทัลได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2567
สำหรับคุณสมบัติของประชาชนผู้เข้าร่วมโครงการ มีดังนี้
- สัญชาติไทย มีชื่อและที่อยู่ในทะเบียนบ้าน
- อายุ 16 ปีขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 กันยายน 2567)
- เป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี (นับตามปีภาษี 2566)
- เงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท เป็นเงินฝาก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
- ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ
ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน สามารถดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” โดยไม่มีการจำกัดจำนวน ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการประชาชนเข้าร่วมโครงการไว้จำนวน 45 - 50 ล้านคน ขณะเดียวกันประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” พร้อมลงทะเบียนยืนยันตัวตน สมัครใช้งานแอปพลิเคชันได้ก่อนล่วงหน้า เพื่อความสะดวก และรวดเร็ว ก่อนที่จะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต ในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 ต่อไป