‘จีน’ ครองแชมป์สิทธิบัตร Gen AI 'เทนเซ็นต์’ ยักษ์อินเทอร์เน็ตมีมากสุด
WIPO เปิดข้อมูล "สิทธิบัตรปัญญาประดิษฐ์" หรือ เอไอ โดยเฉพาะ “เอไอรู้สร้าง” หรือที่เรียกกันว่า “เจเนอเรทีฟ เอไอ” (Generative AI : GenAI) ที่กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญพลิกโฉมโลกและธุรกิจ ข้อมูลเดือน เม.ย.2567 พบว่า “จีน” เป็นประเทศที่ครองสิทธิบัตร GenAI มากที่สุด
“องค์การทรัพย์สินทางปัญญาแห่งโลก” หรือ “ไวโป” (WIPO) เปิดข้อมูล "สิทธิบัตรปัญญาประดิษฐ์" หรือ เอไอ โดยเฉพาะ “เอไอรู้สร้าง” หรือที่เรียกกันว่า “เจเนอเรทีฟ เอไอ” (Generative AI : GenAI) ที่กำลังกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญพลิกโฉมโลกและธุรกิจ ข้อมูลเดือน เม.ย.2567 พบว่า “จีน” เป็นประเทศที่ครองสิทธิบัตร GenAI มากที่สุด
บริษัทเทนเซ็นต์ (Tencent) ยักษ์อินเทอร์เน็ตแดนมังกร ครอบรองสิทธิบัตร GenAI ไว้มากที่สุดถึง 2,074 สิทธิบัตร เทนเซ็นต์ วางแผนที่จะเพิ่มความสามารถ GenAI ให้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เช่น WeChat เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้
รองลงมา คือ บริษัทผิงอัน อินชัวรันซ์ กรุ๊ป ครอบครอง 1,564 สิทธิบัตร ผิงอัน มุ่งเน้นไปที่โมเดล GenAI สำหรับธุรกิจประกันและการประเมินความเสี่ยง บริษัทไป่ตู้ ครอบครอง 1,234 สิทธิบัตร ไป่ตู้ ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นรายแรกๆ ของ GenAI และเพิ่งเปิดตัวแชทบอท AI ที่ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ หรือ LLM ตัวล่าสุด ERNIE 4.0
ขณะที่ ไชนีส อคาเดมี ออฟ ไซอันซ์ องค์กรวิจัยของจีน ตามมาเป็นอันดับ 4 ส่วนบริษัทจีนรายอื่นๆ ที่ติดอยู่ใน 10 อันดับ เช่น อาลีบาบา และ ไบต์แดนซ์
ไอบีเอ็ม ยักษ์เทคโลกติดอันดับ 5 ครอบครองสิทธิบัตร GenAI จำนวน 601 สิทธิบัตร ไอบีเอ็มพัฒนาแพลตฟอร์ม GenAI ชื่อ watsonx (วัตสันเอ็กซ์) ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปรับใช้ และปรับแต่งโมเดลภาษาขนาดใหญ่เน้นการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของข้อมูล
ขณะที่ “อัลฟาเบท” ของ กูเกิล และไมโครซอฟท์ ยักษ์เทคชั้นนำของสหรัฐ ต่างครอบครองสิทธิบัตร GenAI มากกว่า 400 สิทธิบัตร ดีปมายด์ (DeepMind) ซึ่งเป็นแผนก AI ของ อัลฟาเบท/กูเกิล เพิ่งเปิดตัวเจมิไน (Gemini) โมเดล LLM ล่าสุด ซึ่งกำลังถูกผนวกรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการของอัลฟาเบท/กูเกิล
สำหรับไมโครซอฟท์ นับเป็นผู้เล่นหลักอีกรายในสมรภูมิ GenAI และเป็นผู้ลงทุนในโอเพ่น เอไอ (OpenAI) โดย OpenAI เพิ่งยื่นจดสิทธิบัตร GenAI ฉบับแรกไปเมื่อไม่นานมานี้
ส่วน เทคโนโลยี GenAI ถูกคิดค้นขึ้นมากที่สุดที่ใดนั้น อันดับ 1 คือที่ จีน รองลงมา คือ สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐเกาหลีญี่ปุ่น อินเดีย สหราชอาณาจักร และเยอรมนี